นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมนำคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ นั่งรถบัสออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาเยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทดลองการเดินขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ-สถานีดอนเมือง-สถานีกลางบางซื่อ ในวันอังคารที่ 15 ธันวาคมนี้ หลังจากที่เคยเดินทางมาตรวจติดตามงานก่อสร้าง เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ครั้งนี้จะได้นำคณะรัฐมนตรีมาร่วมตรวจสอบความพร้อมงานบริการก่อนเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการเต็มรูปแบบในปี 2564
ทั้งนี้ สถานีกลางบางซื่อเมื่อแล้วเสร็จสมบูรณ์ จะเป็นศูนย์กลางระบบรางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน สามารถเปลี่ยนถ่ายการเดินทางจากระบบราง ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน และรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีเขียว สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน เชื่อมต่อการเดินทางของระบบรางอื่น ๆ เช่น รถไฟฟ้ามหานคร หรือ MRT รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสู่ภูมิภาค รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน รวมทั้งเชื่อมโหมดการเดินทางในรูปแบบอื่น ได้แก่ สถานีขนส่งผู้โดยสารของ บขส. สถานีรถโดยสารประจำทาง รวมทั้งจะมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์ด้วย
ปัจจุบันการก่อสร้างตัวสถานีมีความคืบหน้าแล้วร้อยละ 99.8 ส่วนงานติดตั้งระบบควบคุมและจัดหาตู้รถไฟฟ้า คืบหน้าร้อยละ 89.1 คาดว่าสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564
ขณะที่ รถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ – รังสิต จะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างย่านใจกลางเมืองกับย่านชานเมืองให้รวดเร็วมากขึ้น สามารถถ่ายเทผู้โดยสายจากท้องถนนเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะทางรางที่สะดวกและปลอดภัยได้เป็นจำนวนมาก จากสถานีต้นทางบางซื่อถึงสถานีปลายทางรังสิตในระยะเวลา 30 นาทีด้วยความเร็ว 120 กม. ต่อชั่วโมง สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารจากรังสิตสู่บางซื่อไม่น้อยกว่า 272,500 คน/วัน ปัจจุบันได้เริ่มวิ่งทดสอบมาระยะหนึ่งแล้วและเปิดทดสอบเสมือนจริงเดือน มีนาคม 2564 จากนั้นจะเปิดให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 2564
นายกรัฐมนตรีใส่ใจความก้าวหน้าโครงการสถานีรถไฟกลางบางซื่อมาตลอด ต้องการเปลี่ยนโฉมหน้าระบบคมนาคมขนส่งประเทศไทยให้ทันสมัย เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถดินทางสัญจรได้สะดวกและปลอดภัย แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ซึ่งการพัฒนาระบบรางเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์คมนาคมที่พลเอกประยุทธ์ ฯ ได้วางไว้ และมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ สถานีกลางบางซื่อเมื่อแล้วเสร็จสมบูรณ์ จะเป็นศูนย์กลางระบบรางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน สามารถเปลี่ยนถ่ายการเดินทางจากระบบราง ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน และรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีเขียว สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน เชื่อมต่อการเดินทางของระบบรางอื่น ๆ เช่น รถไฟฟ้ามหานคร หรือ MRT รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสู่ภูมิภาค รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน รวมทั้งเชื่อมโหมดการเดินทางในรูปแบบอื่น ได้แก่ สถานีขนส่งผู้โดยสารของ บขส. สถานีรถโดยสารประจำทาง รวมทั้งจะมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์ด้วย
ปัจจุบันการก่อสร้างตัวสถานีมีความคืบหน้าแล้วร้อยละ 99.8 ส่วนงานติดตั้งระบบควบคุมและจัดหาตู้รถไฟฟ้า คืบหน้าร้อยละ 89.1 คาดว่าสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564
ขณะที่ รถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ – รังสิต จะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างย่านใจกลางเมืองกับย่านชานเมืองให้รวดเร็วมากขึ้น สามารถถ่ายเทผู้โดยสายจากท้องถนนเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะทางรางที่สะดวกและปลอดภัยได้เป็นจำนวนมาก จากสถานีต้นทางบางซื่อถึงสถานีปลายทางรังสิตในระยะเวลา 30 นาทีด้วยความเร็ว 120 กม. ต่อชั่วโมง สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารจากรังสิตสู่บางซื่อไม่น้อยกว่า 272,500 คน/วัน ปัจจุบันได้เริ่มวิ่งทดสอบมาระยะหนึ่งแล้วและเปิดทดสอบเสมือนจริงเดือน มีนาคม 2564 จากนั้นจะเปิดให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 2564
นายกรัฐมนตรีใส่ใจความก้าวหน้าโครงการสถานีรถไฟกลางบางซื่อมาตลอด ต้องการเปลี่ยนโฉมหน้าระบบคมนาคมขนส่งประเทศไทยให้ทันสมัย เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถดินทางสัญจรได้สะดวกและปลอดภัย แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ซึ่งการพัฒนาระบบรางเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์คมนาคมที่พลเอกประยุทธ์ ฯ ได้วางไว้ และมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเกิดขึ้นจริง