อย่างที่ทิ้งท้ายเอาไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั่นแหละทั่น!!!...ว่าฉากสถานการณ์การเผชิญหน้าและความตึงเครียดทางทหารในระดับโลกช่วงนี้ ออกจะหนักหนา-สาหัส อย่างเห็นได้โดยชัดเจน โดยเฉพาะถ้ามองจาก “แนวรบหลักๆ” ไม่ว่า “แนวรบยุโรปตะวันออก” “แนวรบตะวันออกกลาง” ไปจนถึง “แนวรบทะเลจีนใต้” ที่แม้ว่ายังไม่ถึงกับโป๊ะโช๊ะ โป๊เชะ แต่การแสดงออกถึงอากัปกิริยาแบบ “ฮึ่มไป-ฮึ่มมา” ต่างฝ่าย ต่างแยกเขี้ยวคำรามไปด้วยกันทั้งคู่ ก็พอก่อให้เกิดอาการขนลุก ขนพอง พอๆ กับการได้ดูหนังสยองขวัญฮอลลีวูด ประเภท “ศุกร์ 13 ฝันหวาน”อะไรประมาณนั้น...
เปิดฉากสัปดาห์นี้...เลยคงต้องขออนุญาตไล่เรียงกันไปเป็นฉากๆ เริ่มจาก “แนวรบยุโรปตะวันออก” ระหว่างหมีขาวรัสเซียกับบรรดาประเทศตะวันตก ที่มีคุณพ่ออเมริกาคอยยุแยงตะแคงรั่ว อย่างชนิดไม่คิดจะให้ “หัวตก” ให้มีโอกาสผ่อนๆ คลายๆเอาเลยแม้แต่น้อย และก็อย่างที่ “นายทิม มาร์แชล” (Tim Marshall) เหยี่ยวข่าวชาวอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิรัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ เคยบอกๆ เอาไว้แล้วนั่นแหละว่า “หมีขาว” ตัวนี้...ออกจะเป็นอะไรที่ “ดุ” เอามากๆ โดยเฉพาะหมีขาวในยุคที่อดีตหน่วยปฏิบัติการ “เคจีบี” อย่าง “วลาดิมีร์ ปูติน” ผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำ การคิดไป “แหย่หมีหลับ” หรือ “แหย่เสือหลับ” ย่อมนำมาซึ่งความตึงเครียดและการเผชิญหน้า อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...
คือเฉพาะแค่แนวพรมแดนระหว่างรัสเซียและยูเครน...ที่กำลังคิดจะสมัครเข้าเป็นสมาชิก “นาโต” คิดจะอาศัยข้อกำหนดใน “มาตราที่ 5” ขององค์กรความร่วมมือทางทหารแห่งนี้ เป็นตัวปกป้อง ค้ำยัน การบุกรุก กลืนกินดินแดนของหมีขาว ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเอาเลยทีเดียว ปรากฏว่า...กำลังทหารของรัสเซียที่ถูกส่งเข้ามาเสริมในพรมแดนด้านนี้ ปาเข้าไปประมาณ 90,000 หรืออาจจะถึง 100,000 รายเข้าไปแล้ว ชนิดเล่นเอาไม่ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกัน หรือล่าสุดประธานเสนาธิการทหารร่วมแห่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ “พลเอกมาร์ค มิลลีย์” (Mark Milley) ถึงกับต้องออกมาแสดงอาการหูแหก-ตาแหก ว่าการเสริมกำลังทหารบริเวณพรมแดนยูเครนของกองทัพรัสเซียเที่ยวนี้ ถือว่า “ไม่ธรรมดา” หรืออาจถึงขั้นคิด “บุกยูเครน”ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ส่งผลให้อเมริกาคงต้องจับตาแบบมิอาจกะพริบตาได้โดยเด็ดขาด...
และแม้ว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย “นายดมิตรี เพสคอฟ” (Dmitry Peskov) จะออกมาปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้วว่าการเตรียมกำลัง เสริมกำลัง ของกองทัพรัสเซีย เป็นไปเพื่อความมั่นคงภายในของตัวเอง ไม่ได้คิดจะบุก ไม่คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับประเทศอื่นๆ นอกเหนืออาณาเขตรัสเซียเอาเลยแม้แต่น้อย แต่โดยลักษณะอาการที่ค่อนข้างออกไปทางแสยะเขี้ยว ขนพอง แถมมีเสียงขู่คำรามตามมาด้วยอีกต่างหาก โดยเฉพาะต่อท่าทีของรัฐบาลยูเครนที่พยายามฉุดกระชากลากถูให้บรรดาประเทศตะวันตกและอเมริกา เข้ามาเผชิญหน้ากับรัสเซียในบ้านของตัวเอง เลยส่งผลให้เพื่อนบ้านชาวสลาฟที่เคยเป็นประเทศเดียวกันแท้ๆ อย่างรัสเซีย หนีไม่พ้นต้อง“เริ่มต้นสงครามพลังงาน” ตามคำพูด คำจำกัดความ ของรัฐมนตรีพลังงานยูเครน “นายMaxim Nemchinov” นั่นเอง นั่นคือต้อง “บล็อก”การนำเข้าถ่านหินจากขบวนรถไฟคาชัคสถานที่เข้าไปส่งเชื้อเพลิงพลังงานเหล่านี้ให้กับยูเครน รวมทั้งบริษัท “Gazprom”ของรัสเซีย ก็เริ่มออกอาการบ่ายเบี่ยงคำสั่งซื้อแก๊สของยูเครน ที่ยังไงๆ...คงหนีไม่พ้นต้องหันพึ่งพาแก๊สรัสเซียอยู่แล้วแน่ๆ...
ส่วนทางด้านแนวพรมแดน “เบลารุส-โปแลนด์” ยิ่งหนักหนา สาหัส เข้าไปใหญ่...ด้วยเหตุเพราะจอมเผด็จการอย่างประธานาธิบดี “อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก” (Alexander Lukashenko) จะโดยมีรัสเซียอยู่เบื้องหลังหรือไม่? อย่างไร? ก็แล้วแต่ ท่านออกจะ “เปรี้ยว”ซะเหลือเกิน คือไม่เพียงแต่หันไปเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้บรรดาผู้อพยพหลบลี้หนีภัยในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ที่ถูกบรรดาประเทศตะวันตกเข้าไป “แทรกแซงกิจการภายใน”จนบ้านแตกสาแหรกขาดกันไปเป็นแถบๆ ไม่ว่าจากซีเรีย อิรัก ลิเบีย หรือเยเมน ฯลฯ ก็ตาม ทยอยแห่ข้ามพรมแดนเบลารุสเข้าไปในประเทศโปแลนด์เพื่อที่จะกระจายไปยังประเทศยุโรปต่างๆ อย่างเป็นระบบและเป็นกิจการ ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อทั้งประเทศโปแลนด์ไปจนถึงยุโรปทั่วทั้งยุโรป ที่ทยอยประกาศ “แซงชั่น” เบลารุสชนิดเที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า หรือส่งผลให้โปแลนด์ต้องส่งกำลังทหารไปตรึงพรมแดน พร้อมกับต้องหันไปลากทหารอังกฤษเข้ามาช่วยเสริมกำลังอีกด้วยต่างหาก อันนี้...ถ้าว่ากันคำพูด คำชี้แจง ของรัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์ “นายMariusz Blaszczak”เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา หรือถือว่าการกระทำของประเทศเบลารุสเที่ยวนี้ ถือเป็น “สงครามลูกผสม” (Hybrid War) เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!
คือไม่เพียงแต่อาศัย “ผู้อพยพ”จากตะวันออกกลางเป็นตัวสร้างแรงกดดันให้กับโปแลนด์และประเทศในยุโรป การออกมาป่าวประกาศของประธานาธิบดี “ลูกาเชนโก”ว่ากำลังคิดๆ ที่จะ “บล็อก” การส่งแก๊ส จากเส้นทางลำเลียงโดยท่อแก๊ส “Yamal-Europe” หรือท่อแก๊สที่ส่งจากรัสเซียผ่านคาบสมุทร “Yamal” เข้ามายังเมืองแฟรงก์เฟิร์ตประเทศเยอรมนี ถ้าหากบรรดาประเทศตะวันตกยังคิดจะ “แซงชั่น”เบลารุสแบบชนิดไม่ไล่-ไม่เลิกอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ โดยถ้าหากเป็นจริง-เป็นจังขึ้นมาตามคำประกาศ หรือ “คำขู่” ที่ว่า บรรดาชาวยุโรปที่กำลังเจอกับราคาแก๊สชนิดแพงหูฉี่ หูลี่ ระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อ 1,000 คิวบิกเมตรอยู่ในทุกวันนี้ ย่อมต้องมีแต่ตาย...กับ...ตาย!!! ลูกเดียวเท่านั้นเอง แถมช่วงระหว่างหน้าเหล้า-หน้าข้าวเช่นนี้ ประเทศหมีขาวรัสเซียกลับเกิดความกระตือรือร้น เกิดแรงกระตุ้น แรงจูงใจ ที่จะหันไป “ซ้อมรบร่วม” กับประเทศเบลารุสซะอีกด้วยต่างหาก ถึงกับส่งทหารพลร่มไปร่อนลงแถวๆเมือง “Grodno” ที่อยู่แถบพรมแดนโปแลนด์-เบลารุส รวมทั้งขนเอาจรวดไฮเปอร์โซนิกไปซ้อม ไปทดสอบ ในการซ้อมรบคราวนี้ซะอีกด้วย...
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ฝ่ายโปแลนด์ถึงกับถือเป็น “Hybrid War”หรือ “สงครามลูกผสม” เอาเลยถึงขั้นนั้น จนเกิดการยุแยงตะแคงรั่ว โดยบรรดาสื่อมวลชนอังกฤษ อย่างเช่น “The Sun” เป็นต้น ให้ฝ่าย “นาโต”รีบหันไปคว้าจรวดไฮเปอร์โซนิกของอเมริกัน ที่ชื่อว่า “อินทรีดำ” (Dark Eagle) มาติดตั้งไว้ในเยอรมนีให้ทันท่วงที เพราะโดยขีดความสามารถของอาวุธชนิดนี้ ว่ากันว่า...สามารถ “ถล่มรัสเซีย” ภายในช่วงเวลาเพียงแค่ 6 นาทีเท่านั้นเอง เจอเข้ากับข่าวล่า-มาเรือในลักษณะเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็เถอะ!!! ที่อยู่แถวๆ นั้น...ย่อมมีสิทธิ์ขนหัวลุก ขนคอตั้ง มากบ้าง-น้อยบ้าง กันได้ทุกเมื่อ...
แต่เอาเป็นว่า...ผู้ที่ออกมาให้ข้อสรุป ให้คำอธิบาย ชี้แจง ถึงฉากสถานการณ์ใน “แนวรบยุโรปตะวันออก” ระหว่างรัสเซียกับประเทศตะวันตกว่าจะเป็นไปในลักษณะเช่นไรต่อไป ในช่วงระหว่างนี้ ได้ค่อนข้างแจ่มแจ้ง ชัดเจนเอามากๆ เห็นจะได้แก่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย “นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” (Sergey Lavrov) นั่นเอง โดยได้สรุปเอาไว้ในขณะร่วมแถลงข่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสที่กรุงปารีส เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการอ้างถึงความเคลื่อนไหวขององค์กรร่วมมือทางทหารอย่าง “นาโต”ในระยะหลังๆ จะโดยการยุแยงตะแคงรั่ว ของคุณพ่ออเมริกาหรือไม่? อย่างไร? ก็ตาม ที่เป็นไปในลักษณะ “ก้าวร้าว” ต่อรัสเซียยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าการส่งกำลังทหารเข้าไปป้วนๆ เปี้ยนๆ แถบทะเลดำ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน รวมทั้งการแสดงท่าทีความเป็นปฏิปักษ์ในลักษณะต่างๆ...
ดังนั้น...สิ่งที่รัสเซียคงหนีไม่พ้นต้องงัดมาใช้ในการตอบสนองต่อท่าทีเหล่านี้ ก็คือมาตรการตอบโต้ในแบบ “มึงมั่ง-กูมั่ง” หรือ “Reciprocal Manner”นั่นเอง คือแรงมา...ก็แรงไป หรือยิ่งแรงเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องบวกขึ้นไปให้หนักไปกว่านั้น หรืออาจต้องกลายเป็นสนองตอบในแบบ “อสมมาตร” (Asymmetrical) เอาเลยก็ไม่แน่!!! ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากไม่อยากให้อะไรต่อมิอะไรมันทะลุแก๊ส-ทะลุฟ้ามากมายเกินไปกว่านี้ มีแต่ต้อง “อย่าแหย่...เสือหลับ หรือหมีหลับ” ลูกเดียวเท่านั้นเอง!!!