อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ปฏิเสธคำเชิญจากพรรคเดโมแครตให้เข้าร่วมกระบวนการไต่สวนญัตติถอดถอนโดยวุฒิสภา ซึ่งจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่ทีมทนายความของเขาเยาะเย้ยเทียบเชิญดังกล่าวว่าแค่ “ละครปาหี่”
ส.ส.เดโมแครตยื่นญัตติกล่าวหา ทรัมป์ ว่ายุยงให้เกิดการก่อกบฏ (inciting insurrection) จากการที่อดีตประธานาธิบดีวัย 74 ปีรายนี้บอกมวลชนผู้สนับสนุนให้ “ต่อสู้” เพื่อพลิกผลเลือกตั้งซึ่งตนเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ โจ ไบเดน ก่อนที่ผู้ประท้วงจะบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.
ผลพวงจากเหตุจลาจลดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 5 ราย รวมถึงตำรวจประจำรัฐสภา
“ท่านประธานาธิบดีจะไม่ขึ้นให้การในกระบวนการซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ” เจสัน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาของทรัมป์ ยืนยันกับรอยเตอร์ ในขณะที่ บรูซ แคสเตอร์ และ เดวิด โชเอน ทีมทนายส่วนตัวของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ก็ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกโจมตีคำเชิญของพรรคเดโมแครตว่าเป็นแค่ละครปาหี่
สัปดาห์นี้ ทนายของ ทรัมป์ ได้แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาในญัตติถอดถอน โดยให้เหตุผลว่า การที่ ทรัมป์ ออกมาอ้างเรื่องการทุจริตเลือกตั้งอย่างไม่มีมูลนั้น เป็นสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามบทแก้ไขเพิ่มเติมที่ 1 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา (First Amendment)
เจมี แรสกิน หัวหน้าคณะผู้จัดการญัตติถอดถอนของสภาผู้แทนราษฎร ระบุในจดหมายที่ส่งถึง ทรัมป์ และทนายความว่า ขอเชิญอดีตประธานาธิบดีซึ่งได้พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. เข้าให้การภายใต้คำสาบานต่อวุฒิสภา
“หากท่านปฏิเสธคำเชิญนี้ เราจะขอสงวนสิทธิ์ทุกประการ รวมถึงสิทธิ์ที่จะสรุปว่าการไม่เข้าให้การของท่านสนับสนุนข้อครหาเกี่ยวกับการกระทำต่างๆ ของท่านเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021” เนื้อความในจดหมายระบุ
แคสเตอร์ ชี้แจงกับรอยเตอร์ว่า ทรัมป์ มีสิทธิ์ที่จะไม่เข้าร่วมกระบวนการไต่สวน
“มันเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องจะพิสูจน์ให้ได้ว่าข้อกล่าวหาเป็นความจริง” แคสเตอร์ ระบุ “และผมจะไม่ไปช่วยพวกเขาทำงานหรอก”
วุฒิสมาชิกหลายคน รวมถึง ส.ว. ลินด์ซีย์ เกรแฮม หนึ่งในผู้สนับสนุนตัวเอ้ของทรัมป์ เชื่อว่าการเข้าให้ปากคำต่อวุฒิสภาจะไม่เป็นผลดีต่อตัว ทรัมป์ เอง
ทนายของทรัมป์ และ ส.ว.รีพับลิกันส่วนใหญ่ระบุว่า การไต่สวนโดยวุฒิสภานั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก ทรัมป์ ได้พ้นตำแหน่งไปแล้วและไม่อาจถูกถอดถอนได้ ซึ่งข้อโต้แย้งนี้จะเปิดทางให้ ส.ว.รีพับลิกันที่ครองเสียงครึ่งหนึ่งของวุฒิสภาสามารถอ้างเรื่องกระบวนการที่ไม่ถูกต้องมาเป็นเหตุคัดค้านญัตติถอดถอน โดยไม่จำเป็นต้องสนับสนุนคำพูดต่างๆ ของ ทรัมป์ โดยตรง
ทั้งนี้ การจะตัดสินให้ ทรัมป์ มีความผิดและถูกถอดถอนจะต้องได้เสียงสนับสนุนเกิน 2 ใน 3 ของวุฒิสภาซึ่งมีสมาชิก 100 คน นั่นหมายความว่านอกจาก ส.ว.เดโมแครตทั้ง 50 คนแล้ว จะต้องมี ส.ว.รีพับลิกันร่วมสนับสนุนด้วยไม่ต่ำกว่า 17 คน
ที่มา: รอยเตอร์