วุฒิสภาสหรัฐฯ จะเริ่มการไต่สวนญัตติถอดถอนอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.พ. หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้ส่งเรื่องต่อมายังสภาสูงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ชัค ชูเมอร์ แกนนำ ส.ว.เดโมแครตเสียงข้างมาก ออกมาแถลงกำหนดการล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) หลังจากที่บรรดาผู้นำ ส.ว. ได้ทำข้อตกลงเลื่อนการไต่สวนออกไปอีก 2 สัปดาห์ เพื่อให้วุฒิสภาได้มีเวลาจัดการภารกิจสำคัญอื่นๆ รวมถึงการรับรองตำแหน่งให้แก่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
ทรัมป์ ถูกสภาผู้แทนราษฎรลงมติถอดถอนเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา หรือเพียงแค่ 1 สัปดาห์ก่อนที่เขาจะพ้นจากตำแหน่ง
ชูเมอร์ ระบุว่า การไต่สวนญัตติถอดถอน ทรัมป์ จะมีขึ้นในสัปดาห์ของวันจันทร์ที่ 8 ก.พ. ซึ่งเป็นกำหนดการที่ มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำ ส.ว.ฝ่ายรีพับลิกัน ก็เห็นชอบด้วย
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมส่งมอบญัตติกล่าวหา ทรัมป์ ว่ายุยงปลุกปั่นให้เกิดการกบฏ (inciting an insurrection) ต่อวุฒิสภาอย่างเป็นทางการในวันจันทร์นี้ (25) ซึ่งโดยปกติแล้วการไต่สวนจะเริ่มขึ้นทันทีภายใน 1 วัน
ข้อกล่าวหานี้มีที่มาจากคำปราศรัยของ ทรัมป์ ซึ่งบอกให้ผู้สนับสนุน “ต่อสู้” ก่อนที่มวลชนผู้สนับสนุนเขาจะบุกเข้าปิดล้อมและโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ระหว่างที่สภาคองเกรสกำลังมีการประชุมเพื่อรับรองชัยชนะให้แก่ โจ ไบเดน
เหตุจลาจลดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 5 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ
ชูเมอร์ ระบุว่า กรอบเวลาใหม่นี้นอกจากจะช่วยให้วุฒิสภามีเวลาสะสางภารกิจที่จำเป็นในช่วงที่รัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารประเทศแล้ว ยังเป็นการให้เวลาแก่ทีมทนายของ ทรัมป์ เพื่อตระเตรียมหลักฐานสำหรับแก้ต่างคดีด้วย
ดัก อันเดรส โฆษกของแมคคอนเนลล์ ระบุว่า ผู้นำ ส.ว.รีพับลิกันรู้สึกพอใจที่ฝ่ายเดโมแครตให้เวลา ทรัมป์ ได้เตรียมตัวบ้าง และคาดว่าการไต่สวนอาจจะเริ่มขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 9 ก.พ. นี้
ทรัมป์ เคยถูกสภาผู้แทนราษฎรลงมติถอดถอนครั้งแรกจากกรณีที่เขาล็อบบี้ยูเครนให้ขุดคุ้ยความผิดของ ไบเดน กับบุตรชายช่วงก่อนเลือกตั้ง ทว่าต่อมาวุฒิสภาได้ประกาศให้เขาพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมด
ทั้งนี้ การประกาศให้ ทรัมป์ มีความผิดจริงจะต้องใช้เสียงจากวุฒิสมาชิกถึง 2 ใน 3 และนั่นหมายความว่าจะต้องมี ส.ว.รีพับลิกันอย่างน้อย 17 คนโหวตเห็นชอบกับญัตติถอดถอนทรัมป์
หากเป็นไปตามนั้น วุฒิสภาก็จะมีการลงมติแยกต่างหากเพื่อประกาศให้ ทรัมป์ เป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้งในอนาคต ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องการเพียงเสียงข้างมากจาก ส.ว.เท่านั้นก็จะผ่านฉลุย
ผลสำรวจรอยเตอร์/อิปซอสซึ่งเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (22) พบว่าชาวอเมริกันเกินครึ่งเล็กน้อยเชื่อว่า ทรัมป์ สมควรถูกถอดถอน และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีก
ความคิดเห็นยังแบ่งแยกตามความนิยมในพรรคการเมืองค่อนข้างชัดเจน โดยพบว่าฐานเสียงเดโมแครต 9 ใน 10 คนเห็นด้วยกับการเอาผิดทรัมป์ ขณะที่ฐานเสียงรีพับลิกันคิดเช่นนั้นไม่ถึง 2 ใน 10 คน
ที่มา: รอยเตอร์