วันนี้...สงสัยคงต้องขออนุญาตแวะไปดู “แนวรบยุโรปตะวันออก” ไว้สักหน่อย เพราะออกจะเป็นอะไรที่ร้อนฉ่า ร้อนแรง ไม่น้อยไปกว่า หรือเผลอๆ...อาจมากกว่า “แนวรบทะเลจีนใต้” ที่ใครต่อใครออกจะตื่นเต้น ฮือฮา ในเรื่องการบุก-ไม่บุกไต้หวัน ของคุณพี่จีนอะไรทำนองนั้น เพราะถ้าว่ากันถึงบุคลิกลักษณะ อุปนิสัย ลีลาสำหรับ “พญามังกร” แล้ว ดูจะถนัดไปในแนวลอดๆ เลื้อยๆ โอบกระหวัดรัดพัน ไม่ได้ถึงกับโฉ่งๆ ฉ่างๆ อะไรมาก แต่สำหรับ “พญาหมีขาว” นี่สิ!!! อย่างที่เหยี่ยวข่าวชาวอังกฤษ “นายทิม มาร์แชล” (Tim Marshall) ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Prisoners of Geography” อันโด่งดัง เคยสรุปเอาไว้ชัดเจน ว่าออกจะเป็นอะไรที่ “ดุ” เอามากๆ...
ดังนั้น...ความพยายาม “ยั่วยวนกวนส้นตีน” ของคุณพ่ออเมริกาและประเทศพันธมิตรตะวันตกในแถบทะเลจีนใต้ กับในยุโรปตะวันออก ย่อมอาจให้ผลผิดแผก แตกต่างไปจากกันและกันไม่มากก็น้อย โดยอะไรจะนำไปสู่การลงมือ ลงตีน ไล่ถีบ ไล่กระทืบกันอย่างเป็นจริง-เป็นจัง เป็นระบบและกิจการ อันนี้นี่แหละ...เลยคงต้อง “ตามไปดู” หรือแวะไปดูเอาไว้สักหน่อยโดยเฉพาะเมื่อช่วงล่าสุด หรือเมื่อช่วงวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ระดับรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา “พลเอกลอยด์ ออสติน” (Lloyd Austin) ท่านได้อุตส่าห์ถ่อไปเยือน หรือแวะไปเยือนประเทศยุโรปตะวันออก อย่างประเทศ “ยูเครน” อย่างเป็นทางการ อันเป็นสิ่งที่ถูกแปลความ ตีความ โดยผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” ระหว่างการปาฐกถาบรรยาย ณ สโมสร “Valdai Discussion Club” ที่เมืองโซชิ เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ประมาณว่า...ไม่ต่างอะไรไปจากการ “เปิดประตูบ้าน...เพื่อต้อนรับยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกนาโต” นั่นเอง...
และการแปลความ ตีความ ในลักษณะเช่นนี้...คงไม่ถึงกับผิดพลาดอะไรมากมาย เพราะระหว่างการเดินทางเยือนยูเครนของหัวหน้าเพนตากอนรายนี้ รัฐมนตรีกลาโหมผิวสี อย่าง “พลเอกลอยด์ ออสติน” ท่านก็ได้พูดเอาไว้ชัดว่า... “ไม่มีประเทศใดๆ ที่สามารถสั่งห้ามไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโตได้ ด้วยเหตุเพราะยูเครนมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจอนาคตของตัวเองในด้านนโยบายต่างประเทศ เช่นเดียวกับประเทศที่เป็นเอกราชทั้งหลาย และเราหวังว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้น โดยไม่มีการแทรกแซงใดๆ จากภายนอก...” โดยถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปเช่นนั้น ตามนั้น ก็อย่างที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย “นายดมิตรี เพสคอฟ” (Dmitry Peskov) ได้แถลงเอาไว้ก่อนหน้านั้น หรือได้กล่าวกับโทรทัศน์ช่อง 5 ของฝรั่งเศส ว่าอาจถือเป็นฉากสถานการณ์ที่ “เลวร้ายสุดๆ” หรือ “worse-case scenario” สำหรับรัสเซีย ที่คงต้อง “ทำอะไรสักอย่าง” ต่อการ “ละเมิดเส้นแดง” หรือการก้าวข้าม “เส้นอันตราย” ที่อาจก่อให้เกิดการคุกคามเสถียรภาพและความมั่นคงของรัสเซีย...
คือการสมัครเข้าเป็น “สมาชิกนาโต” ของยูเครนนั้น...ต้องถือเป็นสุดยอดปรารถนา ของอดีตดาวตลกและประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบันอย่าง “นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี” (Volodymyr Zelensky) เอามากๆ เรียกว่า...ไม่น้อยกว่าประธานาธิบดีไต้หวัน อย่าง “นางไช่ อิงเหวิน” (Tsai Ing-wen) อยากเป็นเอกราชจากจีนอะไรทำนองนั้น หรืออาจถือเป็นทางออกทางเดียวและทางสุดท้าย ที่จะทำให้รัสเซียอาจไม่กล้า “งาบ” ยูเครนกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย แบบที่เคย “งาบไครเมีย” มาแล้วเห็นๆ เพราะอย่างน้อย...ในข้อตกลง “มาตรา 5” ของนาโต ก็ระบุเอาไว้ชัดประมาณว่า ใครก็ตามที่คิดบุกประเทศสมาชิกนาโต ย่อมต้องถือเป็นภาระที่บรรดาประเทศมวลสมาชิกทั้งหลาย ต้องลุกฮือขึ้นตอบโต้ หรือต้องพร้อมที่จะรบกับรัสเซีย แบบชนิดมีแต่ต้อง “ฉิบหายกันไปข้าง” อะไรทำนองนั้น...
แต่ก็นั่นแหละ...การเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน ภายใต้สภาพที่คุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตกพยายามกลืนกินบรรดาประเทศในยุโรปตะวันออกประเทศแล้ว-ประเทศเล่า หลังความล่มสลายของจักรวรรดิโซเวียตรัสเซีย หรือหลังจากอิทธิพลของรัสเซียต่อบรรดาประเทศเหล่านี้ลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ มันก็คงไม่ต่างไปจาก “ภัยคุกคาม” ต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของรัสเซียโดยตรงนั่นเอง หรืออย่างที่ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” ได้รำพึง รำพัน เอาไว้ ณ สโมสร “Valdai” เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมานั่นแหละว่า... “พรุ่งนี้...อาจมีจรวดมาโผล่แถวๆ เมือง Kharkov แล้วเราจะทำอะไรกับมันดี??? เพราะเราไม่ได้เป็นผู้นำมันไปติดตั้งไว้ที่นั่น แต่ถูกนำมาวางไว้อยู่ใต้จมูกของเรา...”
แม้ว่าชาวยูเครนจำนวนไม่น้อย...อาจ “ไม่เห็นควรด้วย” กับประธานาธิบดี “เซเลนสกี” ไปซะทั้งหมด อย่างเช่นผู้นำฝ่ายค้านที่มีสมาชิกอันดับ 2 ในรัฐสภายูเครน อย่าง “นายวิคตอร์ เมดเวดเชอร์” (Viktor Medvedchuk) ที่แม้จะไม่ได้มีเชื้อชาติสัญชาติรัสเซีย แบบเดียวกับบรรดาชาวยูเครนหลายต่อหลายราย ที่ไม่ต้องการให้ยูเครนโผเข้าหา “ตะวันตก” แต่ให้หันมารักษาสัมพันธภาพที่สอดคล้อง เหมาะสม กับความเป็นประเทศที่เต็มไปด้วย “ชาวสลาฟ” ซะเป็นส่วนใหญ่ หรือให้หันมาญาติดีกับรัสเซียเข้าไว้ แต่การออกโรงคัดค้านของผู้นำฝ่ายค้านยูเครน ก็ทำให้ถูกรัฐบาลตั้งข้อกล่าวหาว่า “ทรยศต่อชาติ” หรือ “สมคบคิดกับผู้ก่อการร้าย” ไปโน่นเลย การคิดจะเอียงไปทางตะวันตก หรือไปทางรัสเซีย จึงกลายเป็น “ปัญหา” ที่ยากจะหา “จุดลงตัว” ได้ง่ายๆ ไม่ต่างไปจากการหลงใหล ใฝ่ฝันถึง “ประชาธิปไตยแบบอเมริกา” กับความรู้สึกภาคภูมิใจใน “ความเป็นจีน” ของบรรดาชาวไต้หวันในทุกวันนี้นั่นแล...
ดังนั้น...ถ้าเมื่อไหร่ที่ยูเครนได้เข้าเป็นสมาชิกของนาโตอย่างเป็นทางการ ก็คงแทบไม่ต่างอะไรไปจากการประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการของไต้หวันนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น “พญามังกร” หรือ “พญาหมีขาว” ก็ตาม ย่อมมิอาจปล่อยให้เป็นไปเช่นนั้นได้โดยเด็ดขาด สิ่งเหล่านี้...จึงกลายเป็น “ประเด็น” ที่ถูกนำมา “ยั่วยวนกวนส้นตีน” ประเทศมหาอำนาจคู่แข่งคุณพ่ออเมริกาทั้งสอง ได้อย่างก่อให้เกิดความคันมือ คันตีน เป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ใครจะเกาก่อน-ไม่เกาก่อน หรือจะเกากันในแบบไหน? อย่างไร? เท่านั้นเอง บรรยากาศความตึงเครียดทั้งใน “แนวรบยุโรปตะวันออก” และ “แนวรบทะเลจีนใต้” ในทุกวันนี้ จึงออกจะร้อนฉ่า ร้อนแรง ไม่น้อยไปกว่ากัน...
อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่า “พญามังกร” หรือ “พญาหมีขาว” ก็แล้วแต่ ก็ยังน่าจะมี “ไพ่” อีกหลายใบ ไม่ใช่แต่เฉพาะทางการทหารแต่เพียงล้วนๆ ยิ่งภายใต้ความเสื่อมโทรมของคุณพ่ออเมริกา ที่พลอยทำให้สมุนของอเมริกาอย่าง “นาโต” พลอยต้องเสื่อมไปด้วย จนถึงขั้นบางประเทศในยุโรปอย่างฝรั่งเศส หรือเยอรมนี เริ่มคิดๆ จัดตั้ง “กองกำลังทหาร” ของตัวเอง แทนที่จะต้องเดินตามก้นคุณพ่ออเมริกาซะร่ำไป ไปจนถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจ การค้า และพลังงาน ฯลฯ ที่ต้องหันไปพึ่งพารัสเซียอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะขาดแคลนพลังงาน กำลังอุบัติให้เห็นอย่างชัดเจนในยุโรป บรรดาสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ไม่ถึงขั้นกับต้องลงมือ ลงตีน ต้องเตะ ต้องต่อย กันแบบชนิดบ้านพังไปเป็นแถบๆ เหมือนอย่างรายการยั่วยวนกวนส้นตีนระหว่างพระเอกกับดาวร้ายหนังไทยในยุคก่อนๆ...
แต่ก็นั่นแหละ...อย่างที่ “ทิม มาร์แชล” ผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษสรุปเอาไว้ในข้อเขียนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ว่า “หมีขาว” อย่างรัสเซียตัวนี้ ออกจะเป็นอะไรที่ “ดุ” เอามากๆ สัมพันธภาพระหว่างรัสเซียกับนาโต ที่เลขาธิการนาโต อย่าง “พลเอกเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก” (Jens Stoltenberg) ออกมายอมรับเมื่อไม่กี่วันมานี้ (19 ต.ค.) ว่าอยู่ในช่วง “ตกต่ำที่สุด” เท่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะหลังจากรัสเซียได้ปิดสำนักงานนาโตในกรุงมอสโกเพื่อตอบโต้กับกรณีที่นาโตกล่าวหาว่าตัวแทนรัสเซีย 8 รายเป็นสายลับอะไรทำนองนั้น ยิ่งทำให้ช่องทางเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ เจรจาระหว่างกันและกัน ยิ่งหดแคบลงไปเท่านั้น ความร้อนฉ่าร้อนแรงของ “แนวรบยุโรปตะวันออก” ช่วงนี้ จึงเป็นสิ่งที่คงต้องจับตา อย่างมิอาจกะพริบตาได้โดยเด็ดขาด!!!