ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-คาดิมี แห่งอิรัก เมื่อวันจันทร์ (26 ก.ค.) บรรลุข้อตกลงอย่างเป็นทางการสำหรับยุติภารกิจสู้รบของอเมริกาในอิรักในช่วงสิ้นปี 2021 หรือกว่า 18 ปี หลังจากทหารสหรัฐฯ ถูกส่งเข้าไปยังประเทศแห่งนี้
เมื่อประกอบกับการกำหนดการถอนกองกำลังสหรัฐฯ ชุดสุดท้ายออกจากอัฟกานิสถานในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตกำลังปิดฉากภารกิจสู้รบของสหรัฐฯ ใน 2 สงครามที่เริ่มต้นโดย จอร์จ ดับเบิลยู.บุช ประธานาธิบดี ณ ขณะนั้น
ไบเดน และคาดิมี พบปะกันในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ในการพบปะพูดคุยกันแบบเจอหน้าเป็นครั้งแรกระหว่างทั้งสองคน ส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การทูตระหว่างสหรัฐฯ และอิรัก
"บทบาทของเราในอิรักจะเป็นและจะมีไว้สำหรับสานต่อการฝึก เพื่อช่วยเหลือและเพื่อจัดการกับพวกไอเอสที่โผล่ขึ้นมา แต่เรากำลังจะไม่มีภารกิจสู้รบในช่วงสิ้นปี" ไบเดนบอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างประชุมร่วมกับคาดิมี
ปัจจุบันทหารสหรัฐฯ 2,500 นายในอิรัก มุ่งเน้นไปที่ภารกิจตอบโต้นักรบส่วนที่เหลือของกลุ่มไอเอส แต่จากนั้นบทบาทของสหรัฐฯ ในอิรักจะเปลี่ยนไป เข้าสู่การฝึกหัดและให้คำปรึกษาแก่ทหารอิรักในด้านการป้องกันตนเอง
คาดหมายว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คงไม่ส่งผลกระทบสำคัญใดๆ เนื่องจากที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เคลื่อนไหวหันไปมุ่งเน้นให้ความสำคัญการฝึกฝนกองกำลังอิรักอยู่ก่อนแล้ว
พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ยกพลบุกอิรักในเดือนมีนาคม 2003 ตามคำกล่าวอ้างว่ารัฐบาลของซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรัก ณ ขณะนั้น ครอบครองอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ต่อมา ซัดดัม ถูกโค่นจากอำนาจ แต่ไม่เคยพบอาวุธทำลายล้างดังกล่าวตามคำกล่าวหา
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภารกิจของทหารสหรัฐฯ ได้หันไปมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการช่วยกองกำลังด้านความมั่นคงของอิรักและซีเรีย ปราบปรามกลุ่มนักรบไอเอส
"จะไม่มีใครประกาศว่าภารกิจสำเร็จแล้ว เป้าหมายคือเอาชนะพวกไอเอสแบบถาวร" เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของรัฐบาลบอกกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการมาเยือนของคาดิมี
คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้ ย้อนให้นึกถึงป้ายข้อความขนาดใหญ่ "ภารกิจสำเร็จแล้ว" ประดับอยู่บริเวณด้านบนเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับบราฮัม ลินคอล์น เมื่อครั้ง บุช ปราศรัยเกี่ยวกับภารกิจสู้รบครั้งใหญ่ในอิรัก ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2003
"ถ้าคุณมองในจุดที่่เราอยู่ เรามีเฮลิคอปเตอร์อาปาเชในการสู้รบ เรามีกองกำลังพิเศษสหรัฐฯ ปฏิบัติการอยู่เป็นประจำ มันมีพัฒนาการอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นในช่วงสิ้นปี เราคิดว่าเราจะอยู่ในสถานะที่ดีที่จะย้ายเข้าสู่บทบาทที่ปรึกษาและเสริมสร้างขีดความสามารถอย่างเป็นทางการ" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะมีทหารอเมริกามากน้อยแค่ไหนที่จะยังคงประจำการภาคสนามในอิรัก สำหรับให้คำปรึกษาและช่วยฝึกฝน
คาดิมี ถูกมองในฐานะมิตรของสหรัฐฯ และพยายามสกัดแสนยานุภาพของพวกนักรบที่เป็นพันธมิตรของอิหร่าน อย่างไรก็ตามขณะเดียวกัน รัฐบาลของเขาประณามปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ต่อพวกนักรบพันธมิตรของอิหร่าน ตามแนวชายแดนอิรักติดกับซีเรียในช่วงปลายเดือนมิถุนายน โดยเรียกมันว่าเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของอิรัก
สหรัฐฯ มีแผนส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทค จำนวน 500,000 โดสแก่อิรัก ผ่านโครงการโคแว็กซ์ และไบเดนเผยว่าวัคซีนเหล่านั้นน่าจะถูกส่งไปยังอิรักในอีกราวๆ 2 สัปดาห์ข้างหน้า
นอกจากนี้แล้ว สหรัฐฯ ยังจะมอบเงิน 5.2 ล้านดอลลาร์ เป็นทุนสำหรับภารกิจของสหประชาชาติที่จะเข้าสังเกตการณ์การเลือกตั้งในอิรักในเดือนตุลาคม "เราตั้งตาคอยดูศึกเลือกตั้งในเดือนตุลาคม" ไบเดน กล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)