xs
xsm
sm
md
lg

ยันรฟม.ล้มประมูล"สีส้ม"ผิดกฎหมาย-“บีทีเอส”ดิ้นสู้ต่อจ่อยื่นอุทธรณ์-ฟ้องเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360 - บีทีเอสเตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง หลังจำหน่ายคดีฟ้องรฟม.เปลี่ยนหลักเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม และจ่อฟ้องเพิ่มเหตุยกเลิกประมูลชี้ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ศาลนัดฟังคำสั่ง 15 มี.ค.นี้ “สุรพงษ์” ไม่ตอบร่วมประมูลใหม่หรือไม่ ชี้เกณฑ์ผ่านเทคนิค ใช้ราคาตัดสินดีที่สุด งาน PPP สัญญายาว หากคุณภาพไม่ดีเอกชนต้องรับความเสี่ยง

วานนี้( 10 มี.ค.) นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี และ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ที่ปรึกษา ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้แถลงข่าวความคืบหน้า เรื่อง “การดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม” โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า วันที่ 9 มี.ค.64 บริษัทฯได้ส่งจดหมาย ถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และประธานคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ขอให้ตรวจสอบการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เนื่องจากรฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐ และเอกชนพ.ศ. 2562 ได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ไม่ชอบ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา. บริษัทได้ทำหนังสือสอบถาม และขอความเป็นธรรมถึงบุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการรวม 5 ฉบับ แต่ไม่ได้รับการชี้แจง การตรวจสอบความไม่เป็นธรรม แต่อย่างใด ซึ่งบริษัท เห็นว่า การดำเนินการของรฟม. น่าจะไม่ถูกต้องทั้งข้อกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ระหว่างพิจารณายื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่ได้จำหน่ายคดีที่บริษัท ยื่นฟ้อง รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ซึ่งยังเรื่องประเด็น ชดใช้ค่าเสียหาย 5 แสนบาท อีกทั้งยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาประเด็นใหม่ ที่ รฟม. ยกเลิกการประกวดราคาและทำการเปิดประกวดราคาใหม่ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นเอกชนร่าง RFPใหม่ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีเวลาพิจารณาและยื่นฟ้องศาลใหม่ภายใน90 วัน

ขณะเดียวกันยังมีกรณีที่บริษัทยื่นฟ้องที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฟ้องผู้ว่าฯรฟม.และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,165 ซึ่งวันที่ 15 มี.ค. นี้ ศาลจะมีคำสั่งรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่

ส่วนกรณีที่รฟม.เปิดประมูลใหม่ บริษัทฯจะเข้าร่วมหรือไม่นั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องขอดูทีโออาร์ และรายละเอียดอื่นๆ ก่อน อีกทั้งการจะร่วมประมูลหรือไม่อยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการบริษัทฯด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการใช้หลักเกณฑ์เดิม มีความเหมาะสม โดยพิจารณาจากซองเทคนิคก่อน และตัดสินที่ซองราคา ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการร่วมลงทุน (PPP) ดังนั้นเอกชนคู่สัญญาจะต้องอยู่คู่กับภาครับอีกนาน คุณภาพก่อสร้างและประสิทธิภาพการบริการ หากไม่ดีเป็นความเสี่ยงของเอกชนทั้งส้ิน

พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ที่ปรึกษา ประธานกรรมการ บีทีเอส กล่าวว่า การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น มีความผิดปกติในขั้นตอนที่กำลังรอให้เอกชนยื่นข้อเสนอ เมื่อมีบริษัทเอกชนที่ร่วมซื้อซอง ทำหนังสือไปถึง ผู้ว่าการรฟม. และ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ขอให้พิจารณาเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การพิจารณาผู้ชนะการประมูล โดยอ้างเหตุผล ถึงหลักเกณฑ์ และความเสี่ยงสูง ของการขุดเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งผ่านพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน จะต้องใช้เทคนิคการออกแบบทางวิศวกรรมและวิธีการก่อสร้างขั้นสูงเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อประชาชนในด้านต่างๆ และการที่ ผอ.สคร. ทำหนังสือถึง รฟม.แจ้งว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกก.คัดเลือกมาตรา 36 ตรงนี้เป็นพิรุธ เนื่องจาก สคร. มีฐานะเป็นเลขาคณะกรรมการ PPP หากมีปัญหาเกิดขึ้นต้องเสนอ คณะกรรมการPPP พิจารณา

ขณะที่ คณะกก.คัดเลือกมาตรา 36 ไม่มีอำนาจแก้ไขหลักเกณฑ์การคัดเลือก โดยมีหน้าที่เห็นชอบร่าง RFP เท่านั้น ซึ่งตามพรบ.ร่วมลงทุน ปี 62 กระบวนการประกวดราคาตั้งแต่ขายซอง รับซอง ประเมินข้อเสนอ และเสนอครม.อนุมัติ ต้องเดินหน้าให้จบไม่สามารถย้อนหลังได้ และจาการตรวจสอบ ตั้งแต่มาตรา 1-70 ไม่มีมาตราใดให้อำนาจเปลี่ยนเปลง ยกเว้น ประกาศคณะกรรมการ PPP ข้อ 9 ที่ระบุกรณีขายซองแล้ว ถึงกำหนดรับซองแต่ไม่มีผู้ยื่น หรือมีผู้ยื่นแต่ไม่ผ่านเกณฑ์ จึงจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญจะต้องเสนอ ครม. พิจารณา ซึ่งสายสีส้มยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น จึงไม่เข้าข่ายข้อ 9 ดังนั้นการกระทำของรฟม. และคณะกก.มาตรา36 ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

“รฟม.อ้างสงวนสิทธิ์ตาม RFP ข้อ 12.1 ต้องบอกว่า สิทธิ์กับอำนาจทางกฎหมาย เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งการยกเลิกประมูลของรฟม. ไม่ได้อ้างอิงข้อกฎหมายในพรบ.ร่วมลงทุน รวมถึงการยกเลิกประมูล เปิดรับฟังความเห็นร่าง RFP ใหม่ ก็ไม่มีกฎหมายรองรับ หากรฟม.ยังดึงดันต่อ ไม่เลือกใช้วิธีที่ถูกต้อง ปีนี้ก็ไม่ประมูลไม่เสร็จบริษัทจะฟ้องต่อไป วันนี้ เรากับรฟม.พูดคนละเรื่อง เราพูดเรื่องไม่ทำตามกฎหมาย รฟม.พูดเรื่อง Price Performance มีกฎหมายให้ทำแต่รฟม.ไม่ทำ การที่รฟม.ทำแบบนี้เพื่ออะไร ใครสั่งให้ทำ ใครได้ประโยชน์ ”

อย่างไรก็ตาม การที่บริษัท ยื่นหนังสือถึง นายกฯ ประธานบอร์ด PPP รมว.คมนาคม และประธานบอร์ดรฟม. เพื่อให้ตรวจสอบการกระทำของผู้ว่าฯรฟม.และผู้เกี่ยวข้องและสั่งการให้รฟม.หยุดการกระทำใดๆ จนกว่าศาลจะมีคำสั่ง เราเชื่อว่าเมื่อมีการตรวจสอบโครงการต้องหยุด ต้องถามว่า หากรฟม.เดินหน้าประมูลเสนอครม.อนุมัติ เท่ากับต้องการดึงผู้ใหญ่มาร่วมรับผิดด้วยหรือไม่ เราเห็นว่าเรื่องนี้ ต้องมีจุดจบ ต้องมีคนลงมาแก้ปัญหา


กำลังโหลดความคิดเห็น