ผู้จัดการรายวัน360 - “รฟม.”ลุยประมูลสายสีส้มรอบใหม่ หลังศาลจำหน่ายคดีบีทีเอสฟ้องร้อง ย้ำเปิดรับฟังความเห็น ร่าง RFP ก่อนสรุปเสนอกก.มาตรา 36 เคาะเกณฑ์คัดเลือก แจงคะแนนเทคนิคกับราคา 30-70 เพื่อประโยชน์ต่อโครงการและรฟม.ด้าน “ศักดิ์สยาม”สั่งรฟม.เตรียมพร้อมชี้แจงหลัง “บีทีเอส”ร้องนายกฯ กำชับยึดพรบ.ร่วมทุนฯ ทุกขั้นตอน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม วานนี้(9 มี.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้พูดถึงกรณี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ได้ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกรณีที่เปิดประกวดราคาใหม่ เพราะการที่บีทีเอสไปยื่นหนังสือถึงนายกฯ อาจทำให้คนจะมองว่า มีการทำอะไรไม่ถูกต้องหรือไม่
"ได้กำชับรฟม. ดำเนินการโดยยึดตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งในการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนนั้น การจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) เป็นอำนาจของคณะกรรมการตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ. ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งรมว.คมนาคมนั้น ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ"
สำหรับกรณีที่ บมจ.บีทีเอสซี ยื่นศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนประกาศหลักเกณฑ์การประมูลใหม่ หลัง รฟม.มีการเปิดประมูลไปแล้ว ในคดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 คดีหมายเลขแดงที่.../25.. ล่าสุด ศาลได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีบางข้อหา เพราะเหตุแห่งการฟ้องคดีบางข้อหาหมดสิ้นไป ลงวันที่ 5 มีนาคม 2564 ทั้งนี้ ผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งศาล
รฟม.เดินหน้าประมูลใหม่ เน้นเทคนิคก่อสร้าง
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าฯ รฟม. กล่าวว่า จากที่รฟม. ได้ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุด และศาลได้พิจารณาเห็นว่า เหตุแห่งการฟ้องคดี รวมถึงเหตุแห่งการพิจารณา เกี่ยวกับการขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองไม่มีอยู่ต่อไป และคดีนี้มิได้เป็นคดีที่เกี่ยวกับการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ การพิจารณาคดีต่อไปไม่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
ต่อมาวันที่ 9 ก.พ. 2564 คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ และ รฟม. ได้ยื่นคำร้องชี้แจงข้อเท็จจริงและขอให้จำหน่ายคดี และศาลปกครองกลางได้มีคำสั่ง ฉบับลงวันที่ 5 มี.ค. 2564 จำหน่ายคดีในข้อหาที่ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากที่รฟม.ได้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 และได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ ขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกนั้น รฟม. เห็นว่าจำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพพื้นที่เส้นทางโครงการฯ ที่เอกชนผู้ร่วมลงทุนต้องดำเนินการด้วยเทคนิคก่อสร้างที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด
และช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ จะนำร่างประกาศเชิญชวนฯ ร่างเอกสาร RFP และร่างสัญญาฯ รวมถึงผลการรับฟังความคิดเห็น เสนอคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนพิจารณาเห็นชอบฯ คาดว่าจะเปิดขายเอกสารประกวดราคา ในเดือนเม.ย. 2564 ให้เอกชนทำข้อเสนอพ.ค.-มิ.ย.64 จากนั้นจะประเมินข้อเสนอและได้ตัวผู้รับจ้าง ในเดือนก.ค.64 และเสนอที่ประชุมครม.รับทราบผลการเจรจาในเดือนส.ค.64 คาดว่าจะเปิดให้บริการสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในปี2567 และด้านตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ -บางขุนนนท์ ปี 2569
“การยกเลิกประมูล โดยไม่รอคำตัดสินของศาลเพื่อเร่งรัดโครงการ จะทให้โครงการล่าช้าจากเดิม 1 เดือน หากรอให้คดีสิ้นสุด ต้องใช้ระยะกว่า 1 ปี ส่วนเกณฑ์การ พิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค 30 คะแนน ด้านราคา 70 คะแนน เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อโครงการและรฟม. มากที่สุด ซึ่งรฟม.จะสรุปความเห็นเอกชนเสนอกก.มาตรา 36 พิจารณาเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม กรณีที่ประมูลแล้วมีเอกชนยื่นข้อเสนอ เพียงรายเดียว ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ สามารถเจรจาได้”
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม วานนี้(9 มี.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้พูดถึงกรณี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ได้ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกรณีที่เปิดประกวดราคาใหม่ เพราะการที่บีทีเอสไปยื่นหนังสือถึงนายกฯ อาจทำให้คนจะมองว่า มีการทำอะไรไม่ถูกต้องหรือไม่
"ได้กำชับรฟม. ดำเนินการโดยยึดตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งในการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนนั้น การจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) เป็นอำนาจของคณะกรรมการตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ. ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งรมว.คมนาคมนั้น ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ"
สำหรับกรณีที่ บมจ.บีทีเอสซี ยื่นศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนประกาศหลักเกณฑ์การประมูลใหม่ หลัง รฟม.มีการเปิดประมูลไปแล้ว ในคดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 คดีหมายเลขแดงที่.../25.. ล่าสุด ศาลได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีบางข้อหา เพราะเหตุแห่งการฟ้องคดีบางข้อหาหมดสิ้นไป ลงวันที่ 5 มีนาคม 2564 ทั้งนี้ ผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิยื่นคำร้องอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งศาล
รฟม.เดินหน้าประมูลใหม่ เน้นเทคนิคก่อสร้าง
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าฯ รฟม. กล่าวว่า จากที่รฟม. ได้ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุด และศาลได้พิจารณาเห็นว่า เหตุแห่งการฟ้องคดี รวมถึงเหตุแห่งการพิจารณา เกี่ยวกับการขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองไม่มีอยู่ต่อไป และคดีนี้มิได้เป็นคดีที่เกี่ยวกับการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ การพิจารณาคดีต่อไปไม่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
ต่อมาวันที่ 9 ก.พ. 2564 คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ และ รฟม. ได้ยื่นคำร้องชี้แจงข้อเท็จจริงและขอให้จำหน่ายคดี และศาลปกครองกลางได้มีคำสั่ง ฉบับลงวันที่ 5 มี.ค. 2564 จำหน่ายคดีในข้อหาที่ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากที่รฟม.ได้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 และได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนฯ ขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกนั้น รฟม. เห็นว่าจำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพพื้นที่เส้นทางโครงการฯ ที่เอกชนผู้ร่วมลงทุนต้องดำเนินการด้วยเทคนิคก่อสร้างที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด
และช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ จะนำร่างประกาศเชิญชวนฯ ร่างเอกสาร RFP และร่างสัญญาฯ รวมถึงผลการรับฟังความคิดเห็น เสนอคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนพิจารณาเห็นชอบฯ คาดว่าจะเปิดขายเอกสารประกวดราคา ในเดือนเม.ย. 2564 ให้เอกชนทำข้อเสนอพ.ค.-มิ.ย.64 จากนั้นจะประเมินข้อเสนอและได้ตัวผู้รับจ้าง ในเดือนก.ค.64 และเสนอที่ประชุมครม.รับทราบผลการเจรจาในเดือนส.ค.64 คาดว่าจะเปิดให้บริการสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในปี2567 และด้านตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ -บางขุนนนท์ ปี 2569
“การยกเลิกประมูล โดยไม่รอคำตัดสินของศาลเพื่อเร่งรัดโครงการ จะทให้โครงการล่าช้าจากเดิม 1 เดือน หากรอให้คดีสิ้นสุด ต้องใช้ระยะกว่า 1 ปี ส่วนเกณฑ์การ พิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค 30 คะแนน ด้านราคา 70 คะแนน เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อโครงการและรฟม. มากที่สุด ซึ่งรฟม.จะสรุปความเห็นเอกชนเสนอกก.มาตรา 36 พิจารณาเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม กรณีที่ประมูลแล้วมีเอกชนยื่นข้อเสนอ เพียงรายเดียว ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ สามารถเจรจาได้”