ซูเปอร์โพลชี้ กลุ่มตัวอย่าง 98.5% ระบุข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ คือต้นตอ และอุปสรรคแก้วิกฤตชาติและโควิดรอบใหม่ ทั้งทุจริตต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลย และมีส่วนทำเอง คนไทยผิดหวัง "ลุงตู่" เปลี่ยนไป ไม่เด็ดขาด จัดการ ขรก.เอี่ยวบ่อน
นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่องโควิดกับการปฏิรูป กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ1,445 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามความเห็นของประชาชน ต่อหัวหน้าส่วนราชการในการแก้ปัญหาโควิดรอบใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.5 ระบุ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ คือต้นตอ และอุปสรรคแก้วิกฤตชาติและโควิดรอบใหม่ ทั้งทุจริตต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลย และมีส่วนทำเอง รองลงมาส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 98.3 ระบุ นายกรัฐมนตรีควรไล่บี้ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง จัดการหัวหน้าส่วนราชการต้นเหตุโควิดรอบใหม่ ร้อยละ 96.5 ระบุ ถ้าจัดการ ผู้บัญชาการตำรวจแต่ละระดับก็ต้องจัดการหัวหน้าส่วนราชการอื่นๆ ด้วย เช่น กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทย เพราะอยู่ในพื้นที่เกี่ยวข้องทั้งแรงงานต่างด้าว และบ่อน
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 96.3 ระบุ สิ่งที่เห็นคือ ความจอมปลอม เฟกของนักการเมือง ผู้มีอำนาจรัฐท่าทีขึงขัง จัดการบ่อนพนัน แต่หลังลงพื้นที่เจอผลประโยชน์เอื้อ เรื่องเงียบ และส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 91.9 ระบุ นายกรัฐมนตรี เปลี่ยนไป ไม่เด็ดขาด จัดการหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นต้นเหตุ โควิดรอบใหม่ ไม่เหมือนช่วงยึดอำนาจใหม่ๆ
ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 48.7 ระบุยังไม่เห็นมีหัวหน้าส่วนราชการใดออกมาทำให้เห็นว่าจะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด ในขณะที่ มีเพียงร้อยละ 14.1 ระบุ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้อยละ 9.6 ระบุกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 9.4 ระบุ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร้อยละ 9.1 ระบุ กระทรวงแรงงาน
ในขณะที่เพียงร้อยละ 0.8 ระบุ กระทรวงพาณิชย์ (เยียวยาช่วยเหลือ ลดทุกข์ยากประชาชนจากโควิดรอบใหม่) และเพียงร้อยละ 8.3 เท่านั้นที่เห็นทุกส่วนทำดีเต็มที่แล้ว
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.9 ต้องการเห็นการปฏิรูปการทำงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ตำรวจ แรงงาน มหาดไทย ถอนรากถอนโคน ขบวนการต้นตอแพร่เชื้อโควิด คืนความสุขประชาชนเหมือนเคยสัญญาไว้ หลังยึดอำนาจปี 2557 ในขณะที่เพียงร้อยละ 3.1 ไม่ต้องการ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า “อิทธิพลมืด บดขยี้ อำนาจรัฐ”กำลังเป็นภาพเด่นชัดขึ้น หลังโควิดระบาดรอบใหม่ สะท้อนอำนาจรัฐอ่อนแอ แต่ทำเป็นขึงขังจัดการเด็ดขาด แต่แพ้ผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องที่เกี้ยเซียะลงตัวจนเรื่องเงียบ แต่ที่เด่นดังเห็นชัดคือ ความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า
พท.ล็อกเป้าซักฟอก'บิ๊กตู่'
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมการการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะมีประเด็นหลักคือ การแก้สถานการณ์โควิดที่ผิดพลาด ปล่อยให้มีการระบาดรอบใหม่ การบริหารศก. ที่ผิดพลาด จนประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมถึงเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องความมั่นคง ที่ปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายนำเชื้อเข้ามา และปล่อยให้มีบ่อนการพนัน เป็นแหล่งแพร่เชื้อ ทั้ง 3 เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ เพราะคุมทั้ง ศบค. , คุมตำรวจ ทหาร และเป็นหัวหน้าทีมศก.เอง ชัดเจนว่า นายกฯบริหารล้มเหลวจนชาวบ้านเดือดร้อน
"เรื่องบ่อน เรื่องส่วย เป็นเรื่องทุจริตชัดๆ หัวหน้ารัฐบาลปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร การอภิปรายประเด็นนี้ ก็จะพ่วงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในแต่ละเรื่องด้วย ทั้ง รมว.สาธารณสุข , มหาดไทย และรมว.แรงงาน เกี่ยวข้องกับใครเราจะอภิปรายทั้งหมด" นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่องโควิดกับการปฏิรูป กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ1,445 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามความเห็นของประชาชน ต่อหัวหน้าส่วนราชการในการแก้ปัญหาโควิดรอบใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.5 ระบุ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ คือต้นตอ และอุปสรรคแก้วิกฤตชาติและโควิดรอบใหม่ ทั้งทุจริตต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลย และมีส่วนทำเอง รองลงมาส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 98.3 ระบุ นายกรัฐมนตรีควรไล่บี้ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง จัดการหัวหน้าส่วนราชการต้นเหตุโควิดรอบใหม่ ร้อยละ 96.5 ระบุ ถ้าจัดการ ผู้บัญชาการตำรวจแต่ละระดับก็ต้องจัดการหัวหน้าส่วนราชการอื่นๆ ด้วย เช่น กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทย เพราะอยู่ในพื้นที่เกี่ยวข้องทั้งแรงงานต่างด้าว และบ่อน
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 96.3 ระบุ สิ่งที่เห็นคือ ความจอมปลอม เฟกของนักการเมือง ผู้มีอำนาจรัฐท่าทีขึงขัง จัดการบ่อนพนัน แต่หลังลงพื้นที่เจอผลประโยชน์เอื้อ เรื่องเงียบ และส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 91.9 ระบุ นายกรัฐมนตรี เปลี่ยนไป ไม่เด็ดขาด จัดการหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นต้นเหตุ โควิดรอบใหม่ ไม่เหมือนช่วงยึดอำนาจใหม่ๆ
ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 48.7 ระบุยังไม่เห็นมีหัวหน้าส่วนราชการใดออกมาทำให้เห็นว่าจะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด ในขณะที่ มีเพียงร้อยละ 14.1 ระบุ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้อยละ 9.6 ระบุกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 9.4 ระบุ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร้อยละ 9.1 ระบุ กระทรวงแรงงาน
ในขณะที่เพียงร้อยละ 0.8 ระบุ กระทรวงพาณิชย์ (เยียวยาช่วยเหลือ ลดทุกข์ยากประชาชนจากโควิดรอบใหม่) และเพียงร้อยละ 8.3 เท่านั้นที่เห็นทุกส่วนทำดีเต็มที่แล้ว
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.9 ต้องการเห็นการปฏิรูปการทำงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ตำรวจ แรงงาน มหาดไทย ถอนรากถอนโคน ขบวนการต้นตอแพร่เชื้อโควิด คืนความสุขประชาชนเหมือนเคยสัญญาไว้ หลังยึดอำนาจปี 2557 ในขณะที่เพียงร้อยละ 3.1 ไม่ต้องการ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า “อิทธิพลมืด บดขยี้ อำนาจรัฐ”กำลังเป็นภาพเด่นชัดขึ้น หลังโควิดระบาดรอบใหม่ สะท้อนอำนาจรัฐอ่อนแอ แต่ทำเป็นขึงขังจัดการเด็ดขาด แต่แพ้ผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องที่เกี้ยเซียะลงตัวจนเรื่องเงียบ แต่ที่เด่นดังเห็นชัดคือ ความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า
พท.ล็อกเป้าซักฟอก'บิ๊กตู่'
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมการการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะมีประเด็นหลักคือ การแก้สถานการณ์โควิดที่ผิดพลาด ปล่อยให้มีการระบาดรอบใหม่ การบริหารศก. ที่ผิดพลาด จนประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมถึงเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องความมั่นคง ที่ปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายนำเชื้อเข้ามา และปล่อยให้มีบ่อนการพนัน เป็นแหล่งแพร่เชื้อ ทั้ง 3 เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ เพราะคุมทั้ง ศบค. , คุมตำรวจ ทหาร และเป็นหัวหน้าทีมศก.เอง ชัดเจนว่า นายกฯบริหารล้มเหลวจนชาวบ้านเดือดร้อน
"เรื่องบ่อน เรื่องส่วย เป็นเรื่องทุจริตชัดๆ หัวหน้ารัฐบาลปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร การอภิปรายประเด็นนี้ ก็จะพ่วงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในแต่ละเรื่องด้วย ทั้ง รมว.สาธารณสุข , มหาดไทย และรมว.แรงงาน เกี่ยวข้องกับใครเราจะอภิปรายทั้งหมด" นายยุทธพงศ์ กล่าว