“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 23 พศจิกายน 2563 ตอน ทางตัน ม็อบชนรัฐบาล ทางลงบิ๊กตู่อยู่บ้านหลวง
สถานการณ์การเมืองสัปดาห์นี้ เป็นห้วงเวลาที่ชวนระทึกใจอย่างยิ่ง ด้วยที่คาดว่าฝ่ายม็อบสามนิ้วกับรัฐบาลเคลื่อนทัพเข้าประชิด เตรียมเปิดศึก ชนกันแน่ หากไม่มีหมากเกมใหม่เป็นตัวสอดแทรกหรือเงื่อนไขใหม่ เข้ามาช่วยพลิกผันให้คลี่คลายไปได้
อุณหภูมิการเมืองร้อนขึ้นในช่วงนี้ มีเหตุจากที่ม็อบสามนิ้ว เปิดฉากในการชุมนุมที่ราชประสงค์ มีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลและเบื้องบนอย่างหนัก และประกาศเดินทัพไปจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่บริเวณหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
ซึ่งถือเป็นพื้นที่อ่อนไหว ไม่มีคาดคิดว่า ม็อบสามนิ้วจะกล้าเลือกพื้นที่แห่งนี้ แต่ยังไงก็ไม่เปลี่ยนแผน ม็อบบอกจะมาแน่ ล่าสุดยังยืนยันที่เวทีชุมนุมถนนอักษะเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่าน ว่าจะมากันแบบเบิ้มๆ และมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ด้วย
ทางด้านรัฐบาล มีแอ็กชั่นล่าสุดของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์จะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุมที่กระทำผิด โดยใช้ทุกฉบับ ทุกมาตรา เลยถูกแปลความว่า หมายถึงการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
อย่างรวดเร็ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เด้งรับ แจ้งข้อหาเพิ่มข้อหา กระทำผิด ม. 112 กฎหมายอาญา กับแกนนำม็อบที่เคยโดนคดี ม. 116 ข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ ถ้วนหน้าทุกคน
พร้อมกันนั้นก็มีราษฎรฝ่ายเสื้อเหลืองไปร้องทุกข์กล่าวโทษแกนนำทำผิด ม. 112 อีกด้วย เช่นนายนิติพงษ์ ห่อนาค หรือดี้ เลือกตัวจิ้มไปที่รุ้ง ปนัสยา เป็นรายแรก ตามคิวคงจะทะยอยมาเป็นคู่ ส่วนเจ้าเก่า เอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์ เลือกเปิดศึก นิติสงครามกับ ทนาย อานนท์ นำภา ที่กุข่าวนายกรัฐมนตรีจะลาออกก่อนวันที่25 พ. ย. นี้
เหตุจากการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ของกลุ่มราษฎรม็อบสามนิ้ว ซึ่งได้เปิดไพ่ใบสำคัญว่าการที่รัฐสภาตีตกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มไอลอว์ เป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ต้องจัดทัพเข้าพุ่งชนเป้าหมายใหญ่
ในทางด้านรัฐบาลที่ตัดสินใจเปิดประตูให้ใช้ กฎหมายอาญามาตรา 112 กับผู้ชุมนุม เป็นการเริ่มใช้ไม้แข็งกับม็อบ หลังที่ผ่านมาประนีประนอมค่อนข้างมาก เหตุก็เพราะหมดความอดทน เช่นกัน ที่ม็อบเด็กทะลุเพดานไปไกลมาก
เนื่องมาจากการชุมนุม ที่ราชประสงค์ วันที่ 18 พฤศจิกายน พบข้อความหลายอย่างหมิ่นเหม่ จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นแรงบีบให้ “บิ๊กตู่” ต้องออกแถลงการณ์ประกาศลุยไม่นับญาติกับม็อบ
สำหรับการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น เมื่อเดือนมิถุนายน “บิ๊กตู่” เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเมตตาไม่อยากให้ใช้
จึงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่ปรากฏว่า มีการดำเนินคดีในข้อหาความผิดอาญามาตรา 112 กับผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร เลย ท่าทีแบบNo mercy ของ “บิ๊กตู่” และ สตช. ครั้งนี้ ตีความกันว่า หลังจากนี้รัฐบาลจะเผด็จศึกแกนนำผู้ชุมนุมแล้ว
โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า กับกรณีที่กลุ่มราษฎร นัดชุมนุมกันในวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งคาดกันว่าฝ่ายรัฐบาลต้องปกป้องสุดชีวิต ม็อบก็จะเข้าไป ทั้งยังขู่ว่าจะชุมนุมอยู่กันยาว7 วันไม่เลิก อาจจะทำให้สถานการณ์มันรุนแรงขึ้น
สัญญาณ No mercy คือไร้ความเมตตา ผ่านการบังคับใช้มาตรา 112 รอบนี้ รัฐเอาจริงแล้ว เริ่มที่จะเช็คบิลย้อนหลังกลุ่มแกนนำทุกคนที่จาบจ้วงล่วงเกินสถาบันฯ และก่อนหน้านี้เคยโดนมาตรา116 ข้อหายุยงปลุกปั่น มาแล้ว จะโดนแจกข้อหาผิดมาตรา112 อีกข้อหา ซึ่ง เพนกวิน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ เป็นคนแรกว่ามีตำรวจเรียกไปรับข้อหาแล้ว
ในทางการวิเคราะห์ มีหลายฝ่ายมองว่า หากมีการใช้กฎหมายความมั่นคงเข้มงวดกับผู้ชุมนุมจริง เป็นสัญญาณการหา “ทางลง”ให้กับแกนนำกลุ่มราษฎร เพราะอยู่ในสภาวะที่ถอยไม่ได้ เนื่องจากจะทำให้แกนนำเหล่านี้สามารถขอลี้ภัยทางการเมืองได้
อย่างที่ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่าแกนนำเตรียมขอลี้ภัยไปต่างประเทศ เพียงแต่ว่า ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ แต่ เพนกวินยืนยันล่าสุดว่า ตัวเขาจะไม่ขอลี้ภัย ไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี ในช่วงวันหยุดยาวสี่วัน ท่ามกลางการชุมนุมที่ราชประสงค์ ถนนอักษะ พุทธมณฑลสาย3 และบริเวณถนนพระราม1 สยามสแควร์ของกลุ่ม น.ร.ล. นักเรียนเลว ซึ่งการชุมนุมอุ่นเครื่องก่อนเข้าสู่ศึกใหญ่ ที่จะถึงในวันพุธนี้
จะเห็นภาพของม็อบได้กลายพันธุ์ไปแล้ว
ด้วยที่ถนนอักษะมีกลุ่มเสื้อแดง ทุกสายมากันแน่น การชุมนุมของกลุามนักเรียนเลว ก็ประกอบด้วยกลุ่มเครือข่ายอาชีพต่างๆนับสิบๆ กลุ่ม ซึ่งเป็นไปได้ว่า การชุมนุมใหญ่ในวันพุธนี้จะมากันแบบแม่น้ำหลายสายมาบรรจบกัน
ขณะเดียวกัน มีข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมือง ระดับท้อป ซีเคร็ท ถูกปล่อยมาจาก ทนายอานนท์ ว่า บิ๊กตู่จะอยู่ไม่ถึงวันที่ 25 พ.ย. นี้ เและมีการเคลื่อนไหวจะก่อรัฐประหารอีกครั้งด้วย
ความจริงไม่มีการยืนยัน อาจจะเป็นข่าวจริง หรือว่าเป็นการสร้างข่าวของกลุ่มม็อบ เพื่อหวังผลจิตวิทยาทางการเมืองก็เป็นไปได้
แต่ข่าวบิ๊กตู่ไปต่อไม่ได้แล้ว ยังมีตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ ช่วยฟันธงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอด เพราะสถานการณ์การเมืองเดินมาถึงทางตัน จตุพร ว่า การที่จะเอา พล.อ.ประยุทธ์ ให้พ้นจากกระดานนี้ทำได้อย่างเดียว
คือการให้พ้นจากตำแหน่ง ดังนั้น มีกรณีเดียวขณะนี้ที่ทำได้คือ กรณีที่พักอยู่บ้านหลวง ซึ่งเรื่องนี้เหมือนกับกรณีของ นายสมัคร สุนทรเวช ที่ทำกับข้าวออกโทรทัศน์ โดยคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินในวันที่ 2 ธันวาคมนี้
ตู่ จตุพร อดีตประธาน นปช. แดงตัวพ่อ เป็นคนหนึ่งในแวดวงการเมืองที่การข่าวดูถูกเขาไม่ได้ แต่วงในรัฐบาลยังมีความมั่นใจว่า พลเอกประยุทธ์อยู่ได้อีกยาว ที่มีข่าวออกมาเพื่อเจาะช่องแตกในรัฐบาล ให้หวาดระแวงกันเอง
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวที่เกิดทุกด้าน สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่า ห้วงระยะสองสัปดาห์จากนี้ กลเกมการเมืองจะร้อนระอุขึ้น ก่อนจะคืบไปถึงฉากปิดเกม ที่มีการวางหวากเกมไว้แล้ว จึงกะพริบตาไม่ได้
