เมืองไทย 360 องศา
หากจะพูดว่ากรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกันลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยคุณสมบัติของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ว่า สถานภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(10) หรือไม่ กรณีนายสิระเคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน กระทำความผิดอาญาฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่ง ส.ส. 50 คน ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้อง เห็นว่า ผลคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ทำให้นายสิระเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้มีคำสั่งให้ นายสิระ หยุดปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ระบุว่า สมาชิกต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า ขณะยื่นคำร้องและคำร้องเพิ่มเติมนั้น สภาผู้แทนราษฎรมี ส.ส. จำนวน 487 คน และต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องเพิ่มเติม แจ้งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า มี ส.ส.จำนวน 2 คน ขอถอนชื่อออกจากการเข้าชื่อเสนอคำร้อง ฉบับลงวันที่ 28 ธ.ค. 63 มีผลให้จำนวน ส.ส.ที่เข้าชื่อเหลือเพียง 48 คน ซึ่งเป็นจำนวนน้อยกว่าหนึ่งในสิบ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่งบัญญัติ
ดังนั้น คำร้องนี้ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องนี้ไว้พิจารณา
สำหรับรายชื่อ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย สองคนดังกล่าว คือ นางอนุรักษ์ บุญศล และ นางอาภรณ์ สาราคำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องเพิ่มเติม ฉบับลงวันที่ 29 ธ.ค. 63 ขอถอนชื่อออกจากผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องกรณีดังกล่าว และขอให้รับหนังสือขอถอนชื่อดังกล่าวไว้ สำหรับประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อีกว่า ยังมี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยอีก 10 คน รวมแล้วมีจำนวน 12 คน ที่ขอถอนรายชื่อออกไป ทำให้มีจำนวนรายชื่อไม่ครบตามกฎหมายที่กำหนดไว้จนศาลรัฐธรรมนูญไม่รับเรื่องไว้พิจารณาดังกล่าว
ภาพที่ปรากฏดังกล่าวได้สะท้อนภาพ “งูเห่า” ในพรรคเพื่อไทยขึ้นมาแบบเด่นชัดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ ได้เคยปรากฏออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ เมื่อมีวาระสำคัญในสภา โดยเฉพาะเมื่อมีกรณีการโหวตเรื่องสำคัญ การลงมติในร่างพระราชบัญญัติบางเรื่อง เช่น เกี่ยวกับกฎหมายการเงิน หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับสถานะของฝ่ายรัฐบาล และคนสำคัญในรัฐบาล เป็นต้น รวมไปถึงการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยเห็นภาพการ “โหวตสวน” จนชินตามาแล้ว
โดยก่อนหน้านี้ หากพิจารณาจากองค์ประกอบอื่นๆ ก็จะพบว่าในช่วงแรกๆ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเสียง “ปริ่มน้ำ” มีพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นพรรคเล็กพรรคน้อยรวมแล้วเกือบยี่สิบพรรค ทำให้ต้องล็อบบี้เสียงสนับสนุนจากพรรคอื่นเพิ่มเติม เพื่อเป็นเสียงสำรอง สำหรับการประกันเสถียรภาพของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นการป้องกันอาการ “งอแง” ของพรรคเล็กๆ ดังกล่าวนั่นเอง
แต่หลังจากนั้น มาจนถึงปัจจุบันนี้ ถือว่ารัฐบาลมีเสียง “แน่นปึ้ก” เพราะสามารถ “ดูด” เอามาจากพรรคฝ่ายค้านได้เป็นกอบเป็นกำ หลังจากมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ รวมไปถึงเกิดการแตกแยกภายในพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน หากโฟกัสกันเฉพาะพรรคเพื่อไทย โดยเชื่อมโยงมาจากกรณี 12 ส.ส. ที่ก่อเหตุถอนรายชื่อออกมาจนทำให้การถอดถอน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ต้องล่มลงนั้น มันสะท้อนให้เห็นภาพ “งูเห่า” ภายในพรรคอย่างชัดเจน แม้จะมีข้ออ้างจากบรรดา ส.ส.พวกนี้ต่างๆ นานา เช่น เข้าใจผิดเนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่เป็นมติพรรค เพราะเป็นการร้องขอมาจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เป็นเจ้าของเรื่อง หรือคิดว่าเมื่อถอนชื่อออกมาแล้ว ก็ยังมีเสียงเพียงพอ เป็นต้น ซึ่งยิ่งพูดมันยิ่งสะท้อนภาพสติปัญญา และ “วุฒิภาวะ” ของแต่ละคนเป็นอย่างดี เอาเป็นว่านิ่งเสียจะดีกว่า
อย่างไรก็ดี นาทีนี้ภาพจากกรณีดังกล่าวได้ตอกย้ำความแตกแยกอย่างชัดเจน และอีกไม่นานก็น่าจะได้เห็น “เลือดไหลออก” อีกชุดใหญ่ โดยเฉพาะหากมีการเลือกตั้ง เนื่องจากหากลาออกตอนนี้จะสิ้นสภาพ ส.ส.ทันที แต่ที่น่าจับตาก็คือ การโหวตในช่วงศึก “ซักฟอก” ที่พรรคเพื่อไทยได้เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ ในปลายเดือนนี้ และคาดว่า จะมีการซักฟอกกันในราวเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนปิดสมัยประชุมสมัยสามัญ
ถึงเวลานั้นก็น่าจะเห็นเรื่องสนุกเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะกรณี “งูเห่า” ในพรรคเพื่อไทย ที่จะมีประเภท “โหวตสวน” หรืองดออกเสียงมีจำนวนมากเท่าใด แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมองเห็นจนเป็นเรื่องปกติแล้วว่ามีใครกันบ้าง แม้ว่าประเภทนี้จะมีในพรรคฝ่ายค้านหลายพรรค แต่นาทีนี้ขอโฟกัสไปที่พรรคเพื่อไทยก่อน เพราะแค่เรื่องเล็กๆ อย่างกรณีของนายสิระ ยังเห็นภาพชัดขนาดนี้ แล้วเรื่องใหญ่อย่าง “ศึกซักฟอก” แล้ว มันจะมี “งูเห่าเลื้อยยั้วเยี้ย” ขนาดไหน ลองนึกภาพดูก็แล้วกัน !!