ผู้จัดการรายวัน360- นายกฯ นำครม.ชมสถานีกลางบางซื่อ ย้ำรบ. ส่งเสริมระบบรางเป็นการเดินทางหลัก ฝันไกลอาจจะขยายถึงยุโรปตอ. ทดลองสายสีแดงไปรังสิต "ศักดิ์สยาม" ย้ำเสถานีบางซื่อป็นศูนย์กลางคมนาคม-ธุรกิจอาเซียน เทียบชั้นในยุโรป เผยความคืบหน้าแต่ละส่วน รฟท.คาดว่าปีหน้าเปิดใช้งานได้ คาดคนใช้บริการ 86,000 คน-เที่ยวต่อวัน ส่วนต่อขยายสายสีแดงคาดเริ่มก่อสร้างปี65
วานนี้ (15 ธ.ค.) ที่สถานีกลางบางซื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมครม.และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่ารัฐบาลส่งเสริมการเดินทางในระบบราง ให้เป็นการเดินทางหลักของประเทศ ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งในอนุภูมิภาคและภูมิภาค และเพื่อพัฒนาต่อไปในอนาคต และในระยะยาวอาจจะขยายไปถึงยุโรปตะวันออกนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งให้มีความต่อเนื่องกันทั้งระบบ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีศูนย์กลางการคมนาคม ที่จะเชื่อมต่อการเดินทางจากใจกลางกรุงเทพฯ สู่ปริมณฑล รวมถึงเชื่อมโยงต่อไปยังทุกภูมิภาค สถานีกลางบางซื่อ จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคม และการขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีมาตรฐานเทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก สามารถเปลี่ยนถ่ายการเดินทางจากระบบราง ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน และยังเชื่อมต่อการเดินทางของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง และระบบขนส่งรูปแบบอื่นกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้การรถไฟฯ จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางบางซื่อควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบราง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางและธุรกิจแห่งภูมิภาคอาเซียน
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันงานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟชานเมือง และงานก่อสถานีรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จำนวน 13 สถานี และงานก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ คงเหลืองานระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมจัดหาตู้รถไฟฟ้าสำหรับช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ประกอบด้วย งานระบบราง ระบบควบคุมการเดินรถ และระบบอาณัติสัญญาณ ระบบโทรคมนาคม ระบบจำหน่ายตั๋วโดยสาร อุปกรณ์สำหรับศูนย์ซ่อมบำรุง ระบบรักษาความปลอดภัย สถานีไฟฟ้าย่อยและหม้อแปลงไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนรถไฟฟ้า และระบบอื่น ๆ มีความก้าวหน้า ร้อยละ 89.10 โดยคาดว่าจะทดสอบการเดินรถเสมือนจริง แล้วเสร็จเดือนมี.ค.64 จากนั้น จึงจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ ในเดือนก.ค.64 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนพ.ย.64
การรถไฟแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้บริหารสถานีกลางบางซื่อ และมอบหมายให้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถไฟชานเมือง สายสีแดง รวมถึงการบริหารสถานีรถไฟสายสีแดง จำนวน 12 สถานี โดยเมื่อโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิตและช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เปิดให้บริการแล้วคาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณ 86,000 คน-เที่ยว/วัน ซึ่งจะส่งผลให้สถานีกลางบางซื่อกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางแห่งใหม่ของประเทศ รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายกฯ และคณะ ได้ทดลองเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง จากสถานีกลางบางซื่อ ไปยังสถานีรังสิต เพื่อดูความคืบหน้าของงานก่อสร้าง เป็นทางรถไฟยกระดับใช้ความเร็วในการเดินทาง 120 กม./ชม. และช่วงดอนเมืองถึงรังสิต ซึ่งเป็นทางรถไฟระดับผิวดิน สามารถใช้ความเร็วในการเดินทางได้ 140 กม./ชม.
ทั้งนี้นายกฯ และคณะ ร่วมรับฟังแผนต่อขยายสายสีแดง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ในโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.ปทุมธานี ต้อนรับ ทั้งนี้ แผนดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 65 โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้นำเสนอแนวทางการเชื่อมต่อสถานีรถไฟรังสิตกับโครงข่ายต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน อีกทั้งการรถไฟฯ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการเคหะแห่งชาติ ร่วมกันกำหนดแนวทางการพัฒนาโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวน 360 ห้อง โดยอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในมิถุนายน 2564 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อเริ่มก่อสร้าง และให้ประชาชนเข้าพักอาศัยใน ต.ค.66 อันเป็นการบูรณการระบบรางควบคู่กับการพัฒนาเมืองตามแนวนโยบายของรัฐบาลต่อไป
วานนี้ (15 ธ.ค.) ที่สถานีกลางบางซื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมครม.และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่ารัฐบาลส่งเสริมการเดินทางในระบบราง ให้เป็นการเดินทางหลักของประเทศ ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งในอนุภูมิภาคและภูมิภาค และเพื่อพัฒนาต่อไปในอนาคต และในระยะยาวอาจจะขยายไปถึงยุโรปตะวันออกนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งให้มีความต่อเนื่องกันทั้งระบบ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีศูนย์กลางการคมนาคม ที่จะเชื่อมต่อการเดินทางจากใจกลางกรุงเทพฯ สู่ปริมณฑล รวมถึงเชื่อมโยงต่อไปยังทุกภูมิภาค สถานีกลางบางซื่อ จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคม และการขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีมาตรฐานเทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก สามารถเปลี่ยนถ่ายการเดินทางจากระบบราง ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน และยังเชื่อมต่อการเดินทางของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง และระบบขนส่งรูปแบบอื่นกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้การรถไฟฯ จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางบางซื่อควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบราง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางและธุรกิจแห่งภูมิภาคอาเซียน
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันงานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟชานเมือง และงานก่อสถานีรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จำนวน 13 สถานี และงานก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ คงเหลืองานระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมจัดหาตู้รถไฟฟ้าสำหรับช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ประกอบด้วย งานระบบราง ระบบควบคุมการเดินรถ และระบบอาณัติสัญญาณ ระบบโทรคมนาคม ระบบจำหน่ายตั๋วโดยสาร อุปกรณ์สำหรับศูนย์ซ่อมบำรุง ระบบรักษาความปลอดภัย สถานีไฟฟ้าย่อยและหม้อแปลงไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนรถไฟฟ้า และระบบอื่น ๆ มีความก้าวหน้า ร้อยละ 89.10 โดยคาดว่าจะทดสอบการเดินรถเสมือนจริง แล้วเสร็จเดือนมี.ค.64 จากนั้น จึงจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ ในเดือนก.ค.64 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนพ.ย.64
การรถไฟแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้บริหารสถานีกลางบางซื่อ และมอบหมายให้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถไฟชานเมือง สายสีแดง รวมถึงการบริหารสถานีรถไฟสายสีแดง จำนวน 12 สถานี โดยเมื่อโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิตและช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เปิดให้บริการแล้วคาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณ 86,000 คน-เที่ยว/วัน ซึ่งจะส่งผลให้สถานีกลางบางซื่อกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางแห่งใหม่ของประเทศ รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายกฯ และคณะ ได้ทดลองเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง จากสถานีกลางบางซื่อ ไปยังสถานีรังสิต เพื่อดูความคืบหน้าของงานก่อสร้าง เป็นทางรถไฟยกระดับใช้ความเร็วในการเดินทาง 120 กม./ชม. และช่วงดอนเมืองถึงรังสิต ซึ่งเป็นทางรถไฟระดับผิวดิน สามารถใช้ความเร็วในการเดินทางได้ 140 กม./ชม.
ทั้งนี้นายกฯ และคณะ ร่วมรับฟังแผนต่อขยายสายสีแดง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ในโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.ปทุมธานี ต้อนรับ ทั้งนี้ แผนดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 65 โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้นำเสนอแนวทางการเชื่อมต่อสถานีรถไฟรังสิตกับโครงข่ายต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน อีกทั้งการรถไฟฯ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการเคหะแห่งชาติ ร่วมกันกำหนดแนวทางการพัฒนาโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวน 360 ห้อง โดยอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในมิถุนายน 2564 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อเริ่มก่อสร้าง และให้ประชาชนเข้าพักอาศัยใน ต.ค.66 อันเป็นการบูรณการระบบรางควบคู่กับการพัฒนาเมืองตามแนวนโยบายของรัฐบาลต่อไป