รัสเซียสาหัส! ต้องกลับมาล็อกดาวน์เข้มข้นกรุงมอสโก ยอดติดเชื้อ-เสียชีวิตทุบสถิติอีกรอบ

มอสโกจะกลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 อีกครั้งนับตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมเป็นต้นไป จากการเปิดเผยของนายกเทศมนตรีเซอร์เก ซอบยานิน ในวันพฤหัสบดี (21 ต.ค.) โดยมีแค่ซูเปอร์มาร์เกตและร้านขายยาเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เปิดบริการ ในความพยายามลดจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การตัดสินใจมีขึ้น 1 วันหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อนุมัติปิดสถานที่ทำงานทั่วประเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม ถึง 7 พฤศจิกายน พร้อมแนะนำบรรดาผู้นำระดับภูมิภาคให้บังคับใช้มาตรการต่างๆ เข้มข้นขึ้นตามดุลพินิจของแต่ละคน

มาตรการล็อดาวน์บางส่วนในเมืองหลวง ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว จะไปสิ้นสุดในวันที่ 7 พฤศจิกายนเช่นกัน

ซอบยานิน ระบุว่า ร้านค้าทุกแห่งจะปิดทำการ ยกเว้นแต่ร้านขายสินค้าจำเป็น เช่น ซูเปอร์มาร์เกตและร้านขายยา สถาบันการศึกษาและโรงเรียนอนุบาลจะเปิดการเรียนการสอนเช่นกัน ส่วนบาร์และร้านอาหารอนุญาตให้เปิดบริการได้เฉพาะแบบสั่งซื้อกลับบ้านหรือบริการจัดส่งถึงที่

มาตรการต่างๆ เหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนสืบเนื่องจากเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเครมลินกล่าวโทษไปที่อัตราการเข้าฉีดวัคซีนในระดับต่ำ

ทั้งนี้ มาตรการเข้มข้นแบบเดียวกันจะบังคับใช้ทั่วภูมิภาคมอสโกในวงกว้างเช่นกัน แต่ วาเลนตินา มัตวิเยนโก ประธานสภาสหพันธ์แห่งรัสเซีย (สภาสูงของรัสเซีย) และเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของปูติน บอกว่า การล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น

"มันจะก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่เศรษฐกิจ ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อประชาชน มันไม่มีความจำเป็น" สำนักข่าวทาสส์นิวส์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของมัตวิเยนโก

ทั่วทั้งรัสเซียในวันพฤหัสบดี (21 ต.ค.) รายงานพบผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 1,036 รายในช่วง 24 ชั่วโมงหลังสุด และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36,339 คน ทุบสถิติสูงสุดทั้ง 2 กรณี

เจ้าหน้าที่เผยว่า กำลังจับตาสายพันธุ์ย่อยใหม่ของตัวกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในอังกฤษ แต่เชื่อว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถรับมือกับไวรัสตัวดังกล่าวได้

รัสเซียพัฒนาและเปิดตัวอย่างรวดเร็ววัคซีน "สปุตนิก วี" ของพวกเขา ครั้งที่ถูกโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เล่นงานเมื่อปีที่แล้ว แต่อัตราผู้เข้ารับวัคซีนมีความคืบหน้าอย่างช้าๆ ด้วยชาวรัสเซียจำนวนมากอ้างว่าไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่และมีความหวั่นกลัวต่อผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ใหม่ๆ

ในส่วนของปูตินเองเข้ารับวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเรียกร้องให้ประชาชนดำเนินการแบบเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าจะได้ผลเพียงเล็กน้อย

(ที่มา : รอยเตอร์)