“วิรัช” รอประเมิน 2 สัปดาห์ก่อนเคาะประชุมแก้ รธน.ต่อหรือไม่ เชื่อวาระ 2 ทันสมัยประชุมนี้

ปธ.วิปรัฐบาลเผยรอประเมินสถานการณ์โควิด 2 สัปดาห์ก่อนตัดสินใจนัดประชุม กมธ.แก้ รธน.ต่อหรือไม่ คาดอีก 2 นัดได้ผลสรุป เชื่อวาระ 2 เสร็จทันสมัยประชุมนี้ เตรียมขอเปิดวิสามัญ เดือน มี.ค.ลงมติ รธน.วาระ 3

วันนี้ (7 ม.ค.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่... พ.ศ. ... ) รัฐสภา กล่าวถึงการนัดประชุม กมธ.ว่า ในเบื้องต้นยืนยันจะงดการประชุม 2 สัปดาห์ ให้สอดคล้องกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นก็จะประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลขอความร่วมมือไม่ให้มีการรวมตัวกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จึงไม่อยากสร้างปัญหาให้กับรัฐบาล เพราะขณะนี้ยังมีปัญหาอื่นๆ อีกมาก และหากดูตามสถานการณ์แล้วโควิดมีแนวโน้มรุนแรงเพราะมีการเตรียมตั้งโรงพยาบาลสนามอีกหลายแห่ง จึงเชื่อว่าหากเร่งรัดประชุมก็อาจจะองค์ประชุมไม่ครบ โดยจะเห็นได้จากการนัดประชุม กมธ.เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ไม่สามารถประชุมได้แม้แต่คณะเดียว

นายวิรัชกล่าวต่อว่า ในการพิจารณาของ กมธ.เหลือเนื้อหาสาระอีกไม่มาก คาดว่าประชุมอีกไม่เกิน 2 ครั้งก็น่าจะสรุปได้ เพราะในชั้นนี้หากกรรมาธิการคนใดไม่เห็นด้วยก็สามารถสงวนคำแปรญัตติไว้ได้ ไม่จำเป็นต้องมาเถียงกัน 3 วัน 3 คืน แล้วที่เหลือค่อยไปอภิปรายกันในสภาฯ ดังนั้นเชื่อว่าแม้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ไม่ทำให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความล่าช้า 
 
“การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในชั้น กมธ. และการลงมติรายมาตราในวาระที่ 2 อาจจะแล้วเสร็จทันสมัยประชุมสภาฯที่จะสิ้นสุดสมัย ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ แต่ด้วยเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญเมื่อผ่านการพิจารณาในวาระที่ 2 แล้วจะต้องค้างการพิจารณาไว้ 15 วัน ก่อนลงมติให้ความเห็นชอบในวาระ ที่ 3 ได้ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้ตรวจสอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้น ดังนั้น คาดว่าการลงมติในวาระที่ 3 อาจจะไม่ทันสมัยประชุมนี้จึงจำเป็นต้องขอให้ประธานรัฐสภา พิจารณาขอเปิดสมัยประชุมรัฐสภาวิสามัญขึ้นในเดือน มี.ค. เพื่อให้ ส.ส.และ ส.ว.ได้มีลงมติให้ความเห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้” นายวิรัชกล่าว

สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่งดประชุมไป 2 สัปดาห์นั้น นายวิรัชในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าจะต้องรอดูสถานการณ์หลังวันที่ 15 ม.ค.ก่อน จากนั้นเชื่อว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะนัดตัวแทนทุกฝ่ายหารือเพื่อหาข้อยุติอีกครั้ง