โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำทำเนียบขาวสมัยเดียวจะต้องอยู่ในวงจรการเมืองอีกต่อไป และต้องมีเรื่องต้องขึ้นศาลเพื่อรับการฟ้องร้อง ทั้งในคดีเก่าและใหม่ที่เกี่ยวโยงกับพฤติกรรมห้าวที่มองว่าเป็นการปลุกระดมม็อบแนวความคิดรุนแรงขวาจัดให้บุกเข้าอาคารรัฐสภา
หลังจากรอดจากการถูกถอดถอนโดยวาระของพรรคเดโมแครตด้วยคะแนนเสียงแบบอัปยศ ทรัมป์ก็เริ่มเล่นงานพวกเดียวกันเป็นการเอาคืน และฝากแรงแค้นให้สมาชิกพรรครีพับลิกันให้รับรู้ว่า การหักกับทรัมป์นั้นจะส่งผลร้ายเมื่อการเลือกตั้งมาถึง
ทรัมป์มีแรงแค้นเพราะคะแนนถอดถอนเป็น 57 เสียงว่าทรัมป์ผิด มี 43 เสียงของพรรครีพับลิกันล้วนที่บอกว่าไม่ผิด พรรคเดโมแครตได้เสียงจากพรรครีพับลิกัน 7 เสียง ซึ่งวุฒิสมาชิก 2 รายจะไม่ลงสมัยต่อไป และอีก 5 รายยังไม่ต้องเลือกตั้งใหม่ในอีก 6 ปี
ดังนั้น จึงไม่หวั่นว่าทรัมป์จะแก้แค้นด้วยการทำลายฐานคะแนนเสียง เพราะทรัมป์ยังสามารถกุมเสียงสาวกได้ ซึ่งมีมากถึง 75 ล้านคนช่วงการเลือกตั้งกับโจ ไบเดน
ทรัมป์ระบายแค้นรอบแรกด้วยการโจมตี ส.ว. มิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาว่าเป็นคนน่าเบื่อหน่าย ไร้สีสัน ขาดความคิด จินตนาการแนวคิดการเมือง นี่เป็นการเอาคืนหลังจากแมคคอนเนลเล่นงานทรัมป์อย่างเจ็บแสบ
ช่วงการไต่สวนเพื่อถอดถอน แมคคอนเนล ปราศรัยว่าทรัมป์ผิดที่ละเลยต่อหน้าที่ในการไม่ห้ามปรามกลุ่มม็อบบุกสภา และยังมีช่องทางที่จะเล่นงานทรัมป์ให้รับผิดชอบได้ในคดีอาญาและทางแพ่ง เป็นการชี้โพรงให้กระรอก แม้แมคคอนเนลจะโหวตช่วยทรัมป์
การที่แมคคอนเนลเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้ทรัมป์ ทำให้ทรัมป์แค้นหนัก จึงออกแถลงการณ์เล่นงานผู้นำ ส.ว. แบบผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ แถมลำเลิกบุญคุณว่าการเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งที่ผ่านมา ถ้าตัวเองไม่หนุนแล้ว แมคคอนเนลมีหวังสอบตก
การที่แมคคอนเนลมองว่าทรัมป์ผิด แต่ตัวเองโหวตตรงกันข้ามเป็นเพราะตัวเองไม่เห็นด้วยกับการถอดถอนทรัมป์หลังออกจากตำแหน่งแล้ว อ้างว่าไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทั้งๆ ที่ ส.ว.โหวตก่อนหน้าแล้วว่าการถอดถอนนั้นไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
อันที่จริง ในทางกฎหมายแล้ว คะแนนโหวตว่าทรัมป์ผิด 57 ต่อ 43 นั้น ถือว่าเป็นการรับว่าทรัมป์มีความผิด เพียงแต่ในทางเทคนิคของกฎหมายจะต้องมีเสียงมากถึง 67 เสียงถึงจะถอดถอนทรัมป์ได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแค่นี้ก็เป็นการประจานแล้ว
เมื่อรอดจากการถูกถอดถอนเป็นครั้งที่ 2 ทรัมป์ยังมีสิทธิและโอกาสที่จะลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีก 1 สมัยด้วย และยังมีโอกาสถ้ายังมีความนิยมในกลุ่มประชาชนโดยเฉพาะคนพรรครีพับลิกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวและมีความคิดขวาจัด
และยังเห็นได้ว่าเสียงโหวตนั้นเป็นไปตามเสียงของแต่ละพรรค ทำนองพวกใครพวกมัน เพียงแต่ครั้งนี้มีเสียงแตกจาก 7 ส.ว.ของพรรครีพับลิกัน ซึ่งไม่เอาทรัมป์อยู่แล้ว และน่าจะมีอีกมากที่มีแนวคิดเช่นนี้ แต่ไม่กล้าหักกับทรัมป์ กลัวจะสอบตกในสมัยหน้า
ทรัมป์ยังประกาศอีกว่าจากนี้ไป ตัวเองจะสนับสนุนคนที่ตัวเองยอมรับเท่านั้น เท่ากับว่าใครจะพูดจาขัดหู ไม่สบอารมณ์ทรัมป์ไม่ได้เป็นอันขาด
คำเตือนผสมคำขู่เป็นการแสดงให้เห็นว่าทรัมป์ยังมีบารมีอยู่เต็มที่ เวลาจากนี้ไปอีก 4 ปี จะพิสูจน์ว่าทรัมป์จะยังคงมีอำนาจและบารมีจนถึง 4 ปีข้างหน้าหรือไม่
แต่ว่าทรัมป์ยังจะเผชิญปัญหาต่อไป เพราะมี ส.ส.รัฐมิสซิสซิปปี พรรคเดโมแครต เบอร์นี ธอมป์สัน ยังยื่นฟ้องในฐานะส่วนตัว กล่าวหาว่าทรัมป์กระทำผิดกฎหมายในการปลุกระดมม็อบหัวรุนแรงขวาจัดให้บุกเข้าอาคารรัฐสภาสร้างความเสียหายมหาศาล
ส.ส.ธอมป์สันอ้างกฎหมายเก่าแก่ใช้หลังจากสงครามกลางเมือง ที่มีบทบัญญัติเล่นงานกลุ่ม KKK ซึ่งเป็นกลุ่มคนผิวขาวขวาจัด หัวรุนแรงซึ่งไล่ล่าเล่นงานคนผิวดำอย่างรุนแรง บางกรณีเอาตัวไปแขวนคอ สร้างปัญหาความแตกแยกรุนแรงในชาติ
นอกจากทรัมป์แล้ว คนที่โดนฟ้องอีกรายคือทนายคู่ใจ นายรูดอล์ฟ จูลิอานี ที่ไปกล่าวปราศรัยปลุกระดมม็อบหน้าทำเนียบขาวพร้อมกับทรัมป์ก่อนกระตุ้นให้ม็อบบุกรัฐสภา คำฟ้องบรรยายให้เห็นพฤติกรรมของทั้งคู่ช่วงก่อนวิกฤต
คำฟ้องนี้ได้รับความเห็นชอบจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรส และอาจจะมีโจทก์รายอื่นที่จะฟ้องทรัมป์และพวก เพื่อจะเอาผิดให้ได้เพราะการบุกอาคารรัฐสภาตามภาพที่ปรากฏในช่วงการไต่สวน ได้สร้างความตกตะลึงให้ผู้ที่ได้เห็นความจริง
นายจูลิอานี โดนฟ้องร้อง 2 คดีก่อนหน้านี้ ตัวเฉพาะการถูกเรียกค่าเสียหายนั้นเป็นระดับพันล้านดอลลาร์ แม้เจ้าตัวได้ประกาศว่าไม่หวั่น จะเป็นโอกาสที่ได้เรียกพยานบุคคลและเอกสารมาพิสูจน์ในศาล แต่ดูอาการแล้วน่าจะหนักใจไม่น้อย
ที่สำคัญ ทรัมป์เพิ่งประกาศปลดจูลิอานี ไม่ให้เป็นที่ปรึกษากฎหมายและทนายส่วนตัวอีกต่อไป โดยไม่อธิบายเหตุผล แต่เป็นที่เข้าใจว่าทรัมป์ต้องการเอาตัวรอดเพราะจูลิอานีจะเป็นภาระที่ต้องอุ้มในกรณีที่เผชิญกับการฟ้องร้อง เรียกค่าเสียหายมหาศาล
คดีที่ถูกฟ้องมีโจทก์เป็นบริษัทซึ่งจัดหาอุปกรณ์นับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจูลิอานีอ้างว่าถูกดัดแปลงเพื่อช่วยให้โจ ไบเดน ชนะทรัมป์ด้วยคะแนน 85 ล้านเสียง
ทรัมป์ไม่ให้จูลิอานีเป็นที่ปรึกษากฎหมายและทนายส่วนตัวเพราะเห็นว่าเป็นความล้มเหลวของทนายที่ไม่สามารถทำอะไรตามคำอ้างในการพลิกผลการเลือกตั้งได้
ทั้งคู่มีวาระที่ต้องเผชิญกับคดีความซึ่งต้องเสียเวลา เสียเงิน และเสี่ยงกับการพ่ายแพ้ และทรัมป์ยังมีคดีส่วนตัวอีก ทั้งเรื่องการเลี่ยงภาษี และคุกคามทางเพศสตรี กว่าจะถึง 4 ปี ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น ทรัมป์จะรอดหรือไม่ ต้องรอดู