xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ประณามรัสเซียทิ้งบอมบ์ รพ.ผดุงครรภ์ในยูเครน มอสโกโต้ไม่ได้เล็งเป้าถล่มพลเรือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหรัฐฯ ในวันพุธ (9 มี.ค.) ประณามการทิ้งระเบิดถล่มโรงพยาบาลเด็กและผดุงครรภ์แห่งหนึ่งในยูเครน ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียฝังร่างคนไข้อยู่ใต้ซากปรักหักพัง แม้มีข้อตกลงหยุดยิงที่เปิดทางให้ประชาชนหลบหนีอกจากเมืองมาริอูโปล ที่ถูกปิดล้อม

การโจมตีดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าทำให้ผู้หญิงหลายคนในห้องคลอดได้รับบาดเจ็บและเด็กหลายคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง คือเหตุการณ์เศร้าหมองล่าสุดในปฏิบัติการรุกรานเข้าสู่วันที่ 14 ของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการโจมตีรัฐหนึ่งของยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1945

ปฏิบัติการทำลายล้างยังเกิดขึ้นแม้ว่ารัสเซียให้คำสัญญาหยุดยิง อย่างน้อยๆ ก็เพื่อเปิดทางพลเรือนที่ติดอยู่ท่ามกลางการสู้รบบางส่วนหลบหนีออกจากเมือง ในขณะที่ประชาชนหลายแสนคนของเมืองแห่งนี้ต้องหลบภัยโดยปราศจากไฟฟ้าใช้ หรือพลังงานอื่นๆ มานานกว่า 1 สัปดาห์

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านรอยเตอร์ ว่า "กองกำลังรัสเซียไม่ได้ยิงใส่เป้าหมายพลเรือน" ทั้งนี้ รัสเซียเรียกการรุกรานของตนเองว่า "ปฏิบัติการพิเศษ" เพื่อปลดอาวุธเพื่อนบ้านและขับไล่พวกผู้นำนีโอนาซี

กระทรวงการต่างประเทศยูเครนโพสต์วิดีโอในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าหน้าต่างอาคารสูง 3 ชั้นของโรงพยาบาลกลายเป็นรูโหว่ และมีกองเศษซากขนาดใหญ่ไปยังระอุอยู่กระจัดกระจายทั่วจุดเกิดเหตุ


"มันน่าสยดสยองที่ได้เห็นรูปแบบการใช้กำลังทหารอันป่าเถื่อนไล่ล่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในประเทศอธิปไตยหนึ่งๆ" เจน ซากิ โฆษกทำเนียบขาวระบุ ส่วนหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเผยว่า เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังของพวกเขากำลังตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

"เหตุการณ์นี้ก่อความกังวลแก่พวกเรามากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการใช้อาวุธแบบสุ่มในพื้นที่ประชากรพักอาศัยหนาแน่น และมีพลเรือนติดอยู่ตามสถานพยาบาลต่างๆ ในหลายพื้นที่" โฆษกของหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติกล่าว

ผู้ว่าการเขตโดเนตสก์ บอกว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 คนในเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนสภาเมืองเสริมว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกโจมตีทางอากาศหลายครั้ง ซึ่งก่อความเสียหายเลวร้าย

ยูเครนกล่าวหารัสเซียละเมิดข้อตกลงหยุดยิงแถวเมืองท่าทางใต้ของประเทศ "การยิงระเบิดอย่างไม่เจาะจงยังคงเกิดขึ้นไม่หยุด" ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนเขียนบนทวิตเตอร์

ทั้งนี้ ยูเครนบอกว่ามีเด็ก 67 คนเสียชีวิตทั่วประเทศนับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้น และมีพลเรือนอย่างน้อย 1,170 คนเสียชีวิตในมาริอูโปล อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์คำกล่าวอ้างนี้

Maxar บริษัทภาพถ่ายดาวเทียมระบุว่าภาพถ่ายต่างๆ เผยให้เห็นความเสียหายใหญ่หลวงของบ้านเรือนประชาชน อาคารอพาร์ตเมนต์ ร้านขายของชำ และศูนย์การค้าต่างๆ ในมาริอูโปล

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า มีพลเรือนบางส่วนเดินทางออกจากหลายเมืองของยูเครนผ่านแนวกันชนด้านความปลอดภัย ในนั้นรวมถึงที่เมืองซูมี ทางภาคตะวันออก และเมืองอแนร์โฮดาร์ ทางภาคใต้ แต่กองกำลังรัสเซียขัดขวางรถบัสที่กำลังอพยพประชาชนออกจากเมืองบูชา เมืองที่อยู่รอบนอกกรุงเคียฟ

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวโทษยูเครนต่อความล้มเหลวในการอพยพประชาชน

ความพยายามทางการทูตยังคงเดินหน้าต่อไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีหวังไม่มากนัก


เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียเดินทางถึงตุรกีแล้ว ก่อนหน้าการเจรจากับ คูเลบา ที่กำหนดไว้ในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) ในการพบปะกันครั้งแรกของทั้งคู่นับตั้งแต่เกิดการรุกราน

คูเลบา เผยว่า ยูเครนต้องการข้อตกลงหยุดยิง ปลดปล่อยดินแดนต่างๆ ของพวกเขาและคลี่คลายประเด็นด้านมนุษยธรรมทุกกรณี พร้อมบอกว่า "พูดตรงๆ เลย ผมคาดหวังกับการเจรจาครั้งนี้ในระดับต่ำ"

มอสโกแสดงจุดยืนในข้อเรียกร้องต่างๆ ในนั้นขอให้เคียฟยอมรับสถานะเป็นกลางและเลิกความพยายามเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรนาโต้ แลกกับการยุติปฏิบัติการโจมตี

หัวหน้าหน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์ของสหประชาชาติก็บินไปยังตุรกีเช่นกัน บ่งชี้ว่าเขาจะเข้าหารือด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ กับทั้งลาฟรอฟ และคูเลบา

ผลกระทบทางมนุษยธรรม ในนั้นรวมถึงประชาชนมากกว่า 2 ล้านคนที่ลี้ภัยออกจากยูเครนและความเสียหายต่อทรัพย์สินยังคงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในวันพุธ (9 มี.ค.) นับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในขณะที่ชาวบ้านหลายหมื่นคนยังคงไหลบ่าสู่บรรดาประเทศเพื่อนบ้านอย่างไม่ขาดสาย

คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เผยว่าบ้านเรือนประชาชนเหลือแต่ซากทั่วยูเครน "ประชาชนหลายแสนคนไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ ไม่มีเครื่องทำความร้อน ไม่มีไฟฟ้า และไม่ได้รับการดูแลทางการแพทย์"

กองกำลังรัสเซียสามารถยึดครองดินแดนต่างๆ ตามแนวชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน และเวลานี้มีการสู้รบเกิดขึ้นในแถบชานเมืองกรุงเคียฟ ส่วนในคาร์คิฟ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศถูกทิ้งระเบิดโจมตีอย่างหนัก

การจู่โจมของกองกำลังรัสเซียหยุดชะงักในทางตอนเหนือของกรุงเคียฟ และบรรดาชาติตะวันตกเชื่อว่าเครมลินได้ปรับแผนมุ่งหน้าสู่การโค่นล้มรัฐบาลอย่างรวดเร็ว หลังต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างดุเดือด

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น