รัสเซียเดินหน้าทิ้งบอมบ์ถล่มเมืองต่างๆ ของยูเครนในวันพุธ (16 มี.ค.) จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครน แม้มีการพูดถึงท่าทีประนีประนอมจากทั้งมอสโกและเคียฟในการาเจรจาสันติภาพ หลังสงครามลากยาวมานานกว่า 3 สัปดาห์ ในนั้นรวมถึงข้อเสนอของมอสโกที่ต้องการให้เคียฟวางตัวเป็นกลาง มีสถานะเหมือนสวีเดนหรือออสเตรีย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บอกว่ามอสโกพร้อมหารือเกี่ยวกับสถานะเป็นกลางสำหรับประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ แต่บอกว่าจะยังคงเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายปฏิบัติการของพวกเขา ซึ่งผู้นำรายนี้บอกว่า "กำลังเป็นไปตามแผน"
อย่างไรก็ตาม ปูติน ยอมรับว่ามาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานรัสเซียต่อพฤติกรรมของพวกเขานั้นกำลังสร้างความเจ็บปวด เขาบอกว่าอัตราเงินเง้อและตัวเลขคนว่างงานจะพุ่งสูง และจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ
ในวอชิงตัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประณาม ปูติน ว่าเป็น "อาชญากรสงคราม" และบอกว่าสหรัฐฯ ไม่เห็นรัสเซียมีความเคลื่อนไหวใดๆ ที่บ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างเจ้าหน้าที่รัสเซียและยูเครน จากการเปิดเผยของ เจน ซากิ โฆษกทำเนียบขาว
ก่อนหน้านี้ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เผยว่าการเจรจาระหว่างมอสโกกับเคียฟนั้นกำลัง "มีความเป็นจริงมากขึ้นเรื่อยๆ" และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุวข้อเสนอต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การพูดคุยหารือนั้น "ใกล้ได้ข้อตกลงแล้ว"
ในวันที่ 21 ของความขัดแย้ง กองกำลังรัสเซียยังคงเดินหน้าบอมบ์เมืองต่างๆ ที่ถูกปิดล้อม ในนั้นรวมถึงยิงระเบิดโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน
สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟอ้างว่ากองกำลังรัสเซียยิงประชาชนที่ต่อแถวรอรับขนมปังเสียชีวิต 10 ราย ในเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ภาพข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐยูเครนพบเห็นศพกระจัดกระจายอยู่บนท้องถนน
สำนักงานอัยการสูงสุดยูเครนบอกว่า พวกเขาได้เปิดการสืบสวนในเรื่องนี้แล้ว แต่ทางรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีและบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นการจัดฉาก
หน่วยฉุกเฉินเผยว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างไร้วิญญาณ 5 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 3 คน ระหว่างตรวจค้นอาคารที่พักอาศัยทั้งหลายที่ถูกยิงระเบิดถล่ม ในเมืองเชอร์นิฮิฟ
ในมาริอูโพล เมืองทางใต้ที่ถูกปิดล้อม สภาเมืองเผยว่ากองกำลังรัสเซียทิ้งบอมบ์ใส่โรงละครแห่งหนึ่งซึ่งพลเรือนใช้เป็นที่หลบภัย อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
กระทรวงกลาโหมรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีทางอากาศถล่มโรงละคร และทางสำนักข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างดังกล่าวของสภาเมือง
ผู้ว่าราชการเขตซาโปริซเซีย อ้างว่ากองกำลังรัสเซียยิงปืนใหญ่ใส่ขบวนผู้อพยพที่กำลังเดินทางออกจากเมืองมาริอูโพล ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย และทหารยูเครนระบุว่าในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านเสียชีวิตอีก 3 รายและบาดเจ็บ 5 คน หลังกระสุนปืนใหญ่ก่อให้เกิดไฟไหม้ที่ตลาดแห่งหนึ่งในเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออก เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของยูเครน จากการเปิดเผยของหน่วยฉุกเฉิน
ไอรีนา เวเรชชุค รองนายกรัฐมตรียูเครน เผยว่ามีคนไข้และเจ้าหน้าที่ 400 รายถูกกองกำลังรัสเซียจับเป็นตัวประกันในเมืองมาริอูโพลในวันอังคาร (15 มี.ค.) แต่รัสเซียเน้นย้ำอีกครั้งว่าพวกเขาไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานพลเรือน
ทหารรัสเซียหยุดชะงัยอยู่ที่หน้าปากประตูทางเข้ากรุงเคียฟ หลังประสบความสูญเสียอย่างหนักและล้มเหลวในการยึดเมืองหลักในสงครามที่ทางตะวันตกเชื่อว่ามอสโกคาดหวังว่าจะได้รับชัยชนะภายในไม่กี่วัน
แม้การโจมตีในภาคสนามยังเป็นไปอย่างดุเดือด แต่อีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุว่าการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียมีแนวโน้ม “เป็นไปได้จริง” มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงต้องใช้เวลา
ส่วน เครมลิน เผยว่าคณะผู้แทนเจรจากำลังหารือกันเกี่ยวกับสถานะของยูเครน คล้ายกับออสเตรียหรือสวีเดน ซึ่งต่างเป็นสมาชิกสภาพยุโรป แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนาโต้
หัวหน้าผู้แทนเจรจาของยูเครนเผยว่าเคียฟยังคงเรียกร้องข้อตกลงหยุดหยิง และการถอนทหารของรัสเซีย เป็นคำรับประกันท่าทีแห่งความประนีประนอมที่ช่วยคลายกังวลแก่ตลาดทุนทั่วโลก
ในสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เซเลนสกีระบุในวันอังคาร (15 มี.ค.) ว่ายูเครนอาจยอมรับการรับรองความมั่นคงจากตะวันตก ที่ไม่รวมถึงการเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้)
การกีดกันยูเครน ออกจากพันธมิตรทหารนาโต้เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องหลักของรัสเซีย ก่อนที่ ปูติน จะสั่งเปิดฉากในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" เพื่อปลดอาวุธประเทศเพื่อนบ้าน
"เวลานี้สถานะเป็นกลางอยู่ในการหารืออย่างจริงจัง เช่นเดียวกับคำรับประกันด้านความมั่นคง" เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าว "แน่นอนว่ามันเป็นสูตรที่พิเศษ และในมุมมองของผมคือ ใกล้บรรลุข้อตกลงกันแล้ว"
วลาดิมีร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐว่า "ยูเครนกำลังเสนอเวอร์ชันรัฐปลอดทหารที่เป็นกลาง แบบเดียวกับออสเตรียและสวีเดน แต่ขณะเดียวกัน เป็นรัฐหนึ่งที่มีกองทัพบกและกองทัพเรือของตนเอง"
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของเครมลินบอกว่าแนวคิดนี้ "สามารถมองได้อย่างแท้จริง ว่าเป็นการประนีประนอม"
ออสเตรียและสวีเดน เป็นชาติใหญ่ที่สุดใน 6 รัฐสมาชิกของอียูที่ไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต้ และทั้ง 2 ชาติมีกองทัพขนาดเล็กที่ประสานงานความร่วมมือกับนาโต้
มีคาอิโล โพโดลยัค หัวหน้าคณะเจรจาของยูเครน เผยว่า เคียฟกำลังหาทางเจรจาโดยตรงระหว่างเซเลนสกี กับปูติน และบอกว่าทั้งสองอาจมีการพบปะกันเมื่อข้อตกลงขั้นสุดท้ายได้ข้อสรุปแล้ว
(ที่มา : รอยเตอร์)