xs
xsm
sm
md
lg

วัคซีนต้านจีนจาก QUAD โลกนี้ไม่มีของฟรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นพ นรนารถ



สหรัฐอเมริกาในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังกอบกู้ความเป็นผู้นำโลก และปรับปรุงความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่เสื่อมทรามลงในสมัยโดนัลด์ ทรัมป์ให้กลับคืนมา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ต้านอิทธิพลจีนที่แผ่ขยายอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก

การประชุม The QUAD (Quadrilateral Security Dialogue) หรือกรอบความร่วมมือด้านความมั่นคง 4 ฝ่ายครั้งล่าสุดวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม ผ่านระบบทางไกล เป็นการประชุมระดับ “ผู้นำ” เป็นครั้งแรก โดยมีโจ ไบเดน เป็นประธานการประชุมที่ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี นายกฯ ญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซูงะ และนายกฯ ออสเตรเลีย สก็อตต์ มอร์ริสัน ประกาศว่า จะผนึกกำลังเพื่อปกป้องภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ให้คงความเสรีและเปิดกว้าง

“เราจะฟื้นฟูเจตนารมณ์ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าภูมิภาคแห่งนี้จะอยู่ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ คงไว้ซึ่งค่านิยมสากล และปราศจากการข่มขู่คุกคาม” แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อจีน แต่คำแถลงของไบเดนดังกล่าว ชัดเจนว่า พุ่งเป้าไปที่จีน ซึ่งยึดหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ ที่เป็นข้อพิพาทกับหลายๆ ประเทศในกลุ่มอาเซียนโดยพลการ ด้วยการสร้างสนามบินบนเกาะ และส่งกองเรือลาดตระเวนในน่านน้ำทะเลจีนใต้

วาระสำคัญในการประชุมนี้คือ การประกาศว่า จะส่งมอบวัคซีนต้านโควิด 1 พันล้านโดส ให้กับชาติสมาชิกอาเซียนภายในสิ้นปี 2022 เป็นวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่อินเดียจะเป็นผู้ผลิต ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ให้เงินทุน และออสเตรเลียรับปากว่า จะลงขัน 500 ล้านดอลลาร์ เป็นค่าใช้จ่ายในการขนส่ง กระจายวัคซีนให้กับประเทศอาเซียนและหมู่เกาะแปซิฟิก

นี่คือ การทูตวัคซีนแข่งกับจีนที่นำหน้าไปหลายช่วงตัวแล้ว ด้วยการแจกจ่ายวัคซีนของตนเองให้ประเทศกำลังพัฒนาในอาเซียน คือ กัมพูชา ลาว พม่า และประเทศในทวีปแอฟริกา ละตินอเมริกา หมู่เกาะแคริบเบียน อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับสิทธิผลิตวัคซีน แอสตร้า เซนเนก้า ภายใต้ชื่อ “โควิดชีลด์” เป็นอีกชาติหนึ่ง ที่มอบวัคซีนให้กับประเทศเพื่อนบ้าน คือ เนปาล ศรีลังกา บังกลาเทศ พม่า และประเทศในคาบสมุทรแคริบเบียน มหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยเจตนาดีที่ต้องการช่วยเหลือ ปนๆ ไปกับ การหยิบยื่นไมตรีที่หวังผลเรื่องอื่นๆ

ข้อเสนอให้วัคซีน 1,000 ล้านโดสของ QUAD น่าจะเป็นการริเริ่มและการผลักดันของสหรัฐฯ เพื่อถ่วงดุลกับจีน สหรัฐฯ และชาติตะวันตก ทุ่มเงินมหาศาลจับจอง กว้านซื้อวัคซีนต้านโควิดเป็นจำนวนมาก เพื่อฉีดให้พลเมืองของตน ไม่เหลือให้ประเทศอื่นๆ เลย ตรงข้ามกับจีนที่ทั้งแจกและทั้งขายวัคซีน ซิโนฟาร์ม และซิโนแวคของตนให้กับประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก รวมทั้งละตินอเมริกา ซึ่งเป็นหลังบ้านของสหรัฐฯ แท้ๆ ก็ยังต้องพึ่งวัคซีนของจีน

สหรัฐฯ อังกฤษและอียู เพิ่งจะมาแสดงน้ำใจกับชาวโลก หลังจากที่ตุนวัคซีนสำหรับคนของตัวเองจนพอแล้ว การประชุมจี 7 ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไบเดน ประกาศว่า จะมอบเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์กับโครงการผลิตวัคซีนโควิดขององค์การอนามัยโลก

กลุ่ม QUAD เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2004 หลังเหตุการณ์สึนามิถล่มหลายๆ ประเทศรอบๆ มหาสมุทรอินเดีย ญี่ปุ่นเป็นตัวตั้งตัวตีประสานงานกับสหรัฐฯ อินเดีย และออสเตรเลีย ให้ความช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบ ต่อมาในปี 2007 ชินโสะ อาเบะ ตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นครั้งแรก ได้เสนอแนวคิดเรื่องอินโด-แปซิฟิกเป็นครั้งแรก และพยายามรื้อฟื้น QUAD ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ปีถัดมาเขาพ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งการเปลี่ยนผู้นำของออสเตรเลีย และสหรัฐฯ บทบาท QUAD จึงแผ่วไป

ยุคประธานาธิบดีทรัมป์ QUAD ถูกปัดฝุ่นใหม่พร้อมๆ กับแนวคิดอินโด-แปซิฟิก เพื่อสกัดจีน ซึ่งนำเสนอนโยบาย One Belt One Road ทั้งญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย ต่างรู้สึกว่า ถูกคุกคามจากการขยายอิทธิพลในทุกด้านของจีน แต่ก็มีจุดยืนต่างจากสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ QUAD เป็นเวทีร่วมมือในด้านความมั่นคงด้วย เพราะประเทศเหล่านั้น มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนด้วย จึงไม่ต้องการให้ QUAD ถูกใช้เป็นเครื่องมือของสหรัฐฯ ในการปิดล้อมจีน ขอเป็นแค่เวทีพูดคุย เพื่อถ่วงดุลกับจีนในบางสถานการณ์เท่านั้น

การประกาศแจกวัคซีนให้ชาติอาเซียน คือ ตัวอย่างของการถ่วงดุลที่ว่านี้ เพราะอาเซียนคือ หลังบ้านของจีน มีความสำคัญต่อจีน ทั้งในทางยุทธศาสตร์ความมั่นคง และในทางเศรษฐกิจ เพราะรวมๆ กันแล้ว อาเซียนมีขนาดทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นที่ 3 ของโลก เป็นฐานการผลิต และตลาดที่สำคัญของจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับแต่ละชาติในอาเซียนด้วยว่า จะมีท่าทีอย่างไร บางประเทศอย่างกัมพูชา และลาว อยู่ใต้อิทธิพลของจีนอย่างเต็มที่ ประเทศที่พึ่งตัวเองได้อย่างไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย คงจะต้องระมัดระวัง ในการรับวัคซีนฟรีทั้งจากจีน และจาก QUAD


กำลังโหลดความคิดเห็น