เลขาฯ พท.แถลงเตรียมจองกฐินซักฟอกรัฐบาล 7 วัน จ่อยื่นญัตติ 27 ม.ค. เล็งเป้าทำประเทศเสียหาย ทุจริต เรื่องโควิด จี้นายกฯ สั่งการ ผบ.ตร.ดำเนินการคนมีสีตัวการเปิดบ่อนอย่างจริงจัง อย่าลูบหน้าปะจมูก
วันนี้ (6 ม.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าจะยื่นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายเดือน ม.ค. ประมาณวันที่ 27 ม.ค. ต้องการให้การอภิปรายครั้งนี้มีการใช้เวลาอภิปรายเต็มที่ ปีที่แล้วฝ่ายค้านได้เวลา 3 วันก็ปิดสมัยประชุม ปีนี้จึงเตรียมตัวให้มีเวลาอภิปรายเพิ่มขึ้น อยากได้เวลา 7 วัน อย่างไรก็ตาม ต้องปรึกษานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งเพื่อกำหนดกรอบเวลาก่อนการญัตติ ส่วนผู้ถูกอภิปราย เช่น นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีกหลายคนจะสรุปชัดเจนในกลางเดือนนี้ว่ามีใครบ้าง และประเด็นที่อภิปรายจะมีเรื่องการทำงานผิดพลาด ปล่อยปละละเลยให้ประเทศเสียหาย โดยเฉพาะการทุจริตหน่วยงานต่างๆ รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ด้วย
เมื่อถามว่า หากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดอภิปรายได้ทันภายในสมัยประชุมวันที่ 28 ก.พ. 2564 เนื่องจากสถานการณ์โควิดจะดำเนินการอย่างไร นายประเสริฐตอบว่า เราจะยื่นญัตติไว้ก่อนปิดสมัยประชุม และจะหารือประธานสภาผู้แทนราษฎร และพิจารณาข้อบังคับการประชุมว่าสามารถนำการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปพูดในสมัยวิสามัญได้หรือไม่
นายประเสริฐยังกล่าวถึงกรณีการลักลอบเปิดบ่อนพนันจำนวนมาก เป็นสาเหตุเกิดการระบาดเชื้อโควิดรอบใหม่ โดยเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ทราบดีว่ามีบ่อนพนันลักลอบเปิดที่ใดบ้าง แต่เหตุใดปล่อยปละละเลยให้มีมาถึงทุกวันนี้ เหตุใดไม่สั่งการให้ ผบ.ตร.ดำเนินการเคร่งครัด จะอ้างไม่รู้ไม่มีการเปิดบ่อนในพื้นที่ ให้ประชาชนมาชี้เบาะแสไม่ได้ เพราะการเปิดบ่อนถ้าไม่มีแบล็คที่เคลียร์มาก่อนแล้ว คงเปิดไม่ได้ ซึ่งการที่นายกฯ ตั้งคณะกรรมการมาสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง เป็นเรื่องดี แต่ต้องดำเนินการจริงจัง อย่าลูบหน้าปะจมูก ทำเป็นพิธีโดยคำนึงถึงผลประโยชน์พวกพ้องไม่ได้
นายประเสริฐกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องดำเนินการต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีสีที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเปิดบ่อนอย่างเด็ดขาด โดยดูว่าส่วยส่งไปที่ใด ใครเป็นผู้รับประโยชน์ เงินถูกจ่ายให้ใคร การโยกย้ายตำรวจในพื้นที่ไม่พอ เพราะความจริงเชื่อว่ามีตำรวจระดับสูงกว่าระดับในจังหวัดเกี่ยวข้อง และนายกฯ ควรเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส หากไม่มีโควิด-19 บ่อนพนักคงมีโดยรอบ เรื่องนี้ตนและ ส.ส.เพื่อไทยเคยอภิปรายไว้ แต่ไม่มีการดำเนินการ ถูกละเลยมาตลอด ถึงเวลาต้องปฏิรูปเรื่องนี้จริงจัง ไม่ใช่พอไม่มีโควิด-19 ก็ปล่อยปละละเลย