ม็อบเสื้อแดงเปิดหน้า ผนึกเยาวชนปลดแอก ชุมนุมที่ถนนอักษะ"เพนกวิน-อานนท์"ปูดได้กลิ่นรัฐประหาร "จตุพร"ชี้การชุมนุมเริ่มเข้าสู่ระยะตะลุมบอน จะมีการสร้างสถานการณ์ เชื่อ 2 ธ.ค.นี้ "บิ๊กตู่"รอดยากจากกรณีอยู่บ้านหลวง
วานนี้ (22พ.ย.) กลุ่มเสื้อแดงก้าวหน้า 63 พร้อมด้วยภาคีนักศึกษาศาลายา และกลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้นัดชุมนุมที่ถนนอุทยาน (ถนนอักษะในเวลา 16.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อใกล้เวลานัดหมาย ได้มีประชาชนทยอยเข้าพื้นที่ และได้ตั้งเต้นท์ตามจุดต่างๆ เพื่อให้บริการกับประชาชนที่จะเข้าร่วมการชุมนุม
ขณะที่ พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผกก.สน.ธรรมศาลา ได้เข้าเจรจากับแกนนำเพื่อให้ขยับเวทีจากซอยอุทยาน 13 มาที่ซอยอุทยาน 11 เพื่อให้ห่างเขตพระราชฐาน มากกว่า 150 เมตร แต่ผู้ชุมนุมพยายามขอใช้จุดเดิม ที่สุดได้ข้อสรุปว่าให้ตั้งอยู่ระหว่างซอยอุทยาน 11 และอุทยาน13
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมแจ้งว่า จะชุมนุมตั้งแต่เวลา16.00 น. จนถึงเวลา 01.00 น. และจะคืนพื้นที่ในเวลา 03.00 น. เบื้องต้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะผู้ชุมนุมยอมปฏิบัติตามที่ได้มีการพูดคุยและตกลงกันไว้ ส่วนเจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม จนกว่าผู้ชุมนุมจะยุติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำโลงศพ 3 โลงมาในที่ชุมนุม โดยระบุว่าเป็นการสื่อถึงผู้ชุมนุมแนวร่วม นปช. ที่ต้องบาดเจ็บและสูญเสียในช่วงการถูกสลายชุมนุมที่ถนนอักษะ เมื่อการชุมนุมปี 57 ไปวางไว้บริเวณหน้าแนวรับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจัดพิธีเชิงสัญลักษณ์ วางดอกไม้จันทน์และสวดมนต์
นอกจากนี้ได้มีการเปิดตัว"กลุ่มการ์ดภาคีเพื่อประชาชน" จากการรวมกลุ่มของการ์ดชุดต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมปกป้องมวลชนที่เข้าร่วมชุมนุม โดยไม่ยึดติดแกนนํา แต่มุ่งเน้นให้ทีมงานปลอดภัย ปกป้องประชาชน และสนับสนุนอุดมการณ์ของมวลชน จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงกลับมา
"เพนกวิน"ปูดได้กลิ่นรัฐประหาร
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำม็อบราษฏร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ช่วงนี้กลิ่นรัฐประหารแรงขึ้นเรื่อยๆ และบรรยากาศทางการเมืองช่วงไม่กี่วันนี้ เริ่มคล้ายกับช่วงก่อนรัฐประหาร 49 ถ้าเกิดการรัฐประหารขึ้น ขอให้พี่น้องประชาชนออกมาต่อต้านอย่างสุดความสามารถ
ขณะที่นายอานนท์ นำภา แกนนำ คณะราษฎร 2563 ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ และโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้...
วิธีป้องกันรัฐประหาร ข้อที่ 1 ขอให้คู่สมรส หรือลูกของทหารที่จะออกมารัฐประหาร จัดการตามสมควร ไม่ให้ทหารที่บ้านท่านออกมารัฐประหารครับ นี่เหมือนจะพูดเอาขำ แต่ไม่ขำครับ คนใกล้ชิดนั่นแหละที่รู้ข่าว รู้ความเคลื่อนไหวเร็วสุด เริ่มจากคนใกล้ตัวครับ ต้องปลดอาวุธทหารที่ออกมายืนตามสถานที่สำคัญ หรือตามแยก และไล่ให้ทหารเหล่านั้นเกิดความอาย สาดสีได้ให้สาด ที่บ้านพัก และที่ทำงานรวมทั้งรถประจำตำแหน่ง ของคนที่มีส่วนทุกระดับชั้นในการรัฐประหาร ต้องถูกประนาม ด้วยการสาดสี หรือสิ่งปฏิกูลอื่นๆ เน้นย้ำอีกครั้ง สันติวิธี ไม่ใช่แค่ การนั่งสมาธิ
ขอให้ช่วยกันออกแบบสันติวิธีสมัยใหม่ และตอบโต้คนทำรัฐประหารอย่าสาสม ขอให้เข้าใจตรงกัน #ต้านรัฐประหาร
'จตุพร'เชื่อ2ธ.ค.'บิ๊กตู่'รอดยาก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง และการชุมนุมทางการเมืองว่า กำลังเข้าสู่ระยะตะลุมบอน แม้จะมีการปกป้องแนวทางสันติวิธีทุกประการแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ในแต่ละเหตุการณ์ ไม่ใช่ว่าแต่ละฝ่ายต้องการให้เกิดเรื่อง แต่มือที่ 3 เท้าที่ 4 พร้อมจะใส่เสื้อทั้ง 2 ทาง และการสร้างสถานการณ์ของทั้งสองฝ่าย อย่างครั้งล่าสุดที่รัฐสภาเกียกกาย ถือว่าโชคดีที่ยังไม่มีใครตาย และรูปแบบก็เป็นแบบเดียว จนสุดท้ายนำไปสู่การปะทะกัน และระหว่างนั้น จะมีลูกผสมเข้ามามากมาย
ดังนั้น สถานการณ์ขณะนี้ที่ตนต้องส่งเสียงไปยังรัฐบาลว่า กลเกมต่างๆ และลูกผสมต่างๆ ส่วนใหญ่รัฐในขณะนั้นๆจะเข้ามามีบทบาทในการสร้างสถานการณ์ทุกครั้ง และเมื่อเลือดได้หลั่ง แล้วมันจะหยุดยาก
นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทย ไม่เคยมีการรัฐประหารเป็นครั้งสุดท้าย แต่สถานการณ์ที่ตนพูดกันมาหลายวันที่ผ่านมานั้น ดูเหมือนว่าไม่มีอะไร ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลรธน. นัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีการพักบ้านหลวงของนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากการเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่รอด เพราะมีกรณีที่ศาลรธน. วินิจฉัย เรื่องการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกอย่างก็หมดหวัง แต่ขอให้เชื่อตนไว้อย่างหนึ่งว่า เมื่อมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีใครแข็งแรงตลอดระยะเวลา ทั้งนี้ หากคนส่วนใหญ่คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรอด 99% แต่ตนเชื่อฝั่ง 1% ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอด เพราะสถานการณ์การเมืองเดินมาถึงทางตัน และการที่จะเอาพล.อ.ประยุทธ์ ให้พ้นจากกระดานนี้ ทำได้อย่างเดียวคือการให้พ้นจากตำแหน่ง ดังนั้น มีกรณีเดียวขณะนี้ที่ทำได้คือ กรณีที่พักอยู่บ้านหลวง ซึ่งเรื่องนี้เหมือนกับกรณีของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ทำกับข้าวออกโทรทัศน์ และหากถามว่าใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป ให้ขีดเส้นใต้ไว้ว่า นายกฯ คนต่อไปชื่อ อนุทิน ชาญวีรกุล
เตรียมเอาผิด ม.112 แกนนำม็อบ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงความพร้อมมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย รับมือการชุมนุมของกลุ่มราษฎร ในวันที่ 25 พ.ย.ว่า ทางบช.น.ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว กรณีแกนนำผิดเงื่อนไขการให้ประกัน หรือปล่อยตัวชั่วคราวของศาล แล้วพนักงานสอบสวนเตรียมพิจารณาเสนอให้ศาล เพิกถอนประกันตัวแกนนำที่ผิดเงื่อนไขทั้งหมด รวมถึงกำหนดห้ามแกนนำเข้าพื้นที่ชุมนุมนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการห้ามแกนนำเข้าพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้ ตำรวจจะปิดการจราจร เฉพาะเท่าที่มีความจำเป็น ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันเหตุร้าย
ส่วนการแจ้งข้อหา ม.112 นั้นต้องดูตามพฤติการณ์ และบริบทของกลุ่มผู้ชุมนุม หากเข้าข่ายความผิด ก็แจ้งข้อกล่าวหาตามนั้น ยืนยันตำรวจให้ความเป็นธรรมและการแจ้งข้อกล่าวหา จะพิจารณาในระดับกองบัญชาการเท่านั้น สำหรับการเตรียมออกหมายเรียกผู้ชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย และด้านหน้า ตร.ตำรวจ สน.บางโพ สน.เตาปูน และ สน.ปทุมวัน อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล จะมากกว่า 30 รายหรือไม่ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่จำนวนตัวเลข สำคัญที่คนกระทำผิด เชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยความผิดแบ่งเป็นหลายส่วน ได้แก่ "จัดการชุมนุมโดยมิชอบ, สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อย, หมิ่นประมาท และทำให้เกิดความเสียหายซึ่งทรัพย์สินเอกชน ทรัพย์สินราชการ และทรัพย์สินสาธารณะ"
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า วันนี้ (23พ.ย.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จะมีการพิจารณาขอให้ศาลออกหมายจับ "ผู้อยู่เบื้องหลัง" ม็อบคณะราษฎร
เตือนเยาวชนตกเป็นเครื่องมือต่างชาติ
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวถึง ม็อบคณะราษฎรว่า ไม่เพียงเป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น แต่ยังเป็นปฎิปักษ์ต่อพระพุทธศาสนาด้วย ซึ่งจะเห็นในม็อบว่ามีธงศาสนาใหม่เกิดขึ้นแล้ว เรียกว่า"ธงแครอทธรรมจักร"
กระบวนการต่อสู้ของม็อบในครั้งนี้ ไม่ได้ต่อสู้เพียงเพื่อจะแย่งชิงอำนาจการปกครอง แต่เป็นการต่อสู้เพื่อจ้องจะล้มล้างรากเหง้าของบรรพบุรุษไทยและถ้าขืนม็อบกลุ่มนี้กระทำการสำเร็จ เชื่อว่าศิลปวัฒนธรรมความเป็นชาติไทย จะถูกถอนรากเหง้าจนหมดสิ้น ดังนั้น ตนจึงได้ออกตระเวนเดินสาย บอกให้ทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ และให้ร่วมกันปกปักรักษา สถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์
"เลิกได้ก็ขอให้เลิก หยุดได้ก็ขอให้หยุด ถอนตัวได้ก็ถอน เพราะสิ่งที่กลุ่มวัยรุ่นเยาวชนทั้งหลายที่ร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ มันเป็นการทำลายล้างรากเหง้าของบรรพบุรุษไทย และกำลังตกเป็นเครื่องมือของต่างชาติ ที่อยู่เบื้องหลังในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เพื่อดึงเอาสถาบันฯ มาย่ำยีทำลาย" อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าว
วานนี้ (22พ.ย.) กลุ่มเสื้อแดงก้าวหน้า 63 พร้อมด้วยภาคีนักศึกษาศาลายา และกลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้นัดชุมนุมที่ถนนอุทยาน (ถนนอักษะในเวลา 16.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อใกล้เวลานัดหมาย ได้มีประชาชนทยอยเข้าพื้นที่ และได้ตั้งเต้นท์ตามจุดต่างๆ เพื่อให้บริการกับประชาชนที่จะเข้าร่วมการชุมนุม
ขณะที่ พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผกก.สน.ธรรมศาลา ได้เข้าเจรจากับแกนนำเพื่อให้ขยับเวทีจากซอยอุทยาน 13 มาที่ซอยอุทยาน 11 เพื่อให้ห่างเขตพระราชฐาน มากกว่า 150 เมตร แต่ผู้ชุมนุมพยายามขอใช้จุดเดิม ที่สุดได้ข้อสรุปว่าให้ตั้งอยู่ระหว่างซอยอุทยาน 11 และอุทยาน13
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมแจ้งว่า จะชุมนุมตั้งแต่เวลา16.00 น. จนถึงเวลา 01.00 น. และจะคืนพื้นที่ในเวลา 03.00 น. เบื้องต้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะผู้ชุมนุมยอมปฏิบัติตามที่ได้มีการพูดคุยและตกลงกันไว้ ส่วนเจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม จนกว่าผู้ชุมนุมจะยุติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำโลงศพ 3 โลงมาในที่ชุมนุม โดยระบุว่าเป็นการสื่อถึงผู้ชุมนุมแนวร่วม นปช. ที่ต้องบาดเจ็บและสูญเสียในช่วงการถูกสลายชุมนุมที่ถนนอักษะ เมื่อการชุมนุมปี 57 ไปวางไว้บริเวณหน้าแนวรับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจัดพิธีเชิงสัญลักษณ์ วางดอกไม้จันทน์และสวดมนต์
นอกจากนี้ได้มีการเปิดตัว"กลุ่มการ์ดภาคีเพื่อประชาชน" จากการรวมกลุ่มของการ์ดชุดต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมปกป้องมวลชนที่เข้าร่วมชุมนุม โดยไม่ยึดติดแกนนํา แต่มุ่งเน้นให้ทีมงานปลอดภัย ปกป้องประชาชน และสนับสนุนอุดมการณ์ของมวลชน จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงกลับมา
"เพนกวิน"ปูดได้กลิ่นรัฐประหาร
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำม็อบราษฏร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ช่วงนี้กลิ่นรัฐประหารแรงขึ้นเรื่อยๆ และบรรยากาศทางการเมืองช่วงไม่กี่วันนี้ เริ่มคล้ายกับช่วงก่อนรัฐประหาร 49 ถ้าเกิดการรัฐประหารขึ้น ขอให้พี่น้องประชาชนออกมาต่อต้านอย่างสุดความสามารถ
ขณะที่นายอานนท์ นำภา แกนนำ คณะราษฎร 2563 ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ และโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้...
วิธีป้องกันรัฐประหาร ข้อที่ 1 ขอให้คู่สมรส หรือลูกของทหารที่จะออกมารัฐประหาร จัดการตามสมควร ไม่ให้ทหารที่บ้านท่านออกมารัฐประหารครับ นี่เหมือนจะพูดเอาขำ แต่ไม่ขำครับ คนใกล้ชิดนั่นแหละที่รู้ข่าว รู้ความเคลื่อนไหวเร็วสุด เริ่มจากคนใกล้ตัวครับ ต้องปลดอาวุธทหารที่ออกมายืนตามสถานที่สำคัญ หรือตามแยก และไล่ให้ทหารเหล่านั้นเกิดความอาย สาดสีได้ให้สาด ที่บ้านพัก และที่ทำงานรวมทั้งรถประจำตำแหน่ง ของคนที่มีส่วนทุกระดับชั้นในการรัฐประหาร ต้องถูกประนาม ด้วยการสาดสี หรือสิ่งปฏิกูลอื่นๆ เน้นย้ำอีกครั้ง สันติวิธี ไม่ใช่แค่ การนั่งสมาธิ
ขอให้ช่วยกันออกแบบสันติวิธีสมัยใหม่ และตอบโต้คนทำรัฐประหารอย่าสาสม ขอให้เข้าใจตรงกัน #ต้านรัฐประหาร
'จตุพร'เชื่อ2ธ.ค.'บิ๊กตู่'รอดยาก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง และการชุมนุมทางการเมืองว่า กำลังเข้าสู่ระยะตะลุมบอน แม้จะมีการปกป้องแนวทางสันติวิธีทุกประการแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ในแต่ละเหตุการณ์ ไม่ใช่ว่าแต่ละฝ่ายต้องการให้เกิดเรื่อง แต่มือที่ 3 เท้าที่ 4 พร้อมจะใส่เสื้อทั้ง 2 ทาง และการสร้างสถานการณ์ของทั้งสองฝ่าย อย่างครั้งล่าสุดที่รัฐสภาเกียกกาย ถือว่าโชคดีที่ยังไม่มีใครตาย และรูปแบบก็เป็นแบบเดียว จนสุดท้ายนำไปสู่การปะทะกัน และระหว่างนั้น จะมีลูกผสมเข้ามามากมาย
ดังนั้น สถานการณ์ขณะนี้ที่ตนต้องส่งเสียงไปยังรัฐบาลว่า กลเกมต่างๆ และลูกผสมต่างๆ ส่วนใหญ่รัฐในขณะนั้นๆจะเข้ามามีบทบาทในการสร้างสถานการณ์ทุกครั้ง และเมื่อเลือดได้หลั่ง แล้วมันจะหยุดยาก
นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทย ไม่เคยมีการรัฐประหารเป็นครั้งสุดท้าย แต่สถานการณ์ที่ตนพูดกันมาหลายวันที่ผ่านมานั้น ดูเหมือนว่าไม่มีอะไร ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลรธน. นัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีการพักบ้านหลวงของนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากการเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่รอด เพราะมีกรณีที่ศาลรธน. วินิจฉัย เรื่องการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกอย่างก็หมดหวัง แต่ขอให้เชื่อตนไว้อย่างหนึ่งว่า เมื่อมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีใครแข็งแรงตลอดระยะเวลา ทั้งนี้ หากคนส่วนใหญ่คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรอด 99% แต่ตนเชื่อฝั่ง 1% ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอด เพราะสถานการณ์การเมืองเดินมาถึงทางตัน และการที่จะเอาพล.อ.ประยุทธ์ ให้พ้นจากกระดานนี้ ทำได้อย่างเดียวคือการให้พ้นจากตำแหน่ง ดังนั้น มีกรณีเดียวขณะนี้ที่ทำได้คือ กรณีที่พักอยู่บ้านหลวง ซึ่งเรื่องนี้เหมือนกับกรณีของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ทำกับข้าวออกโทรทัศน์ และหากถามว่าใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป ให้ขีดเส้นใต้ไว้ว่า นายกฯ คนต่อไปชื่อ อนุทิน ชาญวีรกุล
เตรียมเอาผิด ม.112 แกนนำม็อบ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงความพร้อมมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย รับมือการชุมนุมของกลุ่มราษฎร ในวันที่ 25 พ.ย.ว่า ทางบช.น.ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว กรณีแกนนำผิดเงื่อนไขการให้ประกัน หรือปล่อยตัวชั่วคราวของศาล แล้วพนักงานสอบสวนเตรียมพิจารณาเสนอให้ศาล เพิกถอนประกันตัวแกนนำที่ผิดเงื่อนไขทั้งหมด รวมถึงกำหนดห้ามแกนนำเข้าพื้นที่ชุมนุมนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการห้ามแกนนำเข้าพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้ ตำรวจจะปิดการจราจร เฉพาะเท่าที่มีความจำเป็น ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันเหตุร้าย
ส่วนการแจ้งข้อหา ม.112 นั้นต้องดูตามพฤติการณ์ และบริบทของกลุ่มผู้ชุมนุม หากเข้าข่ายความผิด ก็แจ้งข้อกล่าวหาตามนั้น ยืนยันตำรวจให้ความเป็นธรรมและการแจ้งข้อกล่าวหา จะพิจารณาในระดับกองบัญชาการเท่านั้น สำหรับการเตรียมออกหมายเรียกผู้ชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย และด้านหน้า ตร.ตำรวจ สน.บางโพ สน.เตาปูน และ สน.ปทุมวัน อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล จะมากกว่า 30 รายหรือไม่ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่จำนวนตัวเลข สำคัญที่คนกระทำผิด เชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยความผิดแบ่งเป็นหลายส่วน ได้แก่ "จัดการชุมนุมโดยมิชอบ, สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อย, หมิ่นประมาท และทำให้เกิดความเสียหายซึ่งทรัพย์สินเอกชน ทรัพย์สินราชการ และทรัพย์สินสาธารณะ"
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า วันนี้ (23พ.ย.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จะมีการพิจารณาขอให้ศาลออกหมายจับ "ผู้อยู่เบื้องหลัง" ม็อบคณะราษฎร
เตือนเยาวชนตกเป็นเครื่องมือต่างชาติ
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวถึง ม็อบคณะราษฎรว่า ไม่เพียงเป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น แต่ยังเป็นปฎิปักษ์ต่อพระพุทธศาสนาด้วย ซึ่งจะเห็นในม็อบว่ามีธงศาสนาใหม่เกิดขึ้นแล้ว เรียกว่า"ธงแครอทธรรมจักร"
กระบวนการต่อสู้ของม็อบในครั้งนี้ ไม่ได้ต่อสู้เพียงเพื่อจะแย่งชิงอำนาจการปกครอง แต่เป็นการต่อสู้เพื่อจ้องจะล้มล้างรากเหง้าของบรรพบุรุษไทยและถ้าขืนม็อบกลุ่มนี้กระทำการสำเร็จ เชื่อว่าศิลปวัฒนธรรมความเป็นชาติไทย จะถูกถอนรากเหง้าจนหมดสิ้น ดังนั้น ตนจึงได้ออกตระเวนเดินสาย บอกให้ทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ และให้ร่วมกันปกปักรักษา สถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์
"เลิกได้ก็ขอให้เลิก หยุดได้ก็ขอให้หยุด ถอนตัวได้ก็ถอน เพราะสิ่งที่กลุ่มวัยรุ่นเยาวชนทั้งหลายที่ร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ มันเป็นการทำลายล้างรากเหง้าของบรรพบุรุษไทย และกำลังตกเป็นเครื่องมือของต่างชาติ ที่อยู่เบื้องหลังในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เพื่อดึงเอาสถาบันฯ มาย่ำยีทำลาย" อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าว