xs
xsm
sm
md
lg

Asian NATO

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร



หลายคนจะเคยชินกับคำว่า NATO ซึ่งเป็นองค์กรสนธิสัญญาความร่วมมือความมั่นคงของประเทศสองฟากฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ (North Atlantic Treaty Organization) ซึ่งก่อตั้งอย่างเป็นองค์กรถาวรเมื่อปี 1949 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อร่วมมือป้องกันซึ่งกันและกันจากความคุกคามของมหาอำนาจนิวเคลียร์สหภาพโซเวียต

แต่ในช่วงเกือบ 30 ปีที่ผ่านมานี้ สหภาพโซเวียตได้ล่มสลายจนทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การดำรงอยู่ของ NATO อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป

ขณะเดียวกัน ก็เกิดมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กลายเป็นยักษ์ที่ตื่นขึ้นมาจากความหลับใหล...ก็คือ การผงาดขึ้นมาของประเทศจีน จนกำลังจะแซงหน้าเป็นเศรษฐกิจใหม่อันดับหนึ่งของโลกภายในอีกไม่เกิน 10 ปีที่จะถึงนี้

การผงาดขึ้นของจีน ทำให้เพื่อนบ้านของจีนรู้สึกอึดอัดและไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งตัวเองก็ถูกแซงอันดับทางเศรษฐกิจจนญี่ปุ่นตกไปอยู่เป็นลำดับที่ 2 รองจากจีน

และด้านแสนยานุภาพของจีน โลกยังได้เห็นถึงการเพิ่มงบการทหารและเทคโนโลยีจนวันนี้ แม้จะยังไม่มีเรือรบบรรทุกเครื่องบินที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ แต่จีนกำลังต่อเรือลำที่ 4 และคุยด้วยว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยนิวเคลียร์

ภายในจีนเองก็ปราบปรามปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างเด็ดขาดจนทั้งชาวจีนเองและประเทศอื่นๆ ก็ยกนิ้วให้กับการดำเนินการจริงจังเรื่องโกงชาติ สร้างความนิยมในหมู่ประชาชนจีน และเกี่ยวโยงกับการกำจัดความยากจนถึง 100 ล้านคนอย่างน่าอัศจรรย์

การเติบโตของจีน ทำให้นายกฯ ชินโซ อาเบะ ได้พยายามเสนอแนวคิด “วงโค้งแห่งประชาธิปไตย-Arc of Democracy” ขึ้นในปี 2007 ในสมัยที่อาเบะเป็นนายกฯ ญี่ปุ่นครั้งแรก

แนวคิดคือ เหล่าประเทศเสรีประชาธิปไตยควรผนึกกำลังกัน เพื่อสร้างแนวป้องกันการคุกคามหรือรุกรานของประเทศใหญ่ที่กำลังเติบโต ซึ่งหมายถึงจีน (รวมทั้งเกาหลีเหนือที่เป็นประเทศกันชนระหว่างจีนกับประเทศเสรีเช่น เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น)

จริงๆ แล้วมีทะเลจีน 2 แห่งที่จีนได้แผ่อิทธิพลพยายามไปปักหลักด้านการทหาร และยึดครองทรัพยากรด้วย

นั่นคือ ทะเลจีน-ทางตะวันออก และ-ทางตะวันออกเฉียงใต้

แนวคิดของอาเบะเข้าตารองปธน.สหรัฐฯ ดิ๊ก เชนีย์ และรมต.กลาโหมโดนัลด์ รัมสเฟลด์ ซึ่งจัดตั้งกลุ่ม QSD หรือ Quadrilateral Security Dialogue โดยเป็นกลุ่มพันธมิตรแบบไม่เป็นทางการ (แต่มีลักษณะคล้าย NATO) โดยมีการซ้อมรบในกลุ่ม 4 ประเทศคือ สหรัฐฯ (หัวเรือใหญ่) ญี่ปุ่น, อินเดีย และออสเตรเลีย

ครั้งนั้นมีเสียงคัดค้านมาจากจีนทันทีว่า นี่จะสร้างกลุ่มพันธมิตรทางการทหารแบบนาโตใช่หรือไม่ จะเป็น Asian NATO หรือ? จะยิ่งสร้างความไม่มั่นคงในภูมิภาคซึ่งอาจนำสู่การเผชิญหน้าทางการทหาร และสงครามเย็นก็จบไปแล้ว (หลังปี 1990)...ทำไมยังคงมีสติปัญญาวิธีคิด (mentality) แบบระแวงกันแทนการร่วมมือกัน...ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่สงบในภูมิภาคเอเชียได้

กลุ่มไม่เป็นทางการ QSD ก็มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า Quad หรือกลุ่ม 4, 4 สหาย หรือจตุรมิตร ซึ่งในช่วงหลังปี 2008 ก็ไม่ค่อยพัฒนาจริงจังขึ้น เพราะนายกฯ ออสเตรเลียเควิน รัดด์ ขอถอนตัว เนื่องจากเกรงจะทำให้จีนไม่พอใจที่กลุ่มพยายามสร้างแนวปิดล้อมจีน ในขณะที่ออสเตรเลียหวังผลประโยชน์การค้าและการลงทุนจากจีน รวมทั้งนักศึกษาจีนที่มาเรียนที่ออสเตรเลีย และนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวออสเตรเลียด้วย

และนายกฯ อินเดียสมัยของนายมานโมฮัน ซิงห์ (พรรคองเกรส) ก็ผูกมิตรกับจีนแนบแน่น

กลุ่ม 4 สหายจึงเงียบไปพักหนึ่ง ขณะที่จีนเดินหน้าเติบใหญ่อย่างไม่หยุดยั้ง

นำมาสู่การพยายามตั้งกลุ่มการค้า การลงทุน TPP สมัยโอบามา-ไบเดน เพื่อปิดล้อมจีนด้านเศรษฐกิจ ซึ่งยังไม่ได้ออกบิน ก็หมดสมัยของโอบามา และ TPP ก็ค้างเติ่งอยู่

จนโดนัลด์ ทรัมป์เข้ามาหลังโอบามา เขาได้รื้อฟื้นการปักหมุดสู่เอเชีย (Pivot to Asia) กลับมาในปี 2017 ในการประชุมข้างเวทีอาเซียนที่มะนิลา โดยเปิดตัวกลุ่ม Indo-Pacific (ใน 2 มหาสมุทร) เพื่อปิดล้อมจีน และตามมาด้วย รมต.ต่างประเทศปอมเปโอจัดการประชุมระดับ รมต.ต่างประเทศ และประกาศแข็งกร้าวให้เขตอินโด-แปซิฟิกเป็นเขตเสรี, เขตน่านฟ้าน่านน้ำเปิด จนเรือลาดตระเวนและกองเรือรบสหรัฐฯ หวิดๆ จะปะทะกับกองกำลังที่ฐานทัพของจีน (ที่เกิดจากการถมทะเลในบริเวณเกาะแก่งทางตะวันตกของฟิลิปปินส์)

และเมื่อไบเดนเข้ามารับตำแหน่งก็สานต่อนโยบาย Pivto to Asia โดยจัดการประชุมสุดยอดครั้งแรกในกลุ่ม Quad เมื่อ 12 มีนาคมที่ผ่านมา และมีแถลงการณ์ยุทธศาสตร์ชัดแจ้งว่า ภูมิภาค 2 มหาสมุทรนี้จะเป็นเขตเสรี, น่านน้ำน่านฟ้าเปิด และเป็นการรวมกลุ่มของประเทศเสรีประชาธิปไตยที่ปลอดจากการคุกคาม (จากจีน)

รมต.ต่างประเทศจีน หวัง อี้ ออกมาคำรามทันทีว่า นี่เป็น New NATO นั่นเอง ทำให้ภูมิภาคนี้หมิ่นเหม่เกิดการเผชิญหน้า และเป็น Second Cold War

น่าจะเป็นแผนของไบเดน ที่จัดการประชุม Quad ตัดหน้าก่อนการประชุมครั้งแรกของ รมต.ต่างประเทศ (บลิงเคน) ของสหรัฐฯ และ (หวัง อี้) ของจีน ซึ่งทำให้สหรัฐฯ มีพันธมิตรยิ่งใหญ่ สร้างแรงต่อรองก่อนการเจรจากับจีน ซึ่งการพบกันครั้งแรกของบลิงเคนและหวัง อี้ จะเกิดในวันพฤหัสฯ นี้ที่อลาสกา เมืองแองคอเรจ

เป็นที่จับตาของทั้งโลก ถึงการประชุมสำคัญระหว่างสหรัฐฯ กับจีนครั้งนี้ โดยหวัง อี้ ได้พูดว่า เขาคาดหวังจะมีการ Reset ตั้งต้นใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยเฉพาะหลังความสัมพันธ์ที่เลวร้ายยิ่งสมัยทรัมป์ จนเป็นสงครามทั้งการค้าและเทคโนโลยี ขณะที่ทั่วโลกกำลังคาดหวังความร่วมมือในระดับหนึ่งระหว่างสองประเทศในปัญหาใหญ่ๆ ของโลก เช่น เรื่องโลกร้อน เรื่องโควิด เรื่องสงครามการค้าซึ่งทั้งสองประเทศยักษ์ใหญ่น่าจะร่วมมือกันได้ระดับหนึ่ง รวมทั้งเรื่องนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ และการสังหารโหดประชาชนของคณะรัฐบาลทหารพม่า




กำลังโหลดความคิดเห็น