สมาชิกสภาคองเกรสรายหนึ่ง ยื่นฟ้องดำเนินคดีในวันอังคาร (16 ก.พ.) กล่าวหาอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ รูดี จูเลียนี ทนายความส่วนตัว รวมถึงพวกฝ่ายขวา 2 กลุ่ม โทษฐานสมคบคิดยุยงปลุกปั่นเหตุจลาจลเสียเลือดเนื้อที่อาคารรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว
คำฟ้องทางแพ่งกล่าวหาพวกเขาละเมิดกฎหมายคูคลักซ์แคลน (Ku Klux Klan) กฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบเมื่อปี 1871 สำหรับปราบปรามองค์กรแนวคิดเชิดชูคนผิวขาว (White Supremacist) ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการทางกฎหมายล่าสุดในความพยายามลากทรัมป์รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 6 มกราคม อันเกิดขึ้นหลังจาก ทรัมป์ ใช้เวลานานหลายเดือน กล่าวอ้างว่าเขาพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน เพราะมีการโกงอย่างกว้างขวาง
โดยนอกจาก ทรัมป์และทนายความส่วนตัวแล้ว ในคำฟ้องยังระบุกลุ่ม Proud Boys องค์กรขวาจัด และกลุ่มนักรบต่อต้านรัฐบาล Oath Keepers ในรายนามของจำเลยด้วย
“เหตุจลาจลเป็นผลจากแผนที่บงการอย่างรอบคอบโดยทรัมป์, จูเลียนีและพวกกลุ่มหัวรุนแรงอย่าง Oath Keepers และ Proud Boys ทั้งหมดมีเป้าหมายร่วมกันคือข่มขู่ รังควานและคุกคาม เพื่อหยุดการรับรองผลลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง” เอกสารคำฟ้องระบุ
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ (13 ก.พ.) ทรัมป์ รอดพ้นจากการถูกถอดถอน หลังวุฒิสภามีมติตัดสินว่าเขาไม่มีความผิด ฐานยุยงปลุกปั่นเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยมีวุฒิสมาชิก 57 คน ในนั้นรวมถึงจากรีพับลิกัน 7 คน ยกมือเห็นชอบว่าเขามีความผิด แต่มีคะแนนสนับสนุนไม่พอ 67 เสียงตามที่ต้องการ
เบนนี ธอมป์สัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเดโมแครต ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีชื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐฯในวอชิงตัน
คำฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเป็นการทดแทนและค่าเสียหายเพื่อการลงโทษ แต่ไม่มีการระบุจำนวนเงิน นอกจากนี้แล้วยังขอให้ศาลกลางออกคำสั่งห้าม ทรัมป์ และจำเลยร่วมของพวกเขาจากการกระทำผิดซ้ำอีกในอนาคต
ธอมป์สัน บอกว่าเขาได้ยินคำขู่และเสียงปืนระหว่างเหตุโจมตีอาคารรัฐสภา และจำเป็นต้องซ่อนตัวให้พ้นจากฝูงม็อบ
เจสัน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาของทรัมป์ บอกว่าปัจจุบัน จูเลียนี ไม่ได้เป็นตัวแทนของ ทรัมป์ ในประเด็นทางกฎหมายใดๆ และเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ปรากฏในคำฟ้อง โดยอ้างว่าวุฒิสภาตัดสินให้ ทรัมป์ ไม่มีความผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจราร์ด มากลิออคคา ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยอินดีแอนา มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะถูกตีตกพ้นจากการเป็นจำเลยในคดีนี้ เพราะศาลสูงสุดสหรัฐฯ เคยมีคำตัดสินหนึ่งในปี 1982 คุ้มกันประธานาธิบดีจากการถูกดำเนินคดีใดๆ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ
“ผมไม่เห็นว่าคำฟ้องที่มีต่อทรัมป์ในครั้งนี้จะเดินหน้าต่อไปได้” มากลิออคคากล่าว พร้อมระบุว่าในมุมมองของเขา คำปราศรัยของทรัมป์ในวันนั้น อยู่ภายในขอบเขคของการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ
พวกวิพากษ์วิจารณ์บอกว่าทรัมป์ และจูเลียนี ช่วยยุยงปลุกปลั่นพวกก่อจลาจลระหว่างการชุมนุม “Save America” เมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยทั้งคู่กล่าวอ้างซ้ำๆ ว่ามีการขโมยผลเลือกตั้ง
จูเลียนีบอกกับฝูงชนว่า “ผมขอสาปแช่ง พวกเขาแย่งผลโหวตที่เสรีและยุติธรรมไปจากเรา” จากนั้นทรัมป์ก็ขึ้นเวที เร่งเร้าฝูงชนเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภา จนกระทั่งเกิดเหตุจลาจล โดยจนถึงตอนนี้มีผู้ถูกตั้งข้อหาในเหตุการณ์ความวุ่นวายดังกล่าวซึ่งมีผู้เสียชีวิต 5 ราย ไปแล้วมากกว่า 200 คน
(ที่มา : รอยเตอร์)