“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
“คนสองหน้า” วาจาไปซ้าย การกระทำไปขวา เลี้ยวไปเลี้ยวมา หาความจริงใจไม่ได้!
“นักการเมืองไทย”ส่วนใหญ่ ทั้ง “รัฐบาล” และ“ฝ่ายค้าน” มัก“พูดอย่าง-ทำอย่าง” หรือ“พูดดี” จนผู้คนร้อง “ว้าว” ด้วยความดีใจ แต่มัก “ไม่ทำดี”ให้ชาติและประชาชนดังคำพูด!
มหาเศรษฐี “บิ๊กเหลี่ยม” โกหกหน้าด้านๆ ว่า “ผมรวยแล้วจะไม่โกง” แต่พอ“บิ๊กเหลี่ยม”ได้เป็น“นายกรัฐมนตรี” อดีต“นายกฯบิ๊กเหลี่ยม”ก็แสดงพฤติกรรม เป็น“คนสองหน้า-วาจาไปซ้าย การกระทำไปขวา” ด้วยการใช้อำนาจรัฐและกลไกรัฐ ปฏิบัติการคอร์รัปชั่นโกงชาติ จนได้สมญานาม “รวยแล้วยังโกงชาติ” จากนั้นก็ยกระดับเป็น“รัฐบาลโกงทั้งโคตร”
ในที่สุดรัฐบาล“นายกฯ บิ๊กเหลี่ยม”และเครือข่าย ซึ่งคอร์รัปชั่นโกงชาติชนิดไม่รู้จักพอ ก็ถูกประชาชนชุมนุมขับไล่เป็นแรมปีครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งพันธมิตรฯและกปปส. ก่อนจะถูก “คณะนายทหาร” นำกองทัพออกมาทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง
ทำให้อดีต“นายกฯ บิ๊กเหลี่ยม” กับอดีต “นายกฯ ปูจ๋า” ต้องเผ่นหนีคดีความและคุกตะราง ไปเร่ร่อนอยู่ในต่างแดนจนทุกวันนี้
นับเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก ที่เครือข่าย“บิ๊กเหลี่ยม” รวยแล้วแทนที่จะทุ่มเทใช้อำนาจรัฐ ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นเป็นประวัติการณ์ ด้วยการบริหารชาติเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูล ทำผลงานดีๆที่ทำให้ชาติเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทว่า..รัฐบาลเครือข่ายของ“บิ๊กเหลี่ยม” หลงผิด“เห็นกงจักรเป็นดอกบัว”เข้าเต็มเปา ดันเจ้าเล่ห์เพทุบายใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล ทำเพื่อ“ตัวกู-ครอบครัวกู-พวกกู-พรรคกู” โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง เลยโดน“กรรมติดจรวดตามสนอง” จนต้องเผ่นหนี จากลูกจากเมีย จากแผ่นดินเกิดจนทุกวันนี้
คราวนี้พอหันมาดูรัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง ซึ่ง“บิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน” ที่ทั้ง“เสียของ” จากการ“เยี่ยวไม่สุด” เพราะไม่จริงจังกับการปราบคนโกงชาติ และไม่มีการปฏิรูปการเมืองชาติก่อนเลือกตั้ง แต่กลับเร่งจัดให้มีการเลือกตั้ง ทำให้รัฐบาลเครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม”กลับมาครองบ้านเมืองได้อีกครา
รัฐประหารของ “บิ๊กบัง” จึงทำดีได้แค่ยุติอำนาจรัฐอธรรม“นายกฯ บิ๊กเหลี่ยม” ได้เพียงชั่วคราว..เป็นรัฐประหารที่ชาติได้ไม่คุ้มเสีย..จริงไหมล่ะ?
ส่วนรัฐประหารอีกครั้ง ที่นำโดย “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งได้เห็นข้อผิดพลาดมหันต์กับตา ซึ้งกับใจ จากบทเรียนรัฐประหารของ “บิ๊กบัง” ดังนั้น “บิ๊กตู่ ”ที่ควบตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” จึงได้ประกาศอย่างเป็นทางการด้วยท่าทีขึงขังว่า
รัฐบาลรัฐประหารของ“นายกฯ บิ๊กตู่” ที่มีอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จในกำมือ จะปราบปรามการคอร์รัปชั่นโกงชาติ! จะลดความเหลื่อมล้ำให้ชาติ! จะปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง ฯลฯ
วันนั้น “นายกฯ บิ๊กตู่” พูดดีพูดถูกใจประชาชนสุดๆเลย(ว่ะ) แถมยังพูดดีท่ามกลางกระแสปฏิรูปชาติพุ่งสูงสุดๆ ด้วย ประชาชนไทยพากันแซ่ซ้อง ขนดอกไม้มา“มอบให้บิ๊กตู่” กับบรรดาทหารในกองทัพไทยไม่ขาดสาย..
ด้วยประชาชนเชื่อมั่นว่า “ชายชาติทหาร”อย่าง“บิ๊กตู่” เป็นถึง“ผู้บัญชาการทหารบก” ซึ่งเป็นทั้ง“หัวหน้าคณะรัฐประหาร”ควบ“นายกรัฐมนตรี” ต้องเป็น“คนพูดจริงทำจริง”แน่นอน
“บิ๊กตู่”จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อ“คนโกงชาติ”อย่างจริงจังแน่นอน “นักการเมือง”ที่ไม่ได้โกงชาติย่อมไร้กังวลใดๆให้เปลืองสมอง แต่“นักการเมืองโกงชาติ”ที่ทำผิดต้องปิดฉากจบลงที่“คุก”เท่านั้น!
“บิ๊กตู่”จะต้องลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย โดยเฉพาะต้องเน้นการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ให้ผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากจนที่เป็นคนส่วนใหญ่ เพื่อลดช่องว่างระหว่าง “คนรวยกับคนจน”
“บิ๊กตู่” จะต้องปฏิรูปชาติในมิติสำคัญๆ ที่ส่งผลร้ายนานัปการต่อชาติและประชาชน โดยเฉพาะต้องปฏิรูปการเมืองชาติให้สำเร็จ ก่อนจะจัดให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ
แต่แล้ว..“บิ๊กตู่”กลับมีพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากอดีตนายกฯ“บิ๊กเหลี่ยม” โดยบางเรื่อง“บิ๊กตู่”กลายเป็น“คนสองหน้า-วาจาไปซ้าย การกระทำไปขวา” เฉยเลย..
เมื่อ “บิ๊กตู่”ไม่ได้ทำตามคำพูด แม้มีอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จมาตรา 44 ยึดอำนาจอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 5 ปี แต่รัฐบาลรัฐประหาร “บิ๊กตู่”ไม่ปราบปรามบรรดาคนโกงชาติอย่างจริงจัง ทำให้“คนโกงชาติ”มิใช่น้อยยังลอยนวลอยู่เหนือกฎหมาย!
ซ้ำร้าย ในยุครัฐบาลรัฐประหาร“บิ๊กตู่”นี่แหละ ที่เกิดการโกงชาติใหญ่น้อยสารพัด ทั้งการโกงเงินอาหารกลางวันเด็กนักเรียน โกงเงินช่วยเหลือผู้สูงวัย โกงเงินช่วยเหลือคนพิการ โกงเงินช่วยเหลือเรื่องเกี่ยวกับศาสนา ฯลฯ
ชาวบ้านที่เข้าไปทำมาหากินในที่ดินของหลวง หรือในเขตป่าเขา เจ้าหน้าที่รัฐมักลงโทษตามกฎหมายอย่างรวดเร็วเสมอ ทว่า“นักการเมืองบางคน” ที่อยู่กับพรรคแกนนำรัฐบาล บุกเข้าไปยึดที่ดินของหลวงนับพันไร่ มีหลักฐานกระทำผิดชัดแจ้งจนเป็นข่าวฉาวโฉ่
แต่“นักการเมืองบางคน”นั้น ยังคงเดินเชิดหน้าชูตาอยู่ในสภาฯ เย้ยหยัน“ผู้บังคับใช้กฎหมาย” ที่ปฏิบัติงานล่าช้าผิดปกติ ทั้งยังเป็นการกระทำแบบสองมาตรฐาน ต่อหน้าต่อตา“นายกฯบิ๊กตู่-รองนายกฯบิ๊กป้อม”เลยนะเฟ้ย!
ส่วนเรื่องลดความเหลื่อมล้ำในชาตินั้น “บิ๊กตู่”ได้สร้างผลงานเป็นตรงกันข้ามเลย เพราะไทยกลายเป็นชาติที่มีความเหลื่อมล้ำสูงสุดในอาเซียน และติดอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้ว จนได้รับคำเรียกขาน ว่าไทยเป็นสังคม“รวยกระจุกจนกระจาย”ไปเลยล่ะ..เฮ้อ..เวรกรรม..
สังคมไทยเกิดความเหลื่อมล้ำเพิ่มทวี จาก“คนรวย-รวยยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด” ขณะที่“คนจน-จนลงตลอดเวลา” ด้วยนโยบายเศรษฐกิจ“รดน้ำจากด้านบนให้ไหลลงด้านล่าง” ซึ่งเอื้อผลประโยชน์ให้ทุนใหญ่ทั้งในและต่างชาติเป็นหลัก
ที่สำคัญเรื่อง“ปฏิรูปการเมืองก่อนเลือกตั้ง”นั้น บอกตรงๆ ว่า“ล้มเหลวจริงๆ” เพราะมีการแก้กติกาและกฎหมายมิใช่น้อย โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งร่างโดย“มีชัย ฤชุพันธุ์”ที่ผ่านประชามติไปแล้วนั้น ทำให้พรรคการเมืองที่หนุน“บิ๊กตู่” ได้เปรียบคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง
เมื่อไม่ปฏิรูปการเมืองชาติแม้แต่น้อย แต่กลับเร่งจัดให้มีการเลือกตั้ง โดยเครือข่ายของ“นายกฯบิ๊กตู่”ใช้วิธีเก่าๆ ด้วยการไปดึง“นักการเมือง”ในเครือข่ายของ“บิ๊กเหลี่ยม” ที่“บิ๊กตู่” ทำรัฐประหารโค่นล้มไป เอามาลงเลือกตั้งเข้าไปในสภาฯ เพื่อยกมือหนุน“บิ๊กตู่”เป็น“นายกฯ เลือกตั้ง”
ชาติไทยจึงได้ “นายกฯ เป็ดง่อยตู่”เป็นผู้นำ ทำให้การเมือง“ถอยหลังลงคลองน้ำเน่า”อีกครั้ง เพราะการเมืองไทยและ“นักการเมือง”ส่วนใหญ่ ยังไร้คุณภาพด้อยคุณธรรมเช่นเดิม การเมืองจึงเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงอำนาจ และหนีไม่พ้นจะต้องเกิดการคอร์รัปชั่นโกงชาติ ในโครงการใหญ่น้อยตามมา..แน่นอน!
ทว่าก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับ“บิ๊กตู่”.. เพราะรัฐบาลรัฐประหาร“บิ๊กตู่” ได้ใช้อำนาจเผด็จการสร้างผลงานทั่วไปทั้งเล็กใหญ่มิใช่น้อย แม้บางโครงการจะยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งรัฐบาล“บิ๊กตู่” ควรนำเงินงบประมาณมหาศาลของชาติ ไปพัฒนาด้านอื่นที่จำเป็นเร่งด่วนมากกว่า
โดยเฉพาะ“บิ๊กตู่”ได้ทุ่มเงินมหาศาล ลงทุนพัฒนาเครือข่ายการคมนาคมอย่างมากมาย ทั้งในเมืองกับนอกเมือง ถ้าโครงการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงด้วยดี ประชาชนจะได้เห็นการคมนาคมของชาติไทย สะดวกสบายมากขึ้นอย่างแน่นอน
แต่เพราะ“บิ๊กตู่”ไม่แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆให้ชาติกับประชาชน “บิ๊กตู่”จึงถูกผู้คนชุมนุมขับไล่ กระทั่งถึงกับกล้าประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่า จะเปลี่ยน“ราชอาณาจักรไทย”เป็น“สาธารณรัฐ” ทั้งๆที่อยู่ภายใต้รัฐบาลที่มี“สามอดีต ผบ.ทบ.”ครองเมืองแท้ๆ!
“บิ๊กเหลี่ยม”..ทำให้ชาติไทยย่ำแย่ลงตราบจนทุกวันนี้!
“บิ๊กตู่”..ก็ไม่ได้ทำให้ชาติไทยดีขึ้นเท่าที่ควรจนทุกวันนี้เช่นกัน!
งั้น“บิ๊กตู่-บิ๊กเหลี่ยม”ก็เหมือนกันเด๊ะเลย เพราะทั้งคู่เป็นคน“พูดแล้วไม่ทำ”
เสียดาย-ถ้าทั้ง“สองคน”นี้มี“หน้าเดียว-ที่พูดจริงทำจริง”..ชาติกับประชาชนเจริญไปไกลนานแล้ว!