xs
xsm
sm
md
lg

“เด็กชวน” โต้ “ก้าวไกล” เสียงส่วนใหญ่ให้งดประชุม ถามกลับหากเดินหน้าประชุมแล้วมีคนติดโควิด-19 ใครรับผิดชอบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เด็กชวน” โต้ “ก้าวไกล” เสียงส่วนใหญ่ให้งดประชุม ถามกลับหากเดินหน้าประชุมแล้วมีคนติดโควิด-19 ใครรับผิดชอบ ชี้อนุฯ ปล่อยคนติดโควิดร่วมประชุมเป็นคนก้าวไกล

วันนี้ (5 ม.ค.) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ตอบโต้แกนนำพรรคก้าวไกลที่แสดงความรู้สึกผิดหวังกับมติงดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลา 2 สัปดาห์เมื่อวานนี้ (4 ม.ค.) อาจทำให้การทำงานเกิดความล่าช้าว่า การตัดสินใจงดประชุมดังกล่าวเป็นความเห็นร่วมกันของเสียงส่วนใหญ่ที่มีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องยอมรับว่าสภาอยู่ด้วยมติและสีเยงข้างมาก ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงต้องเคารพ และยืนยันว่าสภามีมาตรการป้องกัน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมีเพราะมีคนพยายามฝ่าฝืนซึ่งจะเห็นได้จากกรณีที่อนุกรรมาธิการคณะหนึ่งปล่อยให้มีผู้ติดเชื่อจากจังหวัดระยองเข้าร่วมประชุม โดยที่ประธานอนุกรรมการชุดนั้นก็เป็นคนของพรรคก้าวไกล ดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้อยากให้คำนึงถึงความปลอดภัยและเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่เรื่องของการเมือง หากดึงดันให้มีการประชุมจนทำให้ ส.ส. หรือใครในสภาติดเชื้อ อยากถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น และใครต้องรับผิดชอบ เพราะกรณีของอนุกรรมาธิการก็สร้างความวุ่นวายที่ต้องส่งคนจำนวนมาก รวมทั้งตนไปตรวจหาเชื้อ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการงดประชุมอาจส่งผลต่อการทำงานหลายอย่าง แต่สภาก็จะให้มีการประชุมชดเชยซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ อาจจะขยายสมัยประชุมหรือเปิดสมัยประชุมวิสามัญก็ได้

ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า บอกถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า หากมีการยื่นมาก็ต้องสอบถามความพร้อมไปยังรัฐบาล โดยหากรัฐบาลพร้อมก็สามารถอภิปรายได้ แต่จะถึงขั้นเปิดการประชุมสมัยวิสามัญเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเลยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล

ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ใช้การประชุมออนไลน์นั้น นพ.สุกิจกล่าวว่า ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรยังทำไม่ได้เพราะติดขัดเรื่องรัฐธรรมนูญ ขณะที่ในส่วนของกรรมาธิการแม้กฎหมายผ่านแล้วแต่ยังไม่มีระเบียบรองรับจึงทำไม่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น ในช่วงนี้หาก ส.ส.รับเรื่องที่มีปัญหามาจากประชาชน และต้องการส่งต่อไปยังรัฐบาลก็สามารถส่งมายังสภาเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลได้ และหากใครต้องการถามกระทู้ก็สามารถส่งมาและจะประสานเพื่อให้ตอบในราชกิจจานุเบกษาได้


กำลังโหลดความคิดเห็น