“สุภรณ์” ปลื้มผลสำรวจซูเปอร์โพล ประชาชนสนับสนุน นายกฯ ลุงตู่ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35.7 เป็นร้อยละ 53.6 โต้ “นภาพร” ส.ส.เสรีรวมไทย ควรฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ ยืนยันนายกฯ และรัฐบาล ทำงานเป็นเอกภาพแก้โควิด-19
วันนี้ (11 ม.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับประชาชนส่วนใหญ่ตามที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในเรื่องของการเที่ยวปลอดภัย อยู่พ้นโควิด โดยประชาชนยังเชื่อมั่นในตัวนายกฯ มากถึงร้อยละ 87 ในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ เพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชน นอกจากนี้ ผลสำรวจประชาชนยังพบว่ามีฐานสนับสนุนนายกฯ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35.7 ในช่วงปลายปี 2563 มาอยู่ที่ร้อยละ 53.6 ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ในบรรยากาศที่ยังไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าของการแก้วิกฤตโควิดและเศรษฐกิจชาติ
นายสุภรณ์ยังระบุว่า จากผลสำรวจดังกล่าวเป็นแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังพอใจในนโยบายของนายกฯ และรัฐบาล ที่นำมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 และยังอยากให้นายกฯ นำพาประเทศชาติให้พ้นวิกฤต
ส่วนที่ น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ออกมาแนะให้นายกฯ ควรลาออกจาก ผอ.ศบค.แล้วให้นายอนุทินมาเป็นแทนเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งกันเอง ออกคำสั่งขัดกันไปมานั้น นายสุภรณ์อยากให้ น.ส.นภาพร ฟังเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศเช่นกันว่าคิดเช่นเดียวกันกับ น.ส.นภาพรหรือไม่
ทั้งนี้ อยากให้เข้าใจว่าทั้งนายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนได้ทำงานกันอย่างหนักมากแค่ไหน การทำงานของรัฐบาลเป็นการทำงานที่มีเอกภาพ และบูรณาการจากทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน ได้มีการประชุม ศปก. ศบค.ทุกวัน และนายกฯ ยังได้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมอย่างต่อเนื่องเพื่อหามาตรการต่างๆ ในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคด้วย แม้ว่าอาจจะเกิดความเข้าใจกันคลาดเคลื่อนบ้าง แต่สุดท้ายก็สามารถทำงานแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี
นายสุภรณ์ยังย้ำว่า นายกฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการปราบปรามแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย และบ่อนการพนันอย่างมาก เห็นได้จากที่มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนบ่อนการพนันขึ้นมา ทำให้เห็นว่านายกฯ เอาจริงเอาจังต่อเรื่องนี้
นายสุภรณ์ยังขอให้ น.ส.นภาพร ควรเปิดใจรับฟังหลายด้าน ไม่ใช่จะเป็นฝ่ายค้านแล้วจะมองแต่ด้านของตัวเอง ควรฟังเสียงประชาชนด้วยว่าต้องการสิ่งใด ต้องการผู้นำแบบใดมาแก้ไขปัญหาประเทศในขณะนี้ ซึ่งนายกฯ และรัฐบาลได้ทำงานอย่างหนักเพื่อประชาชน และก็กำลังเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ รวมทั้งต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้นเวลานี้จึงไม่ใช่เวลามาตำหนิใครทั้งนั้น
“ทั้งนี้ พรรคเสรีรวมไทยควรฟังผลสำรวจความเห็นประชาชน ฟังกระแสประชาชนบ้างว่าประชาชนสนับสนุนนายกมากขึ้นตลอดมา อย่าเล่นการเมืองสวนกระแสประชาชน ยิ่งจะทำให้พรรคเสรีรวมไทยเสื่อมศรัทธาและตกต่ำไปเรื่อยๆ ในที่สุดพรรคจะสูญพันธุ์ไปเพราะเป็นพรรคที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน เล่นการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ ประชาชนจะสาปแช่งจนไม่มีที่ยืนบนถนนการเมืองอีกต่อไป”
วันนี้ (11 ม.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับประชาชนส่วนใหญ่ตามที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในเรื่องของการเที่ยวปลอดภัย อยู่พ้นโควิด โดยประชาชนยังเชื่อมั่นในตัวนายกฯ มากถึงร้อยละ 87 ในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ เพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชน นอกจากนี้ ผลสำรวจประชาชนยังพบว่ามีฐานสนับสนุนนายกฯ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35.7 ในช่วงปลายปี 2563 มาอยู่ที่ร้อยละ 53.6 ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ในบรรยากาศที่ยังไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าของการแก้วิกฤตโควิดและเศรษฐกิจชาติ
นายสุภรณ์ยังระบุว่า จากผลสำรวจดังกล่าวเป็นแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังพอใจในนโยบายของนายกฯ และรัฐบาล ที่นำมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 และยังอยากให้นายกฯ นำพาประเทศชาติให้พ้นวิกฤต
ส่วนที่ น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ออกมาแนะให้นายกฯ ควรลาออกจาก ผอ.ศบค.แล้วให้นายอนุทินมาเป็นแทนเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งกันเอง ออกคำสั่งขัดกันไปมานั้น นายสุภรณ์อยากให้ น.ส.นภาพร ฟังเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศเช่นกันว่าคิดเช่นเดียวกันกับ น.ส.นภาพรหรือไม่
ทั้งนี้ อยากให้เข้าใจว่าทั้งนายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนได้ทำงานกันอย่างหนักมากแค่ไหน การทำงานของรัฐบาลเป็นการทำงานที่มีเอกภาพ และบูรณาการจากทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน ได้มีการประชุม ศปก. ศบค.ทุกวัน และนายกฯ ยังได้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมอย่างต่อเนื่องเพื่อหามาตรการต่างๆ ในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคด้วย แม้ว่าอาจจะเกิดความเข้าใจกันคลาดเคลื่อนบ้าง แต่สุดท้ายก็สามารถทำงานแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี
นายสุภรณ์ยังย้ำว่า นายกฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการปราบปรามแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย และบ่อนการพนันอย่างมาก เห็นได้จากที่มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนบ่อนการพนันขึ้นมา ทำให้เห็นว่านายกฯ เอาจริงเอาจังต่อเรื่องนี้
นายสุภรณ์ยังขอให้ น.ส.นภาพร ควรเปิดใจรับฟังหลายด้าน ไม่ใช่จะเป็นฝ่ายค้านแล้วจะมองแต่ด้านของตัวเอง ควรฟังเสียงประชาชนด้วยว่าต้องการสิ่งใด ต้องการผู้นำแบบใดมาแก้ไขปัญหาประเทศในขณะนี้ ซึ่งนายกฯ และรัฐบาลได้ทำงานอย่างหนักเพื่อประชาชน และก็กำลังเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ รวมทั้งต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้นเวลานี้จึงไม่ใช่เวลามาตำหนิใครทั้งนั้น
“ทั้งนี้ พรรคเสรีรวมไทยควรฟังผลสำรวจความเห็นประชาชน ฟังกระแสประชาชนบ้างว่าประชาชนสนับสนุนนายกมากขึ้นตลอดมา อย่าเล่นการเมืองสวนกระแสประชาชน ยิ่งจะทำให้พรรคเสรีรวมไทยเสื่อมศรัทธาและตกต่ำไปเรื่อยๆ ในที่สุดพรรคจะสูญพันธุ์ไปเพราะเป็นพรรคที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน เล่นการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ ประชาชนจะสาปแช่งจนไม่มีที่ยืนบนถนนการเมืองอีกต่อไป”