xs
xsm
sm
md
lg

ไบเดนเตือนปูตินโดนหนักแน่ถ้าบุกยูเครน รัสเซียโต้อเมริกา-อังกฤษกระหายสงคราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - ทำเนียบขาวเผยไบเดนย้ำกับปูติน การบุกยูเครนจะส่งผลร้ายต่อคนจำนวนมาก และตะวันตกมุ่งมั่นใช้การทูตเพื่อยุติวิกฤตนี้ แต่ขณะเดียวกัน ก็พร้อมสำหรับสถานการณ์อื่นเช่นเดียวกัน ซึ่งรวมถึงการตอบโต้อย่างเด็ดขาดและการออกมาตรการคว่ำบาตรขั้นรุนแรง ขณะที่รัสเซียตอบโต้ว่า อเมริกาและอังกฤษกระหายสงคราม และชอบใช้การยั่วยุ การปล่อยข้อมูลเท็จ และการคุกคามเพื่อแก้ปัญหาของตัวเอง

ผู้นำสองประเทศหารือกันเมื่อวันเสาร์ (12 ก.พ.) หรือหนึ่งวันหลังจากที่เจ็ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เตือนว่า ข่าวกรองของอเมริกาแสดงให้เห็นว่า รัสเซียอาจเปิดฉากบุกยูเครนภายในไม่กี่วันนี้และก่อนมหกรรมโอลิมปิกในปักกิ่งปิดฉากในวันที่ 20 ก.พ.ที่จะถึงนี้ โดยจะเริ่มด้วยการโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธก่อนบุกภาคพื้นดิน อเมริกายังเรียกร้องให้พลเมืองเดินทางออกจากยูเครน และเตือนว่า กองทัพอเมริกันอาจไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือพลเมืองที่ยังตกค้างได้หลังจากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน

รัสเซียนั้นยืนกรานปฏิเสธว่า ไม่มีแผนรุกราน แม้ระดมทหารกว่า 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน และยังส่งทหารอีกจำนวนหนึ่งไปร่วมซ้อมรบในเบลารุส ซึ่งเท่ากับเป็นการโอบล้อมยูเครนถึง 3 ด้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียสะสมอาวุธถึงระดับที่สามารถเปิดฉากบุกได้ในเวลาอันสั้น

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ตอบโต้ว่า อเมริกาและอังกฤษกระหายสงคราม และชอบใช้การยั่วยุ การปล่อยข้อมูลเท็จ และการคุกคามเพื่อแก้ปัญหาของตัวเอง

การหารือระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังเกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่อาจกลายเป็นวิกฤตความมั่นคงระหว่างมอสโกกับตะวันตกครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามเย็น

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่า เหลือเวลาอีกไม่มากนักในการป้องกันการบุกและเหตุการณ์นองเลือดครั้งใหญ่ในยูเครน และแม้อเมริกาและพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ไม่มีแผนส่งทหารไปช่วยยูเครนรบ แต่การบุกยูเครนจะส่งผลให้ชาติตะวันตกพร้อมใจคว่ำบาตร ซึ่งอาจส่งผลกระทบกว้างไกลกว่าแค่เศรษฐกิจรัสเซีย แต่ยังรวมถึงซัปพลายพลังงาน ตลาดโลก และดุลอำนาจในยุโรป

ทำเนียบขาวแถลงว่า ไบเดนได้บอกปูตินชัดเจนว่าถึงแม้อเมริกา พันธมิตรและหุ้นส่วนยังคงพร้อมดำเนินการทางการทูต แต่ก็มีความพร้อมในระดับเดียวกันสำหรับสถานการณ์อื่น

เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของคณะบริหารสหรัฐฯ ระบุว่า การหารือเป็นไปอย่างมืออาชีพและมีแก่นสาร แต่ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยพื้นฐานกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน และเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ปูตินตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการใช้ปฏิบัติการทางทหารหรือยัง

ทางด้าน ยูริ ยูชาคอฟ ผู้ช่วยนโยบายต่างประเทศระดับสูงของปูติน กล่าวว่า แม้สถานการณ์ลุกลามมานานหลายเดือน แต่ช่วงหลายวันมานี้กลับถูกดึงเข้าสู่จุดของความไร้สาระ และสำทับว่า ไบเดนระบุถึงความเป็นไปได้ในการคว่ำบาตรรัสเซีย แต่ระหว่างการหารือกับปูตินครั้งล่าสุดกลับไม่ได้มุ่งเน้นประเด็นนี้เลย

ขณะเดียวกัน ก่อนคุยกับไบเดน ผู้นำรัสเซียได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบินไปมอสโกเพื่อหาทางยุติวิกฤต นอกจากนั้น เครมลินยังสรุปว่า การพูดคุยกับไบเดนมีความคืบหน้าน้อยมากในการผ่อนคลายสถานการณ์

ทั้งนี้ ในระหว่างหารือทางโทรศัพท์ ปูตินระบุว่า อเมริกาและนาโต้ไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องของรัสเซียว่า จะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกและนาโต้จะถอนกำลังออกจากยุโรปตะวันออก

อเมริกาตอกย้ำว่า พร้อมเผชิญสถานการณ์เลวร้ายที่สุดด้วยการประกาศอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตส่วนใหญ่ออกจากเคียฟ ขณะที่อังกฤษและหลายประเทศในยุโรปเรียกร้องให้พลเมืองเดินทางออกจากยูเครน

ในวันเสาร์ เมลานี โจลี รัฐมนตรีกิจการต่างประเทศแคนาดา เผยว่า ได้ปิดสถานทูตในเคียฟและย้ายเจ้าหน้าที่ทูตไปยังสำนักงานในเมืองเลอวีฟ และเป็นที่ตั้งฐานทัพของยูเครน รวมถึงฮับของแคนาดาในการฝึกทหาร 200 นายของยูเครน

ทั้งนี้ กำหนดเวลาที่รัสเซียอาจเปิดปฏิบัติการทางทหารยังคงเป็นคำถามสำคัญ โดยเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งเผยว่า ข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่า อาจเป็นวันพุธ แต่ไม่ได้ยืนยันว่า ข่าวกรองดังกล่าวจริงแท้แค่ไหน

สถานการณ์ระหว่างอเมริกากับรัสเซียยิ่งตึงเครียดมากขึ้น เมื่อกระทรวงต่างประเทศรัสเซียเรียกผู้ช่วยทูตทหารของอเมริกาเข้าพบเมื่อวันเสาร์หลังจากพบเรือดำน้ำอเมริกันในน่านน้ำของรัสเซียบริเวณใกล้เกาะคูริลในแปซิฟิก และเรือดำน้ำดังกล่าวไม่ยอมแล่นออกไปจนกระทั่งกองทัพเรือรัสเซียใช้ “วิธีการที่เหมาะสม” ซึ่งไม่ได้ระบุว่าคืออะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น