xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ สุดทางดิ้นรนสู้ต่อ

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ถ้ารัฐมนตรียุติธรรมของสหรัฐอเมริกา นายวิลเลียม บาร์ มีความกล้าหาญพอ คงจะบอกประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ว่า “มันจบแล้วครับนาย” แต่ก็ยังไม่เอ่ยคำนั้น

นายบาร์ ซึ่งทำตัวเป็นผู้จงรักภักดีต่อผู้นำทำเนียบขาวได้ตลอด บอกเพียงแต่ว่าจากการตรวจสอบของกระทรวงการยุติธรรมและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ไม่ปรากฏหลักฐานชี้ว่ามีการทุจริตในการเลือกตั้งอย่างมากตามคำกล่าวหาของท่านผู้นำ

นายบาร์ รู้ซึ้งว่าการสอบสวนที่ผ่านมาในหลายมลรัฐไม่ปรากฏหลักฐานและคำฟ้องต่อศาลเกือบ 30 ครั้งให้ไต่สวนการทุจริตในการเลือกตั้ง ก็ถูกศาลปฏิเสธโดยตลอด

แต่นายบาร์ ก็พยายามพูดแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ว่ายังไม่มีหลักฐานการทุจริตที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงผลของการเลือกตั้งซึ่ง นายโจ ไบเดนของพรรคเดโมแครต มีชัยชนะต่อโดนัลด์ ทรัมป์ของพรรครีพับลิกัน แม้จะมีการนับซ้ำในหลายรัฐก็ตาม

ถือว่าเป็นการฉากตัวเลี่ยงได้สวยสำหรับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เป็นการรักษาสภาพของตัวเองด้วยว่าไม่ให้ดูเลวร้ายจนเกินไปจนเป็นคนที่เสียหลักการด้านความยุติธรรม เพราะถึงอย่างไรทุกคนย่อมเห็นแก่ตัวเองเมื่อถึงเวลาคับขัน

นายบาร์ คงไม่รักโดนัลด์ ทรัมป์มากกว่าตัวเองแน่ เพราะถือว่าอนาคตของผู้นำทำเนียบขาวคนนี้ ซึ่งมีแต่ความฉาว คงจะไม่มีโอกาสหวนกลับคืนสู่การเมืองอีกเพราะนับวันจะมีแต่สร้างปัญหาทั้งที่ตัวเองจะอยู่ในตำแหน่งได้ถึงวันที่ 20 มกราคมปีหน้า

แม้กระนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ก็ยังไม่ยอมประกาศว่าตัวเองพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง และคงจะเป็นอย่างนี้จนวันสุดท้ายในตำแหน่งผู้นำชาติมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก

เหลือแต่เพียงการคาดการณ์ว่าทรัมป์จะไปปรากฏตัวในพิธีวันส่งมอบตำแหน่งให้โจ ไบเดน ตามประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่เท่านั้น เพราะทุกวันนี้ยังพร่ำพูดแต่ว่าตัวเองถูกปล้นชัยชนะทั้งที่ไม่มีหลักฐานมาแสดงแต่อย่างใด

และเป็นที่คาดหมายว่าช่วงนี้ ขณะที่เวลามีเหลือน้อยลง ท่านผู้นำก็คงจะหาทางกระทำการอันใดเพื่อป้องกันตัวเองและสมาชิกครอบครัวด้วยการประกาศอภัยโทษให้บุคคล ซึ่งเชื่อว่ามีความเสี่ยงจะถูกฟ้องร้องเพราะการกระทำผิดกฎหมาย

ที่ชัดเจนก็คือลูกทั้ง 3 คนคือ 2 ลูกชายคนโตและลูกสาว รวมทั้งลูกเขยก็อยู่ในข่ายที่จะได้รับการนิรโทษกรรมหรืออภัยโทษนอกเหนือจากทนายคู่ใจ นายรูดี้ จูลิอานี ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเสี้ยมและตะแบงเรื่องด้านกฎหมายที่ดันหลังให้ท่านผู้นำฟ้องคดี

เริ่มมีคนตั้งข้อสังเกตแล้วว่าการอภัยโทษให้กับสมุนบริวารต่างๆ นั้น มีการเรียกรับเงินทองเพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพหรือไม่ มีกระแสข่าวว่ากระทรวงการยุติธรรมเริ่มสอบสวนในเชิงลับว่ามีการกระทำเช่นนั้นเกิดขึ้นหรือไม่

ถ้าแม้มีเพียงข้อสงสัยหรือหลักฐานบางส่วน โดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะเจอคดีเพิ่มแม้ว่าตัวเองกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะประกาศนิรโทษกรรมให้ตัวเองหรือไม่ เพราะจะเป็นการขัดกับธรรมเนียมประเพณี

ผู้ร่างรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ คงคาดไม่ถึงว่าจะมีใครกล้ากระทำเยี่ยงนั้น ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าการนิรโทษกรรมหรือการอภัยโทษเป็นหลักฐานฟ้องให้เห็นชัดว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง และจะเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต

โดนัลด์ ทรัมป์ คงจะวุ่นอยู่กับการรักษาและป้องกันตัวเองให้ปลอดข้อกล่าวหาคดีอาญา แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่าย คดีต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลกลางย่อมอยู่นอกเหนืออำนาจการอภัยโทษ เช่นกับเรื่องภาษีเงินได้หรือข้อหาข่มขืนสตรีและพฤติกรรมทุจริต

ช่วงของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์มีบริวาร ทีมงานถูกฟ้องร้องคดีและติดคุกมากกว่า 10 ราย ซึ่งล้วนแต่เป็นการทุจริตประพฤติมิชอบในเรื่องต่างๆ ที่ทำเพื่อผู้นำ บางรายก็ได้รับการอภัยโทษแล้วเพื่อเป็นการปิดปากไม่ให้เป็นพยานในกรณีที่ถึงคิวตัวเองต้องโดน

ขณะที่โจ ไบเดนต้องรอการเข้ารับตำแหน่งอีกกว่าหนึ่งเดือน คนอเมริกันก็เผชิญกับการระบาดของโคโรนาไวรัส ซึ่งตัวเลขการติดเชื้อและการเสียชีวิตยังอยู่ในระดับสูง วันอังคารที่ผ่านมา มีคนอเมริกันติดเชื้อกว่า 170,000 รายและเสียชีวิตมากกว่า 2 พันราย

โอกาสที่จะหวังให้การฉีดวัคซีนเริ่มต้นน่าจะเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนนี้สำหรับของบริษัทไฟเซอร์ และช่วงปลายเดือนของบริษัทโมเดิร์นนา

จากนี้ไปจนถึงวันออกจากตำแหน่งจะหวังให้โดนัลด์ ทรัมป์ใส่ใจในชีวิตคนอเมริกันและการบริหารจัดการเรื่องต่างๆ คงไม่ได้ โจ ไบเดน อยู่ในระหว่างตั้งทีมงานเพื่อเข้ารับช่วงต่อ ซึ่งคนสำคัญในตำแหน่งต่างๆ ก็ได้รับการประกาศชื่อไปแล้ว

นอกจากจะต้องระงับการระบาดของโคโรนาไวรัส โจ ไบเดน และทีมงานกำลังเร่งร่างมาตรการเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจไม่ให้เลวร้ายไปกว่าปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งคนว่างงานและธุรกิจขนาดต่างๆ ที่ต้องอยู่ในภาวะล้มละลาย เพราะภาวะวิกฤตที่เป็นอยู่

โจ ไบเดน ประกาศให้คนอเมริกันรับรู้ว่าความช่วยเหลือกำลังจะมาแต่ตัวเอง และทีมงานจะต้องใช้เวลาช่วงแรกในภารกิจชำระสะสางเงื่อนปมปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้วางยาไว้เพื่อสร้างความลำบากให้มากที่สุดกับคณะใหม่

ถือว่าเป็นความเลือดเย็นอำมหิตอันเป็นธรรมชาติเฉพาะตัวของทรัมป์ ผู้แพ้การเลือก มีจิตใจพยาบาทอาฆาตมาดร้าย ผิดวิสัยนักการเมืองที่มีจริยธรรมและคุณธรรม

จากนี้ไปคงต้องรอดูว่าสถานการณ์โดยรวมของอเมริกาทุกด้านจะเลวร้ายลงไปอีกอย่างไร และรอจนกระทั่งรัฐบาลใหม่เข้ามารับงาน แสดงฝีมือว่าจะทำให้กระเตื้องหรือฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน ให้สมกับคำประกาศของโจ ไบเดนว่า “อเมริกากลับมาแล้ว”


กำลังโหลดความคิดเห็น