ทิ้งกันซะงั้น! รัฐมนตรียุติธรรมเห็นต่างทรัมป์ ยันไม่พบหลักฐานโกงเลือกตั้ง

รอยร้าวปรากฏขึ้นระหว่าง 2 พันธมิตรหลักด้านกฎหมายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันอังคาร (1 ธ.ค.) หลัง วิลเลียม บาร์ รัฐมนตรียุติธรรมบอกว่า กระทรวงของเขาไม่พบหลักฐานการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวางตามคำกล่าวอ้างของทรัมป์ แต่ทาง รูดอล์ฟ จูเลียนี ประกาศกร้าวจะเดินหน้าค้นหาหลักฐานต่อไป

บาร์ แสดงความคิดเห็นดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเอพี ไม่นานก่อนเผยว่า เขาได้เลื่อนตำแหน่ง จอห์น เดอร์แฮม อัยการรัฐ สู่สถานะที่ปรึกษาพิเศษ “จนถึงวันนี้ เรายังไม่พบเห็นการโกงในระดับที่จะส่งผลกระทบให้ผลการเลือกตั้งนั้นต่างไปจากเดิม” บาร์กล่าว “มีการกล่าวอ้างว่า อาจมีการฉ้อโกงอย่างเป็นระบบ และมีข้อกล่าวอ้างว่า เครื่องมือถูกโปรแกรมให้บิดเบือนผลการเลือกตั้ง และกระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และจนถึงตอนนี้ เราไม่พบอะไรที่พิสูจน์เรื่องนั้นได้”

ทั้งนี้ บาร์ กลายเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรีพับลิกันคนล่าสุดที่เลิกเข้าข้างทรัมป์ ขณะที่เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีรายนี้มาตลอดการดำรงตำแหน่ง 4 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จูเลียนี อดีตอัยการรัฐและทนายความส่วนตัวของทรัมป์ ตำหนิ บาร์ ด้วยถ้อยคำรุนแรง ฐานล้มเหลวในการสืบสวนหาหลักฐานอย่างเหมาะสม ที่สามารถเปิดโปงว่ามีการเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง "ด้วยความเคารพต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม การสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมไม่มีความชัดเจนใดๆเลย" จูเลียนี กับ เจนนา เอลลิส ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของประธานาธิบดี ระบุในถ้อยแถลงร่วม

โจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เอาชนะ ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ในระยะห่างค่อนข้างมาก ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้งแบบรัฐต่อรัฐ 306 ต่อ 232 เสียง ซึ่งคณะผู้เลือกตั้งเหล่านี้จะเป็นคนเลือกประธานาธิบดี นอกจากนี้แล้ว ไบเดน ยังมีคะแนนป็อปปูลาร์โหวต มากกว่า ทรัมป์ กว่า 6.2 ล้านคะแนน

แม้จะพ่ายแพ้ทั้งสองอย่างแบบขาดลอย แต่ ทรัมป์ กล่าวอ้างบ่อยครั้งโดยปราศจากหลักฐานใดๆ ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้แปดเปื้อนไปด้วยการโกงอย่างมโหฬาร คำกล่าวหาที่โดนบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับรัฐแลรัฐบาลกลางปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นกัน

คณะทำงานด้านกฎหมายของทีมหาเสียงทรัมป์ ตอบโต้ความเห็น บาร์ โดยบอกว่ากระทรวงยุติธรรมไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอ สำหรับเข้าสืบสวนคำกล่าวหาโกงการเลือกตั้ง

จนถึงตอนนี้ทีมหาเสียงของทรัมป์ ยังไม่ประสบความสำเร็จใดๆ ในการรุกคืบคำกล่าวหาโกงเลือกตั้งในศาล แต่การที่เขายังคงส่งเสียงคร่ำครวญนั้น ดูเหมือนว่าจะมีจุดประสงค์ก็เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก พบว่าเวลานี้ชาวรีพับลิกันจำนวนมาก ปักใจเชื่อแล้วว่าการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปอย่างยุติธรรม

เจ้าหน้าที่เลือกตั้งระดับสูงในรัฐจอร์เจีย วิงวอนขอให้ทรัมป์หยุดกล่าวหาโดยปราศจากหลักฐาน โดยบอกว่าคำกล่าวอ้างเหล่านั้นนำมาสู่การข่มขู่คุกคาม และอาจก่อพฤติกรรมรุนแรงต่างๆ ซึ่งมีเขาและบรรดาเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตกเป็นเป้าหมาย “บางคนอาจได้รับบาดเจ็บ บางคนอาจถูกยิง บางคนอาจถึงขั้นถูกฆ่า” กาเบรียล สเตอร์ลิง ผู้จัดการระบบลงคะแนนของรัฐจอร์เจียกล่าว “นี่มันเลยเถิดเกินไปแล้ว มันจำเป็นต้องหยุด”

ในส่วนของ ไบเดน ได้หันไปมุ่งเน้นไปที่การจัดตั้งคณะรัฐบาล ก่อนสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม

เมื่อวันอังคาร (1 ธ.ค.) เขาร้องขอให้สภาคองเกรสผ่านแพกเกจเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งหยุดชะงักมานาหลายเดือน และให้สัญญาดำเนินการต่างๆเพิ่มเติมเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังก้าวมาเป็นประธานาธิบดี

(ที่มา: รอยเตอร์)