‘ไบเดน’ ขู่ ‘ปูติน’ รายวัน

ผู้นำทำเนียบขาว โจ ไบเดน ยังคงขู่ฟ่อๆ ให้ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ฟังแทบจะเป็นรายวันว่าอย่าบุกยูเครน ไม่อย่างนั้นจะเจอดีแน่ ด้วยมาตรการคว่ำบาตร ทำให้ลำบากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขู่มาแล้วกี่ครั้ง ชาวบ้านขี้เกียจจำ

คำขู่ล่าสุด เกิดขึ้นหมาดๆ หลังจากไบเดนเจรจาผ่านฮอตไลน์ กับผู้นำรัสเซีย คุยกันนานประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่มีอะไรคืบหน้ากว่าที่เป็นอยู่ จึงขู่ซ้ำเรื่องคว่ำบาตรหนัก คราวนี้ก็ย้ำเหมือนเดิมว่ามาตรการคว่ำบาตรจะเฉียบขาด รวดเร็ว รุนแรง

ขู่จนไม่รู้ว่าผู้นำหมีขาวกลัวหรือเปล่า ที่เห็นก็คือมีแต่เสริมกำลังทหารรอบยูเครน ฝ่ายที่แตกตื่นก็คือสหรัฐฯ และพันธมิตรในกลุ่มประเทศสมาชิกนาโต

นอกจากคำขู่เรื่องคว่ำบาตรรุนแรงแล้ว ไบเดน ยังป่าวร้องว่า “รัสเซียจะบุก” วันนั้นวันนี้ ลากยาวมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว อ้างว่ารัสเซียจะส่งทหารบุกยูเครนเดือนมกราคม เมื่อรัสเซียไม่บุก ก็ประโคมข่าวอีกว่ารัสเซียจะบุกในเดือนกุมภาพันธ์

นี่ก็ย่างเข้ากลางเดือนกุมภาพันธ์ สัปดาห์ก่อนก็โวยวายว่ารัสเซียจะบุกยูเครนในอีก 2 สัปดาห์ ล่าสุด ไบเดนและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ บอกอีกว่า “รัสเซียจะบุกยูเครนเวลาไหนก็ได้” ทำให้ปูตินเบื่อ และต้องปฏิเสธซ้ำซากว่าจะไม่บุกยูเครน

ล่าสุด เย็นวันอาทิตย์ รัสเซียโต้กลับอีกว่าสหรัฐฯ ออกอาการตีโพยตีพายเกินไป!

นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้สหรัฐฯ สั่งให้เจ้าหน้าที่สถานทูตบางส่วนเดินทางออกจากยูเครน และบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษก็เป็นคอหอยกับลูกกระเดือก สั่งให้เจ้าหน้าที่ทูตกลับบ้าง และก็มีส่วนช่วยไบเดนประโคมข่าวเรื่องรัสเซียบุกบ่อยครั้ง

เมื่อรัสเซียไม่บุก คราวนี้ทั้งไบเดนและจอห์นสันยกระดับการประโคมข่าวด้วยการสั่งให้คนของตัวเองเร่งอพยพออกจากยูเครน อ้างว่ารัสเซียอาจบุกเวลาไหนก็ได้

ที่ผ่านมาสหรัฐฯ อ้างรายงานจากสำนักข่าวกรอง แต่การบุกก็ไม่เกิดขึ้น

คราวนี้พวกฝรั่งเช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย และยุโรปให้คนชาติเดียวกันเร่งออก ที่น่าตื่นเต้นก็คือ ไบเดนสำทับคนอเมริกันในยูเครนว่า ถ้าเกิดการสู้รบมีคนอเมริกันตกค้างในยูเครน รัฐบาลจะไม่ส่งทหารเข้าไปช่วยอพยพ คนชาติอื่นก็ตื่นเต้น

นั่นคือจะไม่ส่งกำลังไปช่วยขนคนหนีภัยจากกองกำลังตอลิบานเหมือนที่ทำในอัฟกานิสถานในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ช่วงที่ตอลิบานยึดประเทศได้ ครั้งนั้นสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินและทหารไปช่วยคนอเมริกันออกจากกรุงคาบูลได้หลายพันคน

ไบเดนอ้างว่าถ้าส่งทหารเข้าไปในยูเครนช่วยอพยพคน เกิดปะทะกับทหารรัสเซีย นั่นเท่ากับเป็นการเปิดฉากของสงครามโลกครั้งที่ 3

คำถามก็คือ ถ้ารัสเซียบุกเข้ายูเครนจริง และไม่ลามไปประเทศอื่นๆ สหรัฐฯ จะทำอย่างไร กลุ่มนาโตจะส่งทหารเข้าไปในยูเครนหรือไม่ เพราะไม่ใช่สมาชิกนาโต

ถ้าลามไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันออกและตะวันตก จะเป็นการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหัวหอกของนาโต

ดังนั้น ช่วงนี้ไบเดนประกาศว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครน เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้าและการปะทะ เพราะยูเครนไม่อยู่ในกลุ่มสนธิสัญญานาโต สหรัฐฯ เพียงส่งทหารไปในประเทศอื่นๆ เช่น โปแลนด์ โรมาเนีย นอกจากกองกำลังที่ประจำนาโต

นาโตมีกำลังทหารจากประเทศสมาชิก 4 หมื่นคน นอกเหนือจากกองทัพของแต่ละประเทศ ขณะที่รัสเซียมีทหารอยู่ชายแดนติดกับยูเครนมากถึง 1 แสนคน และพยายามเสริมกำลังโดยตลอด รวมทั้งการส่งทหารไปซ้อมรบในเบลารุส

โดยสภาพแล้วยูเครนถูกล้อมโดยทหารรัสเซีย 3 ด้าน ด้านเหนือคือเบลารุส ตอนใต้ในมอลโดวา ทิศตะวันออกคือพรมแดนติดกับรัสเซีย ทำให้กระดิกตัวลำบาก

ล่าสุด ทางออกด้านทะเลอะซอฟ และทะเลดำก็โดนกองทัพเรือรัสเซียปิดล้อมโดยอ้างการซ้อมรบ เท่ากับปิดทางออกด้านทะเลของยูเครน เปิดไว้ด้านตะวันตกซึ่งมีพรมแดนติดกับโปแลนด์ และทหารนาโตสามารถส่งกำลังเข้าไปช่วยยูเครนได้

แต่ที่ผ่านมา ฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ได้พูดถึงการรบ เอาแค่การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

ไม่มีใครเดาใจปูตินได้ว่าจะบุกเข้ายูเครนหรือไม่ เพียงแต่การคาดคะเนเท่านั้นว่าการวางกองกำลังมากถึงกว่า 1 แสนคนเป็นเวลา 3-4 เดือน ก็ต้องหวังผลเพื่อการรบ แต่ก็มีคนมองว่ารัสเซียต้องการกดดันยูเครน บรรลุความต้องการของตัวเอง

รัสเซียยืนยันโดยตลอดว่าจะไม่บุกยูเครน แต่ไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าไปร่วมกับนาโตเพราะจะเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย เพราะสหรัฐฯ สามารถเอาขีปนาวุธเข้าไปติดตั้งได้ เหมือนอย่างที่มีฐานทัพในตุรกี แต่สหรัฐฯ ก็มองว่ารัสเซียจะไม่ทำเพียงแค่นั้น

มาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ และพันธมิตรนาโตขู่ก็คือการปิดกั้นทางเศรษฐกิจทุกด้าน ไม่ให้รัสเซียค้าขายติดต่อธุรกิจกรรมการค้า การเงิน โดยเฉพาะการใช้เงินดอลลาร์ รัสเซียจะไม่สามารถเข้าถึงตลาดเงิน ตลาดทุน สินค้าไฮเทค ในโลกตะวันตก

อังกฤษจะเล่นงานพวกเศรษฐีรัสเซียที่เข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน ไม่ให้นักศึกษารัสเซียเรียนในมหาวิทยาลัย ทรัพย์สินต่างๆ จะโดนอายัด

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวยูเครนได้ชุมนุมเดินขบวนประท้วงในเมืองหลวง กรุงเคียฟ กล่าวหารัสเซียว่าเป็นผู้บุกรุก เป็นฆาตกร ผู้นำยูเครน โวโลดีมีร์ ซาเลนสกี ก็บอกว่าฝ่ายตะวันตกออกอาการตื่นตระหนกจนเกินความเป็นจริง ทำให้คนเสียขวัญ

ชาวบ้านต้องถ่างตารอดูว่ารัสเซียจะบุกยูเครนตามคำประกาศของสหรัฐฯ หรือไม่ ถ้าบุกแล้วจะลุกลามรุนแรงแค่ไหน เพราะกลุ่มยุโรปเช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ไม่ต้องการให้เกิดสงครามและมองว่าวิธีการเจรจาการทูตยังเป็นทางออกเพื่อแก้ไขวิกฤตนี้ได้อยู่