xs
xsm
sm
md
lg

วุฒิสภาสหรัฐฯเริ่มไต่สวนถอดถอนทรัมป์ครั้งที่ 2 เดโมแครตเปิดคลิปม็อบบุกสภาย้ำเตือนความผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหน้าที่บริหารความปลอดภัยของวุฒิสภา (ขวาล่างสุด) เชิญพวก ส.ส. ซึ่งทำหน้าที่เป็นคณะผู้จัดการของสภาผู้แทนราษฎร ในการฟ้องร้องเพื่อถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ เดินเข้าสู่ห้องประชุมของวุฒิสภา ในวันอังคาร (9 ก.พ.)
เดโมแครตเดินหน้าชำแหละความผิดทรัมป์ข้อหาปลุกม็อบบุกสภา หลังวุฒิสมาชิกจากรีพับลิกัน 6 คน แตกแถวมาร่วมโหวตคว่ำความพยายามของทนายอดีตประธานาธิบดีที่คัดค้านเปิดการไต่สวนประวัติศาสตร์คราวนี้ อย่างไรก็ดีแนวโน้มในการรวบรวมเสียงสภาสูงให้ได้ 2 ใน 3 เพื่อเอาผิดทรัมป์นั้น ยังคงลำบากยากเย็น

ในวันอังคาร (9 ก.พ.) วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 56-44 ปฏิเสธคำคัดค้านของทีมทนายอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งโต้แย้งว่า วุฒิสภาไม่มีอำนาจถอดถอนประธานาธิบดีที่พ้นตำแหน่งไปแล้ว และให้เดินหน้าดำเนินการไต่สวนเพื่อถอดถอนทรัมป์ต่อไป ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกัน ที่มีประมุขของประเทศถูกฝ่ายนิติบัญญัติไต่สวนเพื่อลงมติถอดถอน (อิมพีช) เป็นครั้งที่ 2

พรรคเดโมแครตนั้นหวังว่า หากทำให้สภาสูงลงมติในท้ายที่สุดว่าทรัมป์มีความผิดจริง จะทำให้อดีตประธานาธิบดีซึ่งยังมีอิทธิพลอย่างสูงในพรรครีพับลิกันผู้นี้ ไม่สามารถลงเลือกตั้งรับตำแหน่งใดๆ ของสหรัฐฯได้อีก โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสมัยหน้า

ทว่า ผลการโหวตในวันอังคารบ่งชี้ว่า งานนี้ไม่ง่ายเลย เพราะมีวุฒิสมาชิกรีพับลิกันมาร่วมโหวตเห็นด้วยกับเดโมแครตเพียง 6 คน ขณะที่การลงมติเพื่อเอาผิดทรัมป์ในขั้นตอนสุดท้ายนั้นต้องการเสียงสนับสนุนจากรีพับลิกันถึง 17 เสียง จึงจะทำให้ได้คะแนน 2 ใน 3 ของจำนวนวุฒิสมาชิกทั้งหมด โดยในขณะนี้ทั้งสองพรรคมีที่นั่งในสภาสูงฝ่ายละ 50 ที่นั่งเท่ากัน

คณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคเดโมแครต ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นอัยการฟ้องร้องต่อสภาสูง โดยที่บรรดาวุฒิสมาชิกทั้งหลายทำหน้าที่เป็นคณะลูกขุนนั้น ได้เปิดการไต่สวนในวันอังคาร ด้วยการฉายวิดีโอภาพเหตุการณ์ความรุนแรงในรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม พร้อมคลิปคำปราศรัยของทรัมป์ก่อนหน้านั้นที่เรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนของเขา “สู้สุดชีวิต” เพื่อเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต

ในคลิปยังมีภาพกองเชียร์ทรัมป์ทำลายสิ่งกีดขวาง ทำร้ายตำรวจสภา ช่วงหนึ่งในคลิปยังมีภาพตำรวจที่คุ้มกันห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรยิงผู้ประท้วงคนหนึ่งเสียชีวิต โดยในเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 5 คน ซึ่งรวมถึงตำรวจ 1 นาย

นอกจากทำร้ายตำรวจแล้ว ม็อบที่บุกเข้าสู่อาคารรัฐสภายังทำให้บรรดาสมาชิกรัฐสภาต้องหาที่หลบภัย และการประชุมรับรองชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดี ไบเดน อย่างเป็นทางการหยุดชะงักไปหลายชั่วโมง

เดโมแครตระบุว่า ทรัมป์ละเมิดคำสาบานด้วยการพยายามยื้ออำนาจหลังการเลือกตั้ง ซึ่งนอกจากปฏิเสธความพ่ายแพ้ของตัวเองแล้ว เขายังปล่อยข่าวเท็จว่า มีการโกงการเลือกตั้ง และกดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งรวมถึง ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีในขณะนั้น ขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจ

“ถ้านี่ยังไม่ใช่ความผิดที่สมควรถอดถอน ก็คงไม่มีอะไรอีกแล้วที่เป็นความผิด” เจมี ราสกิน ส.ส.เดโมแครต ที่เป็นผู้นำทีมอัยการซึ่งประกอบด้วย สมาชิก 9 คน กล่าวกับวุฒิสมาชิก หลังจบวิดีโอ

ราสกินถึงกับร่ำไห้ขณะเล่าว่า ญาติที่เขาพาไปร่วมชมพิธีรับรองชัยชนะไบเดนในวันนั้น ต้องเข้าไปหลบในห้องทำงานใกล้ห้องประชุมสภาผู้แทนฯ ด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

ทว่า ทีมทนายความของทรัมป์กลับแย้งว่า กระบวนการถอดถอนขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากทรัมป์พ้นตำแหน่งไปแล้ว พร้อมกล่าวหาว่า สภากำลังพยายามดับอนาคตทางการเมืองของทรัมป์ และประณามเดโมแครตว่า กระเหี้ยนกระหือรือถอดถอนทรัมป์ ก่อนเปิดวิดีโอเหตุการณ์ที่ ส.ส.เดโมแครต เรียกร้องให้ถอดถอนอดีตประธานาธิบดีผู้นี้เมื่อปี 2017

ทั้งนี้ ทรัมป์ที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมโดยเดโมแครตลงมติให้ดำเนินการถอดถอนเมื่อวันที่ 13 มกราคม เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์อเมริกาที่เข้าสู่กระบวนการนี้ และเป็นคนเดียวที่ถูกสอบสวนเพื่อถอดถอน 2 ครั้ง

ทีมทนายของทรัมป์ยังอ้างว่า 1 ตอนที่ปราศรัยกับผู้สนับสนุนก่อนเหตุการณ์ม็อบบุกสภา ลูกความของตนเพียงแต่กำลังสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีภายใต้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 เท่านั้น

บรูซ แคสเตอร์ หนึ่งในทีมทนายของทรัมป์ กล่าวว่า ม็อบหลายร้อยคนที่บุกโจมตีสภาสมควรถูกประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด และว่า อาชญากรกลุ่มเล็กๆ เหล่านี้ คือ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่ทรัมป์

วุฒิสมาชิกรีพับลิกันหลายคน ซึ่งรวมถึง บิลล์ แคสสิดี้ ที่โหวตสนับสนุนให้เดินหน้ากระบวนการถอดถอน บอกว่า ส.ส.เดโมแครตเบิกความตรงประเด็นและน่าสนใจ ขณะที่ข้อโต้แย้งของทีมทนายของทรัมป์ โดยเฉพาะแคสเตอร์ ฟังไม่ขึ้น

เดือนที่แล้ว แคสสิดี้ เป็นหนึ่งใน ส.ว.รีพับลิกันที่โหวตคัดค้านการไต่สวน แต่แพ้ด้วยคะแนน 45 ต่อ 55 และเป็นรีพับลิกันคนเดียวที่เปลี่ยนใจมาโหวตร่วมกับเดโมแครตเมื่อวันอังคาร

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวคนหนึ่งเผยว่า ทรัมป์ที่ชมการไต่สวนทางทีวีอยู่ที่รีสอร์ตส่วนตัวในฟลอริดา ก็ไม่พอใจผลงานของแคสเตอร์เหมือนกัน

การไต่สวนนี้จะบ่งชี้แนวโน้มการตัดสินใจของรีพับลิกัน หลังจากช่วงเวลา 4 ปีแห่งความวุ่นวายของคณะบริหารทรัมป์ โดยมีความขัดแย้งรุนแรงระหว่างกลุ่มที่ภักดีต่อทรัมป์ กับกลุ่มที่คาดหวังผลักดันพรรคไปสู่ทิศทางใหม่ กระนั้น ดูเหมือนมีวุฒิสมาชิกรีพับลิกันเพียงไม่กี่คนที่พร้อมแตกหักกับทรัมป์ ซึ่งอาจทำให้เขารอดพ้นความผิดเหมือนการถอดถอนเมื่อปีที่แล้วในคดีขัดขวางการสอบสวนของสภาและลุแก่อำนาจในการกดดันให้ยูเครนเปิดการสอบสวนไบเดนและลูกชายในปี 2019

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)

(ภาพถ่ายจากวิดีโอ) บรูซ แคสเตอร์ หนึ่งในทีมทนายของทรัมป์ พูดระหว่างการพิจารณาไต่สวนเพื่อถอดถอน โดนัลด์ ทรัมป์ ครั้งที่ 2  ในวุฒิสภาของสหรัฐฯ วันอังคาร (9 ก.พ.)
กำลังโหลดความคิดเห็น