xs
xsm
sm
md
lg

ระวังจะรุกเข้าจุดอับ...

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โสภณ องค์การณ์"

การจัดชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์โดยกลุ่มคณะราษฎรและประชาชนปลดแอกเริ่มสะท้อนให้เห็นความลำพองในพลังมวลชนและกล้ากำหนดการชุมนุมล่วงหน้าโดยไม่ยำเกรงอำนาจกฎหมาย

และเชื่อมั่นว่าจะมีคนเข้าร่วมอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเต็มพื้นที่เหมือนทุกครั้งเท่ากับว่าเป็นความสำเร็จแม้จะมีแกนนำระดับวัยต่ำกว่า 30 ปี
ขณะเดียวกันก็เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลยังไม่มีมาตรการ สำคัญอะไรได้ผลที่จะสกัดหรือลดจำนวนคนในที่ชุมนุมแต่ละครั้ง
นี่ยังสะท้อนให้เห็นว่าการปล่อยปละละเลยปัญหาไม่ยอมแก้ไข ทิ้งให้ล่วงเลยมา 6 ปีกว่า โดยไม่มีการปฏิรูปการเมืองและสังคมทำให้มีสถานการณ์ยุ่งยากที่ผ่านมา


ผู้กุมอำนาจรัฐเปรียบเสมือนนกกระจอกเอาหัวซุกทราย ไม่ยอมรับรู้ปัญหา เมื่อมีปัญหาก็บอกว่าตัวเองไม่ใช่อยู่ในความขัดแย้ง ทำให้ม็อบชุมนุมเหิมเกริมยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ การขาดมาตรการเชิงการเมืองทำให้กลุ่มม็อบย่ามใจและพยายามรุกคืบ เอาถึงขั้นรุกฆาต หวังพิชิตศึกตามคำประกาศว่าต้องให้มันจบในรุ่นเรา

ผลสุดท้ายใครจะจบก็ต้องรอดูตอนจบเพราะฝ่ายผู้ชุมนุมเสียเปรียบในฐานะที่เป็นผู้กระทำความผิดกฎหมายมีคดีติดตัวคนละหลายคดีเพียงพอที่จะอยู่ในคุกได้ระยะหนึ่ง

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ม็อบเยาวชนและม็อบปลดแอก รุกเอากับสถาบันกษัตริย์เพื่อขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถานภาพของสถาบันให้เป็นไปดังใจโดยไม่คำนึงถึงธรรมเนียมปฏิบัติว่าด้วยการเคารพเทิดทูนในฐานะผู้นำและผู้ปกครองประเทศตั้งแต่ครั้งโบราณกาล

การชุมนุมแต่ละครั้งเป็นการสะสมแต้มและคดีอาญาของแกนนำและผู้อื่นที่ได้พูดจาบจ้วงล่วงละเมิดกล่าวร้ายต่อสถาบันไม่คำนึงถึงโทษอาญาที่จะตามมา

ล่าสุดการชุมนุมที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่จากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ก็ได้เห็นแกนนำม็อบรุกหนักด้วยความลำพอง ข้อเรียกร้องมีการท้าทายอำนาจกฎหมายอย่างเปิดเผย คงเป็นเพราะความเชื่อมั่นที่ว่าได้จุดกระแสติดแล้ว
จากนี้ไปม็อบราษฎรและเครือข่ายประกาศจะชุมนุมติดต่อกัน 5 วัน บางช่วงจะลากยาวถึงสิ้นปีเพียงแต่ไม่ปักหลักค้างคืน คงเชื่อมั่นว่ากระแสพลังมวลชนจะทำให้การเรียกร้องประสบความสำเร็จ

ที่ไหนมีแรงกดดันที่นั่นย่อมมีแรงต้าน เช่นเดียวกันกับการรุกหนักของม็อบราษฎรก็ทำให้เกิดกระแสคนต่อต้านมีทั้งกลุ่มคนสวมเสื้อเหลืองและคนทั่วไป ซึ่งยังคงเชื่อมั่นว่าแผ่นดินนี้ยังจะต้องมีสถาบันกษัตริย์ต่อไป

ความพยายามของรัฐบาลที่จะควบคุมการชุมนุมและตัดตอนโดยอาศัยกฎหมายมาตรา 112 มาจัดการนั้นคงจะได้ผลแต่จะเสียงกับคำครหาและการโจมตีจากต่างประเทศแต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมายและการบังคับใช้ต้องเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม

สังคมกำลังเฝ้ามองว่ากลุ่มม็อบราษฎรและประชาชนปลดแอกจะยกระดับการเรียกร้องเรื่องสถาบันได้ไกลแค่ไหนหรือพยายามจะรุกคืบโดยไม่วันผลที่ตามมา

การชุมนุมในเมืองจุดสำคัญย่านเศรษฐกิจย่อมส่งผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้เราก็เป็นผลพวงที่ประเทศต้องจ่ายในราคาแพงเพราะไม่มีการปฏิรูปในช่วงกว่าหกปีที่ผ่านมา

การรณรงค์ขอให้มีการลงทุนจากต่างประเทศและนักท่องเที่ยวท่ามกลางการระบาดของโคโรนาไวรัสในต่างแดนไม่น่าจะง่ายเพราะได้เห็นบรรยากาศของการเมืองที่ไม่สงบก็ย่อมสร้างความรู้สึกว่าวันสุดท้ายความเสียหายด้านเศรษฐกิจอาจจะเหมือนฮ่องกงก็ได้

สิ่งที่ทุกฝ่ายต้องเฝ้าระวังคือไม่เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่อยู่ตรงข้ามแล้วยิ่งต้องเลี่ยงไม่ให้เกิดการประทะเดี๋ยวกำลังซึ่งจะลามไปเป็นวิกฤติใหญ่หลวงส่งผลกระทบมากต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

จุดหักเหที่อาจจะเกิดขึ้นเกี่ยวโยงกับอนาคตของประเทศไทยก็คือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยชะตากรรมของลุงตู่ว่าจะยังเป็นนายกผู้นำได้หรือไม่เพราะปัจจัยหลายประการส่อเค้าว่าอาจมีความยุ่งยากจนแก้ไม่ตก

สำหรับมอบราษฎรและเครือข่ายนั้นยังมีความจำเป็นที่จะต้องเคลียร์ความสงสัยของประชาชนในด้านการรับความสนับสนุนด้านการเงินจากต่างชาติ เพราะมีหลักฐานปรากฏให้เห็นตามที่หน่วยงานต่างประเทศได้ให้เงินกู้และเงินให้เปล่ากับองค์กรต่างๆในประเทศไทย

สิ่งที่น่ากลัวคือสภาวะที่ไม่มีใครยอมใครและอาจนำไปสู่การปะทะกันด้วยกำลังอาวุธถ้าการสนับสนุนจากต่างประเทศลดน้อยลง

ถึงวันนั้นกว่าจะได้ผู้กล้าหาญมาจัดการปัญหาก็อาจจะอยู่ในสภาวะกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้แล้วแล้วจะมีคำถามว่าใครต้องรับผิดชอบกับความวุ่นวายและความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น