ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สิ่งสำคัญตอนนี้คือ เป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคให้ยิ่งใหญ่ที่สุด หลังจากนี้ค่อยว่ากัน สัญญาณจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ประโยคสำคัญคือ “หลังจากนี้ค่อยว่ากัน” ไม่ต้องตีความให้ซับซ้อน ถอดรหัสกันตรงตัว เอเปคจบเข้าสู่โหมดสแตนบาย เลือกตั้งกันได้ทุกเมื่อ อยู่แค่ว่าช่วงไหน
แต่สิ้นปีนี้ตัดออกไปได้ เฉพาะประชุมเอเปคก็กินเวลาเป็นเดือนๆ กว่าจะเสร็จงานก็เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี อย่างไรก็ไม่ทัน
ไหนจะโปรเจกต์สำคัญการคลายล็อกแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ในวันที่ 1 ธันวาคม ที่ปล่อยให้สังสรรค์ นั่งกิน นั่งดื่มกันได้แทบจะเป็นปกติ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ จัดเต็มได้หลังเป็นอัมพาตกันมาร่วมปี ที่อย่างน้อยๆ “บิ๊กตู่” คงต้องมอนิเตอร์สถานการณ์ก่อน หลังผ่อนคลายแล้ว ดี หรือ ดิ่ง
หรือการไล่ฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ เพื่อกู้หน้า หลัง “บิ๊กตู่” และรัฐบาล บริหารจัดการโควิด-19 ล้มเหลวเกือบทุกๆเรื่องจนแต้มติดลบ อย่างไรต้องทำให้ได้ ไม่ให้เป็นผู้นำตระบัดสัตย์
ขณะที่ตัวแปรสำคัญมากสุดที่เป็นจุดตัดสินว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ คาดคะเนไทม์ไลน์ได้ชัดกว่า คือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หลังโปรดเกล้าฯต้องมาขะมักเขม้นดีไซน์กฎหมายลูกให้สอดรับกับกติกาบัตรเลือกตั้งสองใบ ตลอดจนวิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ
ดังนั้นปีนี้ตระเวนเนียนๆ หาเสียง ตะล่อมขอคะแนนประชาชนกันไปก่อน ก้าวเข้าสู่ปีหน้าเมื่อไหร่ให้จ้องตาไม่กระพริบ มีสิทธิ์ได้เข้าคูหากันแล้ว
ตามคิวที่ “บิ๊กตู่” ต้องออกมาย้ำหลายรอบว่า ยังไม่มีการยุบสภา ตลอดจนล่าสุดที่ต้องพูดกับคณะรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมา เพราะหลายคนเข้าใจผิดว่า “3 ป.” จ่อล้างกระดานใหม่ หลังวงศ์วาน 3 ป. โดยเฉพาะ “น้องตู่” และ “พี่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชารัฐ ชีพจรลงเท้า วิ่งเข้าหาประชาชนถี่ยิบ ทุกสัปดาห์ ตุนแต้มล่วงหน้ากันแล้ว
ขนาดพรรคร่วมรัฐบาลยังระแวง กลัวถูกวิ่งแซงหลายช่วงตัว “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่างก็แตกตื่น ขึ้นเหนือล่องใต้ ลงพื้นที่ตีขนาบแข่งกับ 3 ป. เหมือนกัน
พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคขนาดใหญ่อย่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ต่างขุดสารพัดผลงานออกมาอวดประชาชน ว่าไม่ได้นั่งเสวยสุขอยู่บนคานอำนาจ แต่มีผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ใครดูก็รู้ว่า เทศกาลอวดฝีมือเป็นโฆษณาแฝงดีๆนี่เอง
ต่างคนต่างลงพื้นที่ ต่างคนต่างโชว์ผลงาน ไม่มีใครสักคนบอกเป็นผลงานภาพรวมของรัฐบาล มีแต่ติดยี่ห้อพรรคภูมิใจไทยบ้าง พรรคประชาธิปัตย์บ้าง
เป็นจังหวะที่ “บิ๊กตู่” ก็เห็น เลยถึงต้องส่งสัญญาณเบรก ทำนองว่า ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้ต้องมาทุ่มสรรพกำลังกับการเป็นเจ้าภาพเอเปคก่อน เดี๋ยวจะแตกตื่นกันไปใหญ่
ขณะเดียวกัน “บิ๊กตู่” เองก็ยังไม่พร้อมที่จะลงสนามเลือกตั้งในตอนนี้ เพราะยังเผชิญวิกฤตศรัทธาจากประชาชน แทบไม่เหลือบุญเก่าให้เอามาอ้าง เข้าคูหาตอนนี้อย่างไรก็ไม่มีผลงานไปอวดกับชาวบ้านชาวช่องเขา ยุบสภาเลยมีแต่ตกเขา ตกเหวแน่นอน
อีกนัยหนึ่ง ก็ให้ส่งซิกให้พรรคร่วมรัฐบาล เร่งปั้นผลงาน สร้างบุญใหม่เอาไปขายกับชาวบ้านในสนามเลือกตั้งกันเยอะๆ เพราะตอนนี้แต้มรัฐบาลติดลบ ไม่ได้โดนแค่พรรคใดพรรคหนึ่ง ลงสนามเลือกตั้งไปก็โดนเหมารวมกับผลงานโชห่วยแน่นอน
รีดผลงานได้ มีเอาไปพอโฆษณาหาเสียง ถ้าตรงกับจังหวะที่คะแนนของรัฐบาลเป็นบวก ถึงตรงนั้นเลือกตั้งน่าจะได้เปรียบกว่า
โดยเฉพาะ “บิ๊กตู่” ที่ต้องสปีดหนัก เพราะหากให้หยิบผลงานสักชิ้นนับตั้งแต่เป็นนายกฯ สมัยสอง แทบไม่มีอะไรฮอตฮิตติดปากชาวบ้าน นอกจากกู้ กู้ และกู้ จนหนี้สาธารณะสูงเท่าภูเขา
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การกำกับของ “เถ้าแก่ป้อม” แม้ น้องตู่ จะเป็นของช้ำ ขายออกยาก แต่มองซ้าย มองขวา ก็ไม่มีของหรูพรีเมียมตั้งโชว์หน้าร้านได้ ครั้นจะเป็นนายกฯเอง ก็ปิดประตูไปได้ ไม่ต้องคิด หากเป็นได้คงเป็นไปนานแล้ว ไม่ต้องมางอนง้อให้น้องลูบคม หักดิบ หักหน้า กันอย่างที่เป็น
“เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ใครต่อใครมโนว่า จะถูกวางตัวให้เป็นผู้นำ ยิ่งเพ้อฝัน แม้ในวงการการเมืองจะมองว่า ชื่อชั้นพอไหว แบ็กกราวด์ เป็นถึงระดับผู้พิพากษา แต่ถามประชาชนรู้จักมั้ย ยังร้องใครว้าอยู่เลย ตัดตัวละครนี้ไปได้
ขนาดตอนแข่งชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ “จุรินทร์” ยังแพ้ นับประสาอะไรกับเก้าอี้นายกฯ
เมื่อไม่มีตัวละครใหม่ ขายได้แบบฮือฮา “พี่ป้อม” ก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำภารกิจเข็นครกขึ้นภูเขา พา “น้องตู่” ดันทุรังเป็นผู้นำอีกสมัย
อย่างน้อยนาทีนี้ในฐานะศัตรูคนสำคัญของ “แก๊ง 3 นิ้ว” บิ๊กตู่ ก็ยังพอเป็นผู้นำในเชิงสัญลักษณ์ได้
แต่ก่อนจะไปจุดนั้นได้ ต้องจับ น้องเลิฟ ฟอกขาว พอกผลงาน หาจุดเปลี่ยนลบภาพผู้นำบ่มีไก๊ ให้ประชาชนลืมๆ วีรกรรมที่ทำคนพร้อมใจกันก่นด่าทั้งประเทศก่อน
หากยังเป็นอยู่เหมือนในสภาพปัจจุบัน อย่างไรก็แข็งใจจับไปลงแข่งเลยไม่ลง เพราะคงจะเหนื่อยทั้งแรง เหนื่อยทั้งกระสุนดินดำ
แข่งตอนนี้ วัดปอนด์ต่อปอนด์ กับแคนดิเดตนายกฯ พรรคอื่นๆ แพ้ตั้งแต่ในมุ้ง