xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลอัฟกันส่อเค้าไม่รอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



กลุ่มกองกำลังตอลิบานรุกหนักพยายามยึดเมืองหลักของอัฟกานิสถานเช่นเมืองเฮรัตและกานดาฮาร์ ปิดล้อมเส้นทางหลักและพื้นที่รอบนอก ประชาชนอยู่ในภาวะระส่ำระสาย เพราะทหารรัฐบาลถูกรุกไล่ แม้กองทัพสหรัฐฯ จะช่วยส่งเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดก็ตาม

ถือว่าเป็นภาวะแห่งการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของรัฐบาลอัฟกัน หลังจากกองกำลังทหารนานาชาตินำโดยสหรัฐฯ ได้ถอนตัวออก ปล่อยให้ภาระป้องกันประเทศอยู่ในมือของกองทหารอัฟกัน ขณะที่กองกำลังตอลิบานฮึกเหิมเพราะไม่มีทหารต่างชาติอีกแล้ว

ชะตากรรมของชาวอัฟกันจะอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มตอลิบานซึ่งหมายมั่นปั้นมือจะตั้งรัฐอิสลามแบบสุดโต่ง เรียก “อิสลามิก เอมิเรตส์” อย่างที่เคยเป็นก่อนที่ทหารสหรัฐฯ จะบุกเข้าขับไล่รัฐบาลตอลิบานในเดือนพฤศจิกายน 2001 จนสิ้นจากอำนาจปกครอง

นั่นเป็นระยะเวลานาน 20 ปีซึ่งทหารสหรัฐฯ อยู่รบกับตอลิบานในอัฟกานิสถาน ช่วงการรบดุเดือดที่สุด มีทหารสหรัฐฯ มากกว่า 1 แสนนาย และทุ่มอาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องบินรบอย่างมาก แปรสภาพของฐานทัพอากาศบากรัมให้เป็นศูนย์บัญชาการรบ

ฐานทัพอากาศบากรัมได้กลายเป็นเมืองขนาดย่อมๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างเพื่อทหารสหรัฐฯ หลังจากการรบ 20 ปี สหรัฐฯ ไม่ได้ชัยชนะ ทั้งยังเสียทหาร 2 พันนาย

เป็นการสูญเสียทั้งเวลา กำลังพล และงบประมาณมหาศาลสำหรับการปกป้องรัฐบาลอัฟกันและกองทัพซึ่งต้องพึ่งพาทุกอย่างจากกองกำลังทหารนานาชาติ สหรัฐฯ ได้ระดมความช่วยเหลือจากกำลังของแคนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ และกลุ่มประเทศอียู

แม้กระนั้นก็ไม่สามารถพิชิตศึกได้อย่างเด็ดขาดเพราะกลุ่มตอลิบานได้ทำการรบแบบกองโจรอยู่ตามเทือกเขาและถ้ำ กองกำลังภาคพื้นที่ไม่สามารถเข้าไปจัดการได้

การรุกล่าสุด ไม่ปรากฏว่ากองกำลังตอลิบานมีมากเท่าไหร่ แต่ได้ผลทางจิตวิทยาเป็นอย่างมากเพราะสามารถควบคุมพื้นที่ได้ครึ่งหนึ่งของประเทศ ส่วนใหญ่เป็นรอบนอก ดังนั้น ช่วงนี้จึงหวังจะยึดเมืองใหญ่ดังเช่นเฮรัต ซึ่งเป็นเมืองสำคัญด้านยุทธศาสตร์

ทหารอัฟกันสู้รบแบบไม่เต็มใจ มีข่าวทหารหนีทัพยอมจำนน ในกรณีรบพ่ายแพ้ ก็ถูกจับเป็นเชลย หัวหน้าหน่วยถูกตอลิบานฆ่าทิ้งด้วยการตัดหัว

ประชาชนอัฟกันหลายหมื่นคนต้องทิ้งถิ่นที่อยู่เพื่อหนีภัยสงครามกลางเมือง เข้าไปอยู่ตามเมืองใหญ่ สร้างภาระการเลี้ยงดูให้ที่พักพิงอย่างมากสำหรับรัฐบาล องค์การสากลต่างๆ ประเมินว่าชาวอัฟกันจะประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและที่อยู่อาศัยอีกมาก

สงครามชิงเมืองใหญ่ทำให้เกิดภาวะความไม่แน่นอน ประชาชนตื่นตระหนก มีบางพื้นที่ยอมจับอาวุธร่วมต่อสู้เพื่อยับยั้งการรุกคืบหน้าของกลุ่มตอลิบาน

ประชาชนที่ยังมีที่ไปเริ่มอพยพไปในเมือง หรือเดินทางออกนอกประเทศขณะที่ยังมีเวลาและมีสายการบินบริการให้อยู่ นักวิเคราะห์ตะวันตกประเมินว่ารัฐบาลอัฟกันอาจไม่รอด และกลุ่มตอลิบานอาจเข้ายึดอำนาจด้วยการทุ่มกำลังรบใน 6 เดือน หรือน้อยกว่า

ยังเป็นคำถามว่าสหรัฐฯ จะยอมปล่อยให้กองกำลังตอลิบานยึดประเทศอีกรอบหรือไม่ แม้จะได้คำรับรองจากตัวแทนตอลิบานในการเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเมืองโดฮา กาตาร์ ในปี 2020 ว่าจะไม่มีการซ่องสุมพวกก่อการร้ายอีก

มาวันนี้คำมั่นสัญญาของตอลิบานคงไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป ถ้าได้กุมอำนาจในประเทศและแปลงสถานภาพให้เป็นรัฐ “อิสลามิก เอมิเรตส์” พร้อมกฎเข้มสำหรับทุกชีวิตภายใต้อำนาจปกครองของตอลิบาน ซึ่งเป็นที่น่าหวาดหวั่นสำหรับประชาชนทั่วไป

ถ้าสหรัฐฯ ยอมปล่อยให้ตอลิบานกุมอำนาจ ไม่มีอะไรรับประกันว่าอัฟกานิสถานยุคตอลิบานจะทำอะไรตามกฎกติกาสากล นอกจากเป็นแหล่งหลบซ่อนของพวกที่มีเจตนารมณ์ในการต่อสู้ ทำสงครามศักดิ์สิทธิ์กับโลกตะวันตก

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน คงไม่มีทางเลือก นอกจากยอมปล่อยให้อัฟกานิสถานตกเป็นของตอลิบาน เพราะประเทศนี้ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญที่ให้ตักตวงได้ ช่วงนี้อาจเพียงแค่สนับสนุนกำลังทางอากาศ เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

ที่สำคัญ โจ ไบเดน คงไม่หลวมตัวกลับเข้าไปเป็นพันธะผูกพันสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ อีก แม้จะยอมให้ประชาคมโลกดูว่าสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรที่ไม่น่าเชื่อถือ ไว้ใจไม่ได้ตลอด

ช่วงนี้ชาวอัฟกันซึ่งเคยทำงานเป็นล่ามและพนักงานแปลให้กองกำลังสหรัฐฯ ซึ่งมีจำนวนหลายหมื่นคนกำลังรอการช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ให้อพยพหนีการล้างแค้น โดยกลุ่มตอลิบานไปอยู่สหรัฐฯ เพราะที่เป็นอยู่ได้เริ่มช่วยเหลืออพยพชุดแรกเท่านั้น

ขณะที่การรุกของตอลิบานเป็นไปอย่างรวดเร็ว เวลาสำหรับการพิจารณาคัดกรองเอกสารเป็นไปอย่างล่าช้า ยิ่งเกรงกันว่าจะมีชาวอัฟกันมากมายถูกสหรัฐฯ ทิ้งให้เผชิญชะตากรรมตามลำพังเพราะเส้นตายของการอยู่ในประเทศมีถึงเพียง 11 กันยายนเท่านั้น

ช่วงนี้มีข่าวว่าจีนกำลังเริ่มติดต่อกับกลุ่มตอลิบานด้วยวัตถุประสงค์ไม่ปรากฏชัด และจะเป็นชาติมหาอำนาจอีกประเทศหนึ่งซึ่งเข้าไปเกี่ยวโยงกับอัฟกานิสถาน และจีนอาจหวังสร้างความสัมพันธ์กับตอลิบานเพื่อหวังผลในการสร้างอิทธิพลในพื้นที่นั้น

ก่อนหน้าสหรัฐฯ เข้ามานั้น รัสเซียได้เข้ามาสู้รบในอัฟกานิสถานเป็นเวลา 10 ปี เสียทหารไปหลายพันนายพร้อมกับการลงทุนอย่างมาก และพ่ายแพ้กลับไปอย่างหมดสภาพ จนเปิดทางให้กองกำลังตอลิบานเข้ามาสร้างฐานจนกระทั่งสหรัฐฯ บุกเข้ามา

ครั้งนั้นสหรัฐฯ ตามไล่ลาอุซามะห์ บิน ลาเดน ผู้นำกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง อัลกออิดะห์ ซึ่งเป็นต้นตอของการโจมตีอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในกรุงนิวยอร์ก

ต้องรอดูว่าทหารอัฟกันจะสามารถปกป้องประเทศให้รอดจากตอลิบานได้หรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น