เกิดอะไรขึ้นในบ้านเมือง การชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องเรื่องต่างๆ เคยมี ขับไล่รัฐบาลก็เคยมี เป็นสภาวะปกติของสังคมมนุษย์ เมื่อเดือดร้อน ก็ต้องโวยวาย เรียกร้อง ให้ผู้บริหารประเทศจัดการแก้ไขปัญหา เพราะมาจากการเลือกตั้ง กินเงินเดือนจากภาษี
มายุคนี้เยาวชนปลดแอก ม็อบ 3 นิ้ว กลุ่มราษฎร มี 3 เรียกร้อง ให้ผู้นำรัฐบาลลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ข้อ 3 ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ไม่มีข้อเรียกร้องเรื่องปัญหาปากท้องเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ทนอกไหม้ไส้ขมมานานกว่า 6 ปี ภายใต้รัฐบาลนี้ให้ดีขึ้น อยู่ไปแต่ละวันมีแต่หนี้สินพอกพูน เศรษฐกิจตายซาก มองไม่เห็นว่าอนาคตประเทศจะดีขึ้นได้อย่างไร
ข้อเรียกร้องจึงไม่เกี่ยวกับความเดือดร้อนของชาวบ้านในประเด็นอื่นๆ ที่เป็นปัญหาสังคม เศรษฐกิจ อาชญากรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
คนยากจนทั้งแผ่นดินมีมากกว่า 14.6 ล้านคน เกือบ 1 ใน 3 ของประชาชน!
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรมีรากมาจากกลุ่มนิติราษฎร์และกลุ่มอื่นๆ ที่ถูกสังคมมองว่าไม่เอาสถาบัน อ้างการปฏิรูป แต่ต้องการลดทอนความสำคัญ ชาวบ้านทั่วไปเรียกง่ายๆ สั้นๆ ว่า “พวกล้มเจ้า” เป้าหมายแท้จริงก็เป็นเช่นนั้น
สภาพเช่นที่ว่านี้ เกิดไม่นานหลังจากการรัฐประหาร เกิดขึ้นในยุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนี่แหละ!
เป็นยุคที่บรรดานายทหาร คนรักชาติยิ่งชีพ อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี กุมอำนาจรัฐอยู่ โดยมีลุงตู่เป็นหัวหน้า ท่องคาถาเสียสละ ปกป้องชาติ สถาบันแทบจะ 3 เวลาหลังอาหาร มีคำพูดสโลแกนประณาม “พวกชังชาติ” อะไรทำนองนั้น
แต่ก็แปลก จากข้อเรียกร้องแบบกระมิดกระเมี้ยนของกลุ่มราษฎร ก็เริ่มยกระดับความเข้มข้น นับวันมีถ้อยคำรุนแรง การแสดงออกเปิดเผยมากขึ้น
ถามจริงๆ เถอะ! รัฐบาลมี 3 อดีตแม่ทัพบก เป็นทหารเสือพระราชินี เห็นพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ไม่รู้สึกอะไรจริงๆ หรือ? หรือเป็นเพราะความเป็นทหารสิ้นสุดเมื่อเกษียณอายุ ช่วงนี้เป็นนักการเมือง ต้องใช้ชีวิตอยู่บนอีกเส้นทางเช่นนั้นหรือ
จะเอาอย่างนั้นใช่หรือไม่ อดีตแม่ทัพบกทั้ง 3 คน?
มีอดีตทหาร ตำรวจ ข้าราชการ อยู่เต็มวุฒิสภา ก็เงียบยิ่งกว่าเป่าสาก ไม่มีเสียงคำรามฮึ่มฮ่ำอะไรทั้งนั้น หรือเกษียณแล้ว ไม่เกี่ยวแล้ว ขอรับเงินเดือนกับยกมือเมื่อมีการโหวต แค่นั้นเองใช่มั้ย? ทหารแก่ไม่มีวันตาย มีแต่จะเลือนหายไป อย่างที่ว่า!
อ้อ! ความรักชาติ สถาบัน ความจงรักภักดี มีวันหมดอายุด้วยแฮะ!
ล่าสุด กลุ่มม็อบจัดชุมนุม เขียนจดหมายถึงในหลวง เรียกร้องให้พิจารณาความต้องการของกลุ่มราษฎร ม็อบ 3 นิ้ว ว่าต้องมีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
จากการชุมนุมเรียกร้องกลางเมือง ก็เป็นการเดินขบวนไปยื่นหนังสือ จากนั้นก็เป็นการส่งจดหมาย ตามที่เกิดขึ้นให้เห็นทั้งประเทศคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ก็แปลกที่นายกฯ ลุงตู่มองพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎร ม็อบ 3 นิ้วมาตลอด และพูดย้ำทุกครั้งว่า “ตนเองไม่ใช่คู่ขัดแย้ง” ของกลุ่มนี้
ว่ากันง่ายๆ เข้าใจตามประสาชาวบ้านก็คือ “ผมไม่เกี่ยว” ใช่หรือไม่?
อ๋อ! เป็นกลุ่มขัดแย้งกับสถาบันกษัตริย์และตัวเองไม่ต้องทำอะไรเช่นนั้นหรือ?
และปากพร่ำอ้างความจงรักภักดี กล่าวคำปฏิญาณตนไม่รู้กี่ครั้งในช่วงรับราชการ ตะเบ็งเสียงแต่ละครั้งนกกาแตกตื่นแทบตกต้นไม้ตาย บินหนีเสียงคำราม
เดินวางก้ามส่ายอาดๆ ชาวบ้านนึกว่าเป็นฝีใต้รักแร้ไม่ยอมหาย!
อวดอ้างภาคภูมิใจว่าเป็นทหารเสือพระราชินี จงรักภักดีเหลือล้น เมื่อสถาบันกษัตริย์ถูกกล่าวจาบจ้วงล่วงเกิน ดันบอกว่าตัวเองไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
กลุ่มไม่เอาเจ้าลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ จาบจ้วงล่วงเกินกษัตริย์แทบไม่เว้นแต่ละวัน รัฐมนตรีต่างประเทศอยู่เฉยเป็นเบื้อ ไม่ถามไถ่รัฐบาลประเทศเหล่านั้นสักแอะ
“เฮ้! ยูให้พวกผู้ลี้ภัยสร้างปัญหาให้ประเทศไทยของไอได้อย่างไร” ไม่มีคำพูดอย่างนี้ กระทรวงการต่างประเทศ เงียบเป็นเป่าสาก ปล่อยให้ลามปามไม่ใส่ใจเต็มที่
เอาเถอะ! เมื่อกระทรวงการต่างประเทศไม่รับเป็นธุระจัดการ ผู้นำรัฐบาลก็นิ่งเฉย ไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะยังไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งของตัวเอง ใช่หรือไม่?
ช่วงม็อบนกหวีดเดินขบวนประท้วงขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตัวเองก็ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ยืนๆ นั่งๆ มองเห็นคนไล่ฆ่ากันกลางเมือง ลูกน้องโดนยำเละละลายไป 2 กองร้อยที่สี่แยกคอกวัว แต่ทำรัฐประหาร กลัวว่าจะเกิดสงครามกลางเมือง
รัฐประหารแล้ว “เมื่อทำเอง เสี่ยงเอง ก็ต้องเป็นผู้นำรัฐบาลเอง” ไม่มีใครเรียกร้อง เพราะล้มรัฐบาล ฉีกรัฐธรรมนูญยังทำได้ นับประสาอะไรกับเรื่องอื่นๆ
อยู่มานานกว่า 6 ปีพูดย้ำซ้ำซากว่า “ไม่ลาออก” “ไม่ได้ทำอะไรผิด” แถมยังพูดให้ตัวเองดูดีว่า “หวังว่าสักวันหนึ่ง จะมีคนดีกว่า เก่งกว่า ซื่อสัตย์กว่า หรือซื่อสัตย์เหมือนตนเอง เข้ามาทำหน้าที่” ชาวบ้านได้ฟังคำพูดทึกทักเองแบบนี้ ก็ตาเหลือก
เรื่องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความหล่อ ความดี ต้องให้คนอื่นพูด ไม่ใช่ตัวเองพูด!
คนดี คนซื่อสัตย์ในบ้านเมือง มีแน่นอน เพียงแค่ไม่มีโอกาสได้เข้าสู่อำนาจด้วยการเมืองที่ต้องใช้เงินเยอะ หรือการรัฐประหาร ถ้าไม่เชื่อก็รีบลาออกไป รับรองมีคนมาแทนแน่ๆ ไม่ต้องกลัวว่าบ้านเมืองจะล่มจมเพราะขาดผู้นำมาแทนลุง
ไปเถอะ! ออกไม่กลัว กลัวไม่ออก ไล่ก็ไม่ออก นี่แหละน่ากลัวกว่าเยอะ!