xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อนักมายากลสู้ยิบตา

เผยแพร่:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร



ทรัมป์จำใจต้องประกาศกักตัวเอง (และภรรยา Flotus) ในเวลาตี 1 ของดึกวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาฯ หลังผลตรวจเป็นบวกแสดงว่าเขาติดเชื้อโควิด

ภายหลังปรากฏหลักฐานว่า เขาไม่ได้ตรวจเชื้อทุกๆ วัน ดังที่โฆษกทำเนียบขาว และตัวเขาเองได้ออกมาประกาศโกหกก่อนหน้านี้ ขนาดโฆษกเคย์ลี แมคเอนแนนนี ยังโกหกตามเจ้านายว่า ปธน.ตรวจเชื้อวันละมากกว่า 1 ครั้งด้วยซ้ำ

และวันเสาร์ (ที่ 26 กันยาฯ) ที่ทรัมป์จัดงานใหญ่โตที่สวนกุหลาบ เพื่อเปิดตัวผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์กลางเอมี บาร์เรตต์ ว่าเป็นผู้ที่เขาคัดเลือกเพื่อเสนอชื่อให้วุฒิสภาพิจารณาในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุด น่าจะเป็นวันที่ทั้งทรัมป์และผู้ช่วยฝ่ายปชส.สาวสวยโฮป ฮิกส์ ได้เริ่มรับเชื้อและแพร่เชื้อในงานนี้เอง เพราะเป็นเวลา 5 วันก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มตรวจพบเชื้อในวันพุธและพฤหัสฯ ต่อมา (รับเชื้อ 5 วันก่อนตรวจพบเชื้อ)

ในวันอังคาร (ที่ 29 กันยาฯ) ทรัมป์ได้ไปโต้ประชันวิสัยทัศน์กับโจ ไบเดน ซึ่งเขาก็ไปโกหกกับคณะกรรมการที่จัดดีเบตว่า เขาได้ตรวจไม่พบเชื้อ (เป็น negative) ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ตรวจเชื้อก่อนดีเบต แต่คณะกรรมการก็ใช้ระบบ Honor System ยอมให้เขาเข้ามาดีเบตได้

ในวันรุ่งขึ้นหลังดีเบต, เป็นวันพุธ (ที่ 30 กันยาฯ) ที่ทรัมป์และโฮป ฮิกส์ ได้บินในแอร์ฟอร์ซวันไปหาเสียงที่รัฐมินนิโซตา ทั้งๆ ที่โฮป ฮิกส์ เริ่มไม่สบาย และผลตรวจเชื้อทราบตอนเย็นว่าเธอติดโควิด; ตอนบินกลับดี.ซี.-มีการจัดให้โฮปนั่งช่วงหลังของเครื่อง เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ

วันพฤหัสฯ ทรัมป์จึงยอมให้ตรวจเชื้อแบบ Rapid Test Kit คือตรวจด่วนรู้ผลในครึ่งชั่วโมง-และผลน่าจะเป็นบวก-ซึ่งทรัมป์ได้ออกทวิตเตอร์ช่วงเย็นว่า เขากำลังรอผลตรวจหลังโฮปติดเชื้อ

สำคัญคือ วันพฤหัสฯ หลังโฮปติดเชื้อแล้ว เขายังให้เธอเดินทางไปกับเขาเพื่อไปพบคณะผู้ระดมทุนเลือกตั้งให้เขา-ที่สนามกอล์ฟของเขาที่ Bedminster รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งทำให้คณะผู้ระดมทุนน่าจะติดเชื้อจากทั้งทรัมป์และโฮป ฮิกส์ แน่นอน รวมทั้งคณะของทรัมป์ประกอบด้วยลูกเขยและผู้ช่วยอื่นๆ ที่เดินทางไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ Marine-1

ความกลิ้งกลอกของทรัมป์ที่ไม่ยอมตรวจเชื้อทุกวัน แต่โกหกว่าทำ และการตัดสินใจไปรับเงินในวันพฤหัสฯ นับเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างมากที่ทำให้คนอื่นๆ จะติดเชื้อได้ง่าย, แต่เขาไม่สนทั้งสิ้น

ในที่สุด ในวันศุกร์ (ที่ 2 ตุลาฯ) ขณะที่เขากักตัวอยู่ที่ทำเนียบขาว-เขาก็เริ่มมีอาการระดับออกซิเจนต่ำกว่า 94% จนหมอประจำตัว ฌอน คอนลีย์ หว่านล้อมให้เขาไปโรงพยาบาล ซึ่งเขาก็ไม่ยอมง่ายๆ เพราะการไปโรงพยาบาลคือสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ (และคะแนนโพลของเขากำลังตามไบเดนในแทบทุกรัฐ)

ในที่สุด ทรัมป์จำยอมจะไปโรงพยาบาล แต่ได้เดินทางไปโรงพยาบาลในช่วงค่ำของวันศุกร์หลังจากตลาดเงินตลาดทุน ตลาดน้ำมันปิดแล้วที่วอลล์สตรีท

ช่วงอยู่โรงพยาบาลวันเสาร์ ทรัมป์ต้องการสร้างภาพว่า เขาแทบไม่มีอาการป่วยเลย จึงออกคลิปวิดีโอหลายครั้ง, โดยสวมเสื้อให้ดูแตกต่างกัน มีทั้งภาพนั่งและยืน และกำลังเซ็นเอกสารมากมาย (แต่ต่อมาถูกนักข่าวเขาซูมภาพจนเห็นเขาสร้างภาพว่ากำลังลงนามในเอกสารสำคัญ ทั้งๆ ที่เป็นแค่กระดาษเปล่า!!)

ก่อนตลาดทุนเปิดวันจันทร์ (ที่ 5 ตุลาฯ) เขาตัดสินใจนั่งรถ SUV มาโบกมือกับผู้สนับสนุนหน้าโรงพยาบาล เพื่อสร้างภาพว่าเขายังปกติดี ไม่ได้ป่วยหนัก เพื่อให้ตลาดพุ่งในวันจันทร์ ซึ่งก็เกิดปรากฏการณ์ตามที่เขาสร้างภาพคือ หุ้นขึ้นทั่วโลก เพราะมีความแน่นอนว่า ผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่ได้ล้มป่วยหนัก

ในวันจันทร์ เขาได้กดดันคณะแพทย์ว่า เขาจะต้องกลับทำเนียบขาว เพื่อสร้างภาพความแข็งแรงของสุขภาพของเขา ซึ่งคณะแพทย์ก็จำต้องยอม แม้จะแถลงว่าเขายังไม่ “Out of the Woods Yet” ก็ตาม

พอถึงทำเนียบขาว ก็สร้างภาพโดยถอดแมสก์ให้ถ่ายรูป (โดยมีเมกอัพที่หน้าดูเป็นสีส้ม) แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นปกติแล้ว (ทั้งๆ ที่เชื้อโรคมีอยู่เต็มตัว) และยังประกาศจะไปดีเบตรอบสอง (วันที่ 15 ตุลาฯ) ให้ได้

ทรัมป์สู้ยิบตา และประกาศก้องว่าชาวอเมริกันจงอย่าไปจำยอมกับไวรัสนี้ ให้สัญญาณว่าทุกคนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งการทิ้งระยะห่างเลย โดยให้ดูเขาเป็นตัวอย่าง

ขณะที่ไบเดนกลับประกาศว่า ถ้าเขาเป็นปธน. จะมีนโยบายบังคับให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากและทิ้งระยะห่างให้เป็นนโยบายแห่งชาติ

รวมทั้งโจ ไบเดน ก็ย้ำอีกว่า การสวมหน้ากากคือการรักชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังคนอื่นๆ ขณะที่ทรัมป์ส่งสัญญาณให้ทิ้งหน้ากาก เพราะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติในชีวิตประจำวันที่จะต้องกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

ทรัมป์เป็นนักมายากลที่สู้ยิบตาเพื่อให้กลับมาทำเนียบขาวในรอบสองให้จงได้

ซึ่งผลการเลือกตั้งปีนี้จะตัดสินว่าทรัมป์จะชนะหรือไม่

โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต


กำลังโหลดความคิดเห็น