MGR Online - รอง ผบช.น.พร้อมนำ ม.112 กลับมาใช้ พบใครทำผิดเสนอผู้บังคับบัญชาทันที เผยรู้ตัวชายสวมเสื้อกันฝนยิงปืนที่แยกเกียกกายแล้ว คาดเป็นการ์ดกลุ่มราษฎร เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิด เตรียมเสนอศาลถอนประกันแกนนำทั้งหมด พร้อมรับมือม็อบ 21 และ 25 พ.ย. เชื่อนายกฯ ถอยทุกก้าวแล้ว แต่ฝั่งผู้ชุมนุมกลับละเมิดกฎหมายขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.กล่าวถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ข้อกฎหมายระบุไว้ชัดเจนการดำเนินคดีกับใคร ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบแต่ละความผิด ส่วนการนำมาตรา 112 มาใช้ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและเจตนาของผู้กระทำ ถ้าพบกระทำความผิดก็จะเสนอผู้บังคับบัญชาทันที ปัจจุบันมีการใช้ดอกไม้ไฟ พลุ ประทัด และเลเซอร์ เข้าองค์ประกอบความผิดใดตำรวจก็จะดำเนินคดี
“มาตรา 112 ตำรวจไม่กังวลที่จะนำกลับมาใช้อีกครั้ง เพราะเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ยืนยันตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับกลุ่มใด” รอง ผบช.น.กล่าว
กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติ โดยจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับกับม็อบ ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดในแถลงการณ์ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถอยออกมาทุกก้าวแล้ว โดยตั้งคณะทำงานเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ในขณะที่ฝั่งผู้ชุมนุมกลับไม่ยอมรับ และยังละเมิดกฎหมายขึ้นเรื่อยๆ ส่อเกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงความรุนแรงในเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่แยกเกียกกาย ว่า ขณะนี้ตำรวจทราบว่ามีชายสวมเสื้อกันฝนสีชมพู คาดว่า เป็นการ์ดของกลุ่มราษฎร ก่อเหตุยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมอีกกลุ่มก่อน อยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การชุมนุมโดยมิชอบ, ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนเป็นต้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, ทำร้ายร่างกาย และทำให้เสียทรัพย์
ส่วนประเด็นที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมผิดเงื่อนไขการให้ประกัน หรือปล่อยตัวชั่วคราวของศาลนั้น พนักงานสอบสวนเตรียมพิจารณาเสนอให้ศาลเพิกถอนประกันตัวแกนนำที่ผิดเงื่อนไขทั้งหมด รวมถึงกำหนดห้ามแกนนำเข้าพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้ ตำรวจมีความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม ในวันที่ 21 และ 25 พ.ย. โดยจะเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น.
