ปธน.สี ของจีนได้พูดถึงหงส์ดำมาเยือนจีนเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งก็คือโรคร้ายโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก มีการล็อกดาวน์ และผู้คนล้มตายจากโรคระบาด
แต่สำหรับรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ในกลางเดือนแห่งความรักปีนี้ กลับต้องเผชิญกับหงส์ดำที่น่าจะมาหลายตัวทีเดียว
เรื่องแรกก็คือ โควิด ซึ่งก็เป็นหงส์ดำตัวใหญ่ที่ถล่มสหรัฐฯ ทั้งประเทศ เสียจนคนตายไปแล้วถึงกว่า 5 แสนคน และเท็กซัสก็เป็นรัฐที่ถูกโควิดเล่นงานเช่นเดียวกัน
เรื่องที่สองก็คือ ความหนาวเหน็บต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ซึ่งทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงปรี๊ดขึ้นมาทันด่วน เพื่อให้ความอบอุ่นแก่อาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนผู้คนหลายล้านคน แล้วยังมีภาคธุรกิจที่ต้องใช้ความอบอุ่นเช่นเดียวกัน ตลอดจนโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งเป็นความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างทันด่วนพร้อมๆ กัน จนการจ่ายไฟฟ้ารับไม่ไหว ก็เลยเกิดไฟขาดในหลายๆ จุด
เรื่องที่สามก็คือ แหล่งผลิตไฟฟ้าก็เกิดล่มทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน, แก๊สธรรมชาติ, พลังงานนิวเคลียร์, พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ สาเหตุคือความเย็นยะเยือกต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ทำให้น้ำที่ต้องใช้ในระบบต่างๆ เกิดแข็งตัว แม้แต่กังหันลมก็มีน้ำแข็งเกาะเพราะเหตุหิมะถล่ม รวมทั้งแผงรับแสงอาทิตย์ก็มีหิมะเกาะเต็มไปหมด และแม้ว่าการขุดเจาะน้ำมัน และแก๊สธรรมชาติก็มีน้ำเกาะแข็งอยู่เต็มไปหมด
เรื่องที่สี่ก็คือ น้ำประปาที่ใช้ที่บ้านเรือน, แหล่งธุรกิจ, โรงเรียน, โรงพยาบาล ก็แข็งตัวหมด และทำให้ท่อน้ำทั้งใหญ่และเล็กมีการปริแตก ทำให้ประชาชนขาดน้ำสะอาด ทั้งในการบริโภคดื่มหรือทำความสะอาด
ชาวเท็กซัสไม่พอใจการจัดการกับปัญหาของทางการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองพรรครีพับลิกัน เพราะไม่มีการเตรียมการเพื่อรับมือกับพายุหิมะที่มีการเตือนก่อนแล้วว่าจะมาถล่มเท็กซัส, อย่างหนักหนาที่สุดในรอบ 30 ปี
โดยเฉพาะเท็กซัสจะเคยกับอากาศที่ร้อนสุดๆ หรือแล้งสุด แต่จะไม่มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับพายุฤดูหนาวที่กำลังสุดเหวี่ยงมากยิ่งขึ้นทุกๆ ปีจากภาวะโลกร้อน
จริงๆ แล้วมีสัญญาณเตือนภัยเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่เท็กซัสเจอกับพายุฤดูหนาวที่รุนแรง (แต่ไม่รุนแรงและยาวนานเท่าครั้งนี้) และได้มีข้อคิดเห็นทางวิชาการหรือให้ทางการตระเตรียมโครงสร้างพื้นฐานไว้รับมือ แต่เวลาที่ผ่านไปก็ไม่ได้เตรียมยกเครื่องอุปกรณ์ต่างๆ ให้พอเพียง
ถ้าเปรียบเทียบกับรัฐอื่นๆ ทางตอนเหนือเช่น แถบทะเลสาบทั้ง 5 คือ มิชิแกน, วิสคอนซิน เป็นต้น ระบบโครงสร้างพื้นฐานจะมีการเตรียมรับมือกับพายุฤดูหนาวได้อย่างดี ซึ่งต่างกับเท็กซัส
ตอนนี้มีคนตายจากความหนาวไปกว่า 50 คน และตัวเลขยังไม่หยุด
บางครอบครัวตายเพราะไปจุดเตาผิงแล้วควันคาร์บอนไดออกไซด์เกิดรมทั้งห้องทำให้สลบแล้วตาย
บางคนไปติดเครื่องรถยนต์ในโรงเก็บรถที่ปิดมิดชิด เพื่อรับไออุ่นจากรถยนต์ ก็เผชิญปัญหาไฟคลอกหรือสูดดมคาร์บอนไดออกไซด์ตายยกครัว
เมื่อไม่มีน้ำประปาดื่มและชำระร่างกาย ก็ต้องไปโกยเอาหิมะมาต้มน้ำกิน!
การไม่เตรียมการของทางการเท็กซัส รวมทั้งบริษัทผลิตไฟฟ้า ถูกตำหนิจากประชาชนมาก ยิ่งอดีตรมต.กระทรวงพลังงานที่เพิ่งพ้นตำแหน่งไปหยกๆ คือ นายริก เพอร์รี (Rick Perry) ซึ่งเป็นรมต.พลังงานสมัยทรัมป์ และเคยเป็นผู้ว่าการรัฐเท็กซัสยาวนานถึง 15 ปี (ปี 2000-2015) ก็ไม่ได้เคยจัดการเตรียมตัวระบบไฟฟ้า น้ำประปา และพลังงานที่ก่อเกิดไฟฟ้าให้เพียงพอสำหรับเท็กซัส
ด้านปธน.คนที่ 46 ของสหรัฐฯ คือ โจ ไบเดน ได้ออกประกาศเขตภัยพิบัติรุนแรงเป็นภาวะฉุกเฉินที่เท็กซัส เพื่อทำให้เงินช่วยเหลือด่วนจากรัฐบาลกลาง สามารถนำมาใช้เพื่อจัดหาน้ำดื่ม น้ำใช้ที่สะดวก และนำอาหารมาแจกจ่ายกับประชาชน รวมทั้งสามารถส่งกองกำลังรักษาดินแดนเข้ามาช่วยในเหตุฉุกเฉิน เพราะไฟถนนดับมีแต่ความมืดมิด รถยนต์ที่ไม่เคยชินกับหิมะ (ถนนลื่น) ก็เกิดอุบัติเหตุมากมายกลางถนนระหว่างเมือง
ท่ามกลางประชาชนชาวเท็กซัส ขาดอาหาร, น้ำ และหนาวเหน็บ (ต้องไปเข้าแถวรออาหารแจก) ปรากฏว่า ส.ว.คนดังของเท็กซัส (เพิ่งชนะหวุดหวิดเข้ามารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สองเมื่อต้นพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง) คือ เท็ด ครูซ (Ted Cruz) ที่เป็นตัวตั้งตัวตีอุ้มทรัมป์ในการอภิปราย และลงคะแนนขวางชัยชนะของไบเดน และยกมือไม่ให้ถอดถอนทรัมป์ ทั้งๆ ที่ทรัมป์เคยตั้งฉายาว่าเป็น “ไอ้เท็ดจอมโกหก” (Lying Ted) เพราะ ส.ว.เท็ด ครูซ แกมีนิสัยชอบปลิ้นปล้อนเอาตัวรอดไปตลอดแบบศรีธนญชัย
พอที่บ้านไม่มีน้ำและไฟฟ้า ส.ว.เท็ด ครูซได้รีบพาภรรยาและลูกสาวเผ่นขึ้นเครื่องบินหนีเท็กซัสไปอยู่เมืองชายหาดแคนคูนแสนสวยงามของเม็กซิโก ทิ้งให้ชาวเท็กซัสต้องเผชิญชะตากรรมโดยเขาไม่แยแสเลย
พอชาวเท็กซัสเห็นภาพแพร่ในโซเชียลมีเดียที่เท็ด ครูซกำลังลากกระเป๋าเดินทางเพื่อขึ้นเครื่องจากเท็กซัสจะไปเม็กซิโก ชาวบ้านโกรธมาก และทัวร์ลงกระหน่ำเขาทันที
นายเท็ด ครูซ จึงรีบเดินทางกลับมาเท็กซัส หลังไปพักที่เม็กซิโกได้แค่ 2-3 วัน แต่เขาก็ปลิ้นปล้อนในทวิตเตอร์ของเขาว่า เขาผิดไปแล้วที่หนีเอาตัวรอดไปหาความสะดวกสบาย แต่เขาก็โกหกบอกว่า เขาเกิดเปลี่ยนใจเมื่อพาภรรยาและลูกสาวไปถึงเม็กซิโกแล้วก็รีบหาเที่ยวบินแรกกลับมาเท็กซัสทันที เขาบอกว่า เขารักลูกสาวทั้งสองมาก และเขาก็เหมือนกับพ่อทุกๆ คนในเท็กซัสที่รักลูกของตน และลูกสาวรบเร้าให้พาไปยังเม็กซิโก
ฝ่าย ส.ส.ปีกก้าวหน้าของพรรคเดโมแครตคือ ส.ส.อเล็กซานเดรีย โอกาซิโอ-กอร์เตส แห่งรัฐนิวยอร์ก ได้เปิดการรณรงค์ระดมเงินช่วยเหลือด่วนๆ แก่ชาวเท็กซัส ต่างกับเท็ด ครูซ หน้ามือเป็นหลังมือ
เธอได้รับเงินบริจาคจากทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากนิวยอร์ก ได้ยอดกว่า 5 ล้านเหรียญในเวลาแค่ 3 วัน! ทำเอาชาวเท็กซัสพอใจมากและขอบคุณเธอยิ่ง
เธอบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นรีพับลิกันหรือเดโมแครต แต่เมื่อคนตกทุกข์ได้ยากทุกคนมีหน้าที่ต้องส่งความช่วยเหลือทันที
หงส์ดำถล่มเท็กซัส (และรัฐอื่นๆ ที่หนาวเหน็บเป็นแถบยาวจากใต้ถึงตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ) ทำให้การฉีดวัคซีนโควิดต้องล่าช้าจากการขนส่งที่ยากลำบากยิ่ง
และบทเรียนความไม่เตรียมพร้อมของฝ่ายบริหารรัฐเท็กซัสครั้งนี้ อาจทำให้เปลี่ยนโฉมหน้าพรรคการเมืองที่ครองเท็กซัส (เป็นรีพับลิกัน) มาเป็นพรรคเดโมแครตก็เป็นได้ เพราะเมื่อ 60 ปีที่แล้ว รัฐนี้มีฝ่ายบริหารเป็นเดโมแครตทั้งนั้น เช่น LBJ ซึ่งนำความเจริญให้แก่เท็กซัสมากมายทั้งระบบ น้ำประปา, ถนนหนทาง และไฟฟ้า จนเขาได้เดินทางต่อไปเป็นรองประธานาธิบดีของ JFK และต่อมาได้เป็นประธานาธิบดีด้วยซ้ำ