จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในรัสเซียทุบสถิติสูงสุดอีกครั้งในวันอังคาร (26 ต.ค.) ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดที่บีบให้เครมลินต้องออกคำสั่งให้ชาวรัสเซียส่วนใหญ่หยุดงานเริ่มตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่กำลังมาถึง ในขณะที่อัตราการเข้าฉีดวัคซีนที่ซบเซาเปิดทางให้ไวรัสแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วยุโรปตะวันออก ยูเครนและบัลแกเรีย ต่างรายงานพบผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
คณะทำงานเฉพาะกิจด้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัสเซีย รายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 1,106 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สูงที่สุดนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอย่างเป็นทางการของประเทศแห่งนี้อยู่ที่ 232,77 ราย สูงสุดในยุโรป
ในส่วนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันนั้นอยู่ที่ 36,446 ราย ลดลงเล็กน้อยจากช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวที่มีเจตนาสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ออกคำสั่งแบนกิจกรรมภาคบริการและจัดเลี้ยง ตั้งแต่เวลา 23.00 น. จนถึง 6.00 น. "เคลมลินกำลังยกระดับการควบคุมด้วยการขอให้ปฏิบัติตามทุกมาตรการควบคุม ในนั้นรวมถึงคำสั่งห้ามจัดกิจกรรมบันเทิงและบริการจัดเลี้ยง ตั้งแต่ 23.0 น.ถึง 6.00 น.ในตอนเช้าวันนี้" ถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันจันทร์ (25 ต.ค.)
คำสั่งของปูติน เน้นย้ำว่ามาตรการดังกล่าวควรมีการบังคับใช้ก่อนวันที่ 30 พฤศจิกายน
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูติน ได้ออกคำสั่งช่วงเวลาหยุดทำงานทั่วประเทศระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึง 7 พฤศจิกายน เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคโควิด-19
ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว หน่วยงานของรัฐและภาคธุรกิจเอกชนเกือบทั้งหมดต้องระงับปฏิบัติการ และร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดบริการ เช่นเดียวกับโรงเรียนอนุบาล สถาบันการศึกษาต่างๆ ศูนย์ออกกำลังกายและสถานบันเทิงทั้งหมด ร้านค้าและคาเฟ่จะสามารถเปิดบริการได้เพียงแค่สั่งซื้อกลับบ้านหรือบริการส่งถึงที่ ส่วนห้างค้าปลีกสินค้าอาหาร ร้านขายยาและบริษัทต่างๆ ที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานสำคัญยังคงสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้
การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ โรงละคร อาคารแสดงคอนเสิร์ตและสถานที่สาธารณะอื่นๆ จะจำกัดไว้เฉพาะคนที่ถือรหัสดิจิทัลบนสมาร์ทโฟนที่พิสูจน์ว่าพวกเขาผ่านการฉีดวัคซีนแล้วหรือหายป่วยจากโควิด-19 มาตรการที่จะยังคงบังคับใช้ต่อไปหลังพ้นจากช่วงเวลาหยุดงาน 7 พฤศจิกายนแล้ว
ข้อจำกัดใหม่ๆ ถูกกำหนดออกมาเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน
ปูตินแนะนำเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้ออกคำสั่งคนชราอายุมากกว่า 60 ปีที่ยังไม่ฉีดวัคซีนให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย ปิดไนต์คลับและสถานบันเทิงอื่นๆ นอกจากนี้แล้ว เจ้าหน้าที่รัสเซียยังยกระดับบังคับสวมหน้ากากตามระบบขนส่งสาธารณะและสถานที่ในร่ม
ผูุ้นำรัสเซียยังสนับสนุนให้ภูมิภาคต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดเริ่มช่วงเวลาแห่งการหยุดงานเร็วขึ้นและถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ขยายกรอบเวลาออกไปเกินวันที่ 7 พฤศจิกายน ทั้งนี้ 6 จาก 85 ภูมิภาคของรัสเซียได้เริ่มช่วงเวลาการหยุดงานแล้วในวันจันทร์ (25 ต.ค.) และมีอีกหลายภูมิภาคเข้าร่วมเพิ่มเติมในวันอังคาร (26 ต.ค.) ขณะที่มอสโกมีกำหนดหยุดงานของคนส่วนใหญ่ในวันพฤหัสบดี (28 ต.ค.)
เจ้าหน้าที่รัสเซียคาดหมายว่า การหยุดงานจะช่วยจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัส ด้วยการกันคนออกจากสำนักงานและระบบขนส่งสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ด้วยยอดขายตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรมที่พักในแถบทะเลดำของรัสเซียพุ่งขึ้นขานรับข่าวขยายวันหยุดยาว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทางภาคใต้ของรัสเซียต้องสั่งปิดสถานบันเทิงต่างๆ จำกัดการเข้าถึงร้านอาหารและบาร์เฉพาะลูกค้าที่มีรหัสสุขภาพดิจิทัล
รัฐบาลกล่าวโทษการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสและจำนวนผู้เสียชีวิตที่พุ่งขึ้นไปที่อัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำ โดยจนถึงตอนนี้มีประชาชนชาวรัสเซียฉีดวัคซีนครบเข็มแล้ว คิดเป็นแค่ 49% หรือราวๆ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดเกือบ 146 ล้านคน
นายกรัฐมนตรีมิฮาอิล มิชูสติน กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งรัดอัตราการฉีดวัคซีน ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้"
ส่วนมิคาอิล มูราสช์โค รัฐมนตรีสาธารณสุข รายงานว่า เวลานี้เตียงคนไข้ของโรงพยาบาลต่างๆ มีผู้ครองเสียงแล้วเกือบ 90% ในนั้นกว่า 268,000 รายเป็นคนไข้โควิด-19 พร้อมระบุว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องขยายศักยภาพสถานพยาบาลของประเทศ "มันก่อภาระมหึมาต่อระบบสาธารณสุข"
ในยูเครน ประเทศเพื่อนบ้าน อัตราการฉีดวัคซีนยิ่งช้ากว่า โดยจนถึงตอนนี้มีแค่ราวๆ 16% จากประชากรทั้งหมด 41 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนครบเข็มแล้ว ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และกระทรวงสาธารณสุขยูเครนรายงานในวันอังคาร (26 ต.ค.) พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 734 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สูงสุดนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น
บัลแกเรีย ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดของสหภาพยุโรป มีประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วเพียงแค่ 25% รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 5,863 คนและเสียชีวิต 243 รายในวันอังคาร (26 ต.ค.) ทุบสถิติสูงสุดทั้ง 2 อย่าง บุคลากรทางการแพทย์แสดงความกังวลว่าการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดจะทำให้ระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอของประเทศแบกรับไม่ไหว
(ที่มา : เอพี/ซีเอ็นเอ็น)
