ยกนี้-ยังไงปูตินก็ชนะ

ไม่ว่าจะออกหน้าไหน รัสเซียก็มีแต่ชนะ เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น

ถ้ามาก-ปูตินก็จะได้คำมั่นว่า จะไม่มีการรับยูเครนเข้านาโตขณะนี้ หรือในอนาคตอันใกล้

หรือในอนาคตอันไกล อาจเป็น 10 ปีที่เหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปมาก ขณะที่พันธมิตรรัสเซียและจีนกำลังเป็นหลังอิงซึ่งกันและกัน และพัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งเทคโนโลยีที่จะแซงหน้าสหรัฐฯ และยุโรปไปหลายขุม; ขณะที่สหรัฐฯ กำลังเตี้ยลงๆ หลังจากผ่านศึกเศรษฐกิจฟองสบู่แตกครั้งแล้วครั้งเล่า (Boom and Bust Cycle) และบ้านเมืองแตกสามัคคีหนัก; ซึ่งมาจากต้นเหตุของความเกลียดชัง ชิงชังในสีผิว และความมั่งคั่งกับความยากจน...ที่ส่วนบนของตัวอักษร K จะยิ่งถ่างออกจากส่วนล่างของตัว K ออกไปทุกที

ถ้าน้อย-ปูตินก็จะได้แคว้นกันชนดอนบาสที่มี 2 จังหวัด (ลูฮานสก์ และโดเนตสก์) เข้ามาผนวกอยู่กับรัสเซีย

และอาจเกิดแรงขย่มรัฐบาลนิยมสหภาพยุโรปที่เคียฟให้เปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลที่นิยมมอสโกก็เป็นได้ ซึ่งรัสเซียก็เคยมีอิทธิพลต่อเคียฟจนกระทั่งมาถึงการรัฐประหาร (ที่ตะวันตกเป็นฝ่ายหนุนหลัง) ในปี 2014 ซึ่งทำให้ปูตินตัดสินใจส่งทหารรัสเซีย (ที่ถอดเครื่องแบบรัสเซียออกหมด) และอาวุธหนักไปช่วยฝ่ายแบ่งแยกดินแดนที่ดอนบาส จนคาราคาซังมาถึงขณะนี้

และได้กดดันจนสามารถผนวกแหลมไครเมียเข้ามาอยู่ใต้รัสเซียได้สำเร็จ โดยไม่เสียเลือดเนื้อ

คงไม่ผิดที่ปูตินจะมองว่า การขยายตัวของนาโตจนมาจ่อหน้ารั้วของรัสเซีย จะคุกคามความมั่นคงของรัสเซีย เพราะถ้ายูเครนเข้าเป็นสมาชิกของนาโต จะเปิดทางให้ฝ่ายตะวันตก (นำโดยสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ) สามารถติดตั้งขีปนาวุธร้ายแรง (เช่น จรวดที่มีหัวรบเป็นปรมาณู) ในดินแดนยูเครน และสามารถถล่มรัสเซียได้ง่ายดาย ทำให้รัสเซียนอนไม่หลับสนิทแน่...เพราะขณะนี้...ดินแดนที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของโซเวียตก็ทยอยเข้าเป็นสมาชิกของทั้งสหภาพยุโรป และนาโตกันแทบหมดสิ้น

นักวิเคราะห์บางคนถึงกับมองว่า การที่ตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ และกองบัญชาการนาโต ทยอยส่งอาวุธร้ายแรง (ต่อสู้รถถังของรัสเซีย) รวมทั้งกองทหารบางส่วน (แม้ยังไม่มากนัก) ทำท่าขึงขังจะสู้กับการบุกของรัสเซีย (ถ้ารัสเซียจะบุกยูเครน) ก็เพราะตะวันตกกำลังจะฉวยโอกาสจะรุกกลับรัสเซีย เพื่อชิงเอาดินแดนไครเมียกลับออกมาจากรัสเซียด้วยซ้ำ! เห็นได้จากการปั่นกระพือข่าวว่า รัสเซียบุกแน่, บุกก่อนกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวจะจบลง (วันที่ 20 กุมภาฯ) ด้วยซ้ำ เพื่อเปิดทางสร้างความชอบธรรมต่อชาวโลกว่า ถ้ารัสเซียบุกจริง ตะวันตกจะตอบโต้อย่างรุนแรงมากกว่าการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เพื่อฉวยโอกาสชิงไครเมียคืนมา

ทำไมปูตินจะไม่รู้ว่าตะวันตกคิดอย่างไร?

ตะวันตกพยายามปั่นเรื่องรัสเซียจะบุกยูเครน ถึงขนาดโฆษกเพนตากอน (อดีตนายพลทหารเรือ-(จอห์น เคอร์บี ลงทุนบอกว่า รัสเซียจะจัดฉาก (Fabicate หรือ False flag-คือชักธงเท็จส่งสัญญาณผิดๆ) ว่าทหารภายใต้นาโตได้บุกโจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จนทำให้ทหารรัสเซียตายจำนวนหนึ่ง จะทำเป็นวิดีโอข่าวออกมาเผยแพร่ ซึ่งเป็นการแสดงเท่านั้น เพื่อรัสเซียจะใช้เป็นข้ออ้างชอบธรรมที่จะตอบโต้ด้วยการบุกยูเครน

ทั้งๆ ที่รัสเซียก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่า ไม่บุกยูเครน ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนก็มองว่า รัสเซียคงไม่บุกยึดยูเครนทั้งหมด เพราะจะเกิดสงครามกลางเมืองที่ทหารรัสเซียจะต้องสูญเสีย ส่งเป็นถุงศพ (Body Bags) กลับรัสเซีย อันจะทำให้ปูตินเสียคะแนนนิยมเปล่าๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่อัฟกานิสถานที่รัสเซียบุกเข้าไปพยายามยึดครองก็จะเกิดอาการซ้ำรอย...คือ รัสเซียจะจมปลักอยู่ในยูเครนในสงครามกลางเมือง เป็นเวลายาวนาน...และการบุกเข้าไปจะง่ายมาก แต่เวลาถอนออกมาจะยากมาก มันจะเป็นหลุมดำที่ดูดเอาไว้นานทีเดียว

สู้ยกพลจำนวนมากไปประชิดพรมแดนทำทีซ้อมรบหรือมีแสนยานุภาพมากพอจะบุกยูเครน แล้วอ้างความชอบธรรมว่า ต้องมา “ซ้อมรบ” เพราะยูเครนมีการซ่องสุมไพร่พลและอาวุธมากมายก่อน

แล้วเมื่อยูเครนเองเป็นฝ่ายระดมความช่วยเหลือทั้งไพร่พลและอาวุธจากนาโต ก็เปิดช่องให้ประเทศต่างๆ ในยุโรป ที่ไม่ต้องการเห็นยุโรปเป็นสนามรบเช่นครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็รีบหาทางเจรจาต่อรองกับรัสเซีย ซึ่งก็เข้าทางรัสเซียทันที...คือ...แค่ยกกำลัง “ซ้อมรบ” ขู่ และไม่มีการบุกยึดยูเครนจริงๆ ก็ไม่มีสงคราม แต่รัสเซียก็สามารถกดดันเจรจาในสิ่งที่ตนต้องการ...คือ...คำมั่นหรือการประวิงเวลาเพื่อไม่ให้ยูเครนที่เป็นรัฐกันชนสำคัญของรัสเซีย (กับสหภาพยุโรปและนาโต) กลายเป็นเบี้ยให้นาโตที่สามารถคุกคาม

และอย่างที่ปูตินได้ย้ำ ขณะแถลงข่าวร่วมกับนายกฯ (คนใหม่) ของเยอรมนีว่า รัสเซียไม่ต้องการสงคราม แต่ต้องการเจรจาเรื่องการติดตั้งขีปนาวุธร้ายแรงของนาโตใกล้ชายแดนรัสเซีย

รวมทั้งที่ ปธน.มาครงของฝรั่งเศส (และเป็นประธานของสหภาพยุโรปขณะนี้) ได้ตอกย้ำกับปูตินอย่างเห็นอกเห็นใจว่า “ความมั่นคงของรัสเซียคือ ความมั่นคงของยุโรป” เช่นกัน

ปูตินไม่ต้องลงทุนทำสงครามกับนาโตให้ต้องเสียชีวิตทหารรัสเซีย เพียงแต่ซ้อมรบใหญ่ที่ชายแดนก็พอเพียง สำหรับทำให้เกิดการเจรจาต่อรอง จนเขาจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการนั่นเอง