วันนี้(16 มี.ค)นายรุ่งเดช หลิว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยเอเซียอาคเนย์
หลังจากที่ได้มีการฉีดวัคซีนและกำลังจัดระบบรับรองเอกสารเดินทาง Vaccine Passport นั้น ทำให้มีคนจีนเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนในเมืองไทยมากขึ้น ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกด้วยโรคโควิด- 19 จีนถือว่ามีศักยภาพสูงในการค้าทางเศรษฐกิจ และสามารถเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทางเราจึงต้องอาศัยตลาดจีนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงต้องรีบเตรียมการณ์ไว้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี โดยตามสถิติก่อนที่จะมีโรคโควิด - 19 ซึ่งคำนวณตามฐานที่นักท่องเที่ยวจีนมาใช้จ่ายในประเทศไทย 15,000 บาท/คน จะมีรายได้ให้กับเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท/ปี นอกจากนั้น สินค้าการเกษตรที่เป็นผลไม้ เช่น ทุเรียน จีน ก็เป็นตลาดที่สำคัญมาก ดังนั้น จึงขอฝากข้อเสนอและข้อสังเกตประกอบการพิจารณาในแนวทางการดำเนินการ ดังนี้
นายรุ่งเดช กล่าวต่อว่า การจัดวางแผนที่ช่วยทำให้คนจีนรู้สึก สะดวกสบายขึ้นเมื่อมาถึงเมืองไทย โดยการจัดการอบรมและมีบุคลากรที่เข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่มาจากจีน เพื่ออำนวยความสะดวกในระหว่างที่อยู่ในเมืองไทย และจัดงานแสดงสินค้าของไทยทั้งในไทยและในจีนเพื่อให้ประชาชนจีนสัมผัสและรู้จักสินค้าไทยให้มากขึ้นและสามารถมีการสั่งซื้อสินค้าของไทยทั้งในร้านและออนไลน์ นอกจากนี้ให้ครูที่สอนภาษาจีนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยของไทยที่มาจากจีนมีหน้าที่แนะนำสินค้าไทยให้กับประชาชนจีนซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เผยแพร่วัฒนธรรมจีนพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนการโปรโมทสินค้าไทยพร้อมกัน
นายรุ่งเดช กล่าวต่ออีกว่า รัฐต้องผลักดันให้เกิดตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อให้เกษตรกรของไทยรู้ต้นทุนและราคาล่วงหน้าสามารถจัดการการผลิตและมีหลักประกันรายได้ ช่วยกันรักษาบรรยากาศที่เป็นมิตร เพราะเมื่อคนจีนเข้ามาถึงเมืองไทยแล้ว มักจะเห็นคนจีนออกข่าวในสื่อของไทยในเชิงทางลบมากไป จนทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่สบายใจ โดยเฉพาะเมื่อไม่นานมาก่อนมีการจับกุมพระปลอมที่เรียกรับบริจาคเงินในนามของวัดต่างๆ เช่น วัดเซ้าหลิน ของจีน ที่มาหลอกลวงชาวบ้านและคนจีนด้วยกันนั้น เมื่อครั้งที่คนต่างชาติยูโรปขอรับบริจาคเงินเพื่อ Southem Baptist Church ซึ่งเป็นองค์กรศาสนาในต่างประเทศ ก็ไม่เห็นเป็นข่าว จึงทำให้เราต้องรีบแก้ไขจัดการ เพื่อไม่ให้เขาเข้าใจผิด คือ เมื่อเดินทางมาในไทยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต้องปฏิบัติตามกฏหมายไทย และควรมีการแนะนำการลงทุนอย่างถูกต้อง เพราะเมื่อโครงการการลงทุนผ่านความเห็นชอบจาก BOI แล้ว ในบริษัทที่จดทะเบียนนั้น คนต่างชาติจึงจะถือหุ้น 100% จะได้ทำให้คนจีนที่เข้ามาลงทุนไม่ถูกหลอกและสามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัย