“ประเสริฐ” เลขาฯ เพื่อไทย ยอมรับมี “ส.ส.เพื่อไทย” ล็อบบี้ให้เพื่อนถอนชื่อคำร้องวินิจฉัย “สิระ” ลั่นลงโทษขั้นเด็ดขาด ส่วน 12 ส.ส.ที่ถอนชื่อหากบริสุทธิ์ใจไม่เอาความ แฉ “ชัยยันต์” ส.ส.ปทุมฯ มือดีลช่วย “สิระ” ที่ร่วม กมธ.เดียวกัน เผยประวัติเคยโหวตสวนมติพรรคมาแล้ว
วันนี้ (8 ม.ค. 64) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถอนชื่อจากคำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(10) หรือไม่ กรณีนายสิระเคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน กระทำความผิดอาญาฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 จนทำให้คำร้องถูกตีตก เนื่องจากรายชื่อไม่ครบ 1 ใน 5 ของจำนวน ส.ส.ทั้งสภาฯ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า จากกระบวนการสอบสวนพรรคเพื่อไทย พบว่า การร่วมเข้าชื่อครั้งนี้ มาจากคำเชิญของสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เป็นรายบุคคล จำนวนรวม 62 คน โดยเป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 24 คน ร่วมลงชื่อ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาสมาชิกภาพของนายสิระ
“ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงของพรรค พบว่า มีข้อมูลและเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่า ส.ส. ของพรรคที่ไม่ได้ร่วมลงชื่อ 1 คน ทำการโน้มน้าว ส.ส.ในพรรคเป็นรายบุคคลให้ถอนรายชื่อจากคำร้อง การกระทำการดังกล่าวของ ส.ส.คนนี้ ย่อมเป็นการกระทำที่เล็งผลได้ว่าจะทำให้รายชื่อไม่ครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเมื่อผลการสอบสวนเป็นที่ยุติอย่างเป็นทางการพรรค จะพิจารณาลงโทษ ส.ส.ผู้นี้อย่างเด็ดขาด” นายประเสริฐ ระบุ
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี ส.ส.จำนวน 12 คน ที่ถอนรายชื่อออกนั้น พรรคพบว่า ส.ส. หลายคนเข้าใจว่า การร่วมลงชื่อเป็นการให้ความร่วมมือเป็นรายบุคคล และเป็นไปด้วยความสมัครใจ โดยมีจำนวนรายชื่อมากกว่าจำนวนขั้นต่ำเป็นจำนวนพอสมควร โดยไม่ทราบว่าการถอนรายชื่อของตนจะมีผลให้มีจำนวนไม่ครบตามกฎหมาย และในทันทีที่ทราบว่า มีความเสี่ยงที่จะมีรายชื่อไม่ครบก็ได้พยายามขอแก้ไขยกเลิกการถอนรายชื่อ แต่ไม่เป็นผล ดังนั้น ส.ส. ที่ถอนรายชื่อหากมีความบริสุทธิ์ใจย่อมจะได้รับความเป็นธรรม แต่หากพบว่าเป็นไปโดยประสงค์ให้จำนวนรายชื่อไม่เพียงพอ ย่อมเป็นความผิดที่พรรคจะพิจารณาโทษต่อไป และทางพรรคจะดำเนินการสอบสวนให้เป็นที่ยุติโดยเร็วที่สุด พรรคจะดำเนินการให้เป็นมติให้ ส.ส.ของพรรคเข้าร่วมยื่นรายชื่อเพื่อยื่นถอนถอนอีกครั้งโดยเร็วที่สุด หาก ส.ส. ของพรรค ไม่ดำเนินการตามมติพรรคก็ย่อมมีมาตรการลงโทษอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ว่า ส.ส. ของพรรคที่ทำการโน้มน้าว ส.ส.คนอื่นให้ถอนชื่อจากคำร้อง คือ นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย โดยได้โน้มน้าวว่า ต่อให้ถอนชื่อไปก็ไม่กระทบกับคำร้องดังกล่าว เพราะรายชื่อ ส.ส.ในคำร้องถือว่าเพียงพออยู่แล้ว และถ้าร่วมยื่นคำร้องก็อาจจะเสี่ยงที่จะถูกฟ้องกลับได้ ทั้งนี้ นายชัยยันต์ เป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายสิระ เป็นประธาน
รายงานแจ้งด้วยว่า จากกรณีดังกล่าว ภายในกลุ่มไลน์ ส.ส.เพื่อไทย ได้มี ส.ส.บางคนที่ไม่เห็นด้วยกับการถอนชื่อ ตำหนิเพื่อน ส.ส.ด้วยกันอย่างรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับนายชัยยันต์เคยมีกรณีลงมติในที่ประชุมร่วมรัฐสภาสวนมติพรรคเพื่อไทยมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 63 ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช ... วาระขอให้ตั้ง กมธ.พิจารณาก่อนรับหลักการ โดยที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากให้ตั้ง กมธ.ศึกษาญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ ยืดเวลาการพิจารณาออกไปอีก 1 เดือน ขณะที่ฝ่ายค้านลงมติไม่เห็นด้วย แต่เมื่อตรวจสอบรายชื่อ สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้าน ในส่วนของพรรคเพื่อไทย พบว่า มี ส.ส. 4 รายที่ลงมติเห็นด้วย โดยมีนายชัยยันต์ เป็น 1 ใน 4 ชื่อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ครั้งนั้นนายชัยยันต์ได้เข้าชี้แจงกับผู้บริหารพรรคว่าเกิดความเข้าใจผิด และไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแต่อย่างใด