เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งซึ่งฉีดวัคซีนครบแล้ว มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก แต่บุคคลรายดังกล่าวไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ จากการเปิดเผยของโฆษกในวันอังคาร (20 ก.ค.) อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ไม่ใช่เคส breakthrough cases รายแรกของทำเนียบขาว
"ฉันยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งซึ่งฉีดวัคซีนครบแล้วมีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก และเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้ออกนอกบริเวณแล้ว" เจน ซากี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของไบเดนกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมเผยว่าเจ้าหน้าที่รายนี้ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ มีอาการแค่เล็กน้อย
เธอบอกว่าเพื่อเป็นไปตามกฎระเบียบอันเข้มงวด เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวจะอยู่ห่างจากทำเนียบขาวจนกว่าจะมีการตรวจเชื้อเพิ่เติม และเวลานี้ได้ดำเนินการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดแล้ว
ซากี ยอมรับว่า มีผู้ฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังติดเชื้อโควิด-19 (breakthrough cases) รายอื่นๆ อีกหลายเคสที่ทำเนียบขาว แต่ไม่ยืนยันว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหนหรือเกิดขึ้นเมื่อไหร่
"เรารู้ดีว่าจะมีเคสฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังติดเชื้อ" ซากี บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงที่ทำเนียบขาว "อย่างไรก็ตาม ดังที่เคสนี้แสดงให้เห็น เคสในบุคคลที่ฉีดวัคซีนโดยทั่วไปแล้วจะมีอาการเล็กๆ น้อยๆ ทำเนียบขาวเตรียมพร้อมรับมือกับเคสฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังติดเชื้อด้วยการตรวจหาเชื้อเป็นประจำ"
โฆษกหญิงรายนี้ระบุว่า เคสโควิดเหล่านั้น "เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า วัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงหรือเข้าโรงพยาบาล"
อีกด้านหนึ่งสำนักงานของแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยืนยันว่าโฆษกระดับอาวุโสของเธอรายหนึ่ง มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก หลังพบปะกับเหล่าสมาชิกรัฐสภาประจำรัฐเทกซัส จากพรรคเดโมแครต ที่เดินทางมายังอาคารรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม บุคคลรายดังกล่าวไม่ได้สัมผัสกับเปโลซี นับตั้งแต่ติดเชื้อ
หลังมีความคืบหน้าอย่างมากในการต่อสูุ้กับโรคระบาดใหญ่ โครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของสหรัฐฯ มีอันต้องสะดุดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 68% ของอเมริกาที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส แต่มีความเหลื่อมล้ำทางภูมิศาสตร์เป็นอย่างมาก
การต่อต้านวัคซีนมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับความแตกแยกทางการเมืองในสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าบรรดาผู้ลังเลเข้ารับวัคซีนส่วนใหญ่แล้วมักเป็นกลุ่มคนหัวคิดอนุรักษนิยม โดยเฉพาะในบรรดาผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
(ที่มา : รอยเตอร์)