คณะ 3 ลุงได้กุมอำนาจบริหารสูงสุดในแผ่นดินมานานกว่า 6 ปี ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีพลังอะไรมาท้าทาย หรือเขย่าฐานที่แข็งแกร่งได้ มีทั้งอำนาจตามกฎหมาย และมีเครือข่ายเพื่อนพ้องน้องพี่ กลุ่มทุนใหญ่ประสานผลประโยชน์ หวังจะอยู่ยาวอีกหลายปี
มีทั้งอำนาจรัฐ และอำนาจซ้อนรัฐ ที่เรียกว่าเป็น state within state หรือ ยุคนี้เรียกว่า deep state เพราะมีทั้งอิทธิพลเปิดเผย และแฝงเร้น ปกป้องผลประโยชน์เต็มที่
ยิ่งมีทุนมหาศาลสร้างเครือข่ายกองเชียร์ และติ่งรณรงค์ รวมทั้งสื่อที่ร่วมตักตวงผลประโยชน์เล่นงานฝ่ายตรงข้าม หรือกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล มีวาทกรรมว่าเป็นกลุ่ม “ชังชาติ” บ้าง กลุ่มจ้องทำลายสถาบันบ้าง กลบเกลื่อนความอัปลักษณ์ซุกแฝงไว้
ทำให้ประชาชนมองข้ามไปว่า ที่แท้คณะรัฐบาลและนักเลือกตั้งในพรรคร่วมล้วนมีลูกสมุนท่านเหลี่ยมลี้ภัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ ประสานความเนียนระหว่างนักรัฐประหารกับเหยื่อการรัฐประหาร จนทำให้สถานการณ์และความจำเป็นบีบให้เป็นพวกเดียวกัน
ถ้าเอาลุงห้าวเป้งผู้นำรัฐบาลออกไป เอาท่านเหลี่ยมลี้ภัยมาแทน ก็ไม่ต่างกัน!
กลุ่มกองเชียร์ลุง และเล่นงานฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล กำลังสร้างภาพลวงให้ชาวบ้านบ้องตื้นและพวกติ่งเชื่อว่ารัฐบาลลุงคือ “รัฐ” เป็นเนื้อเดียวกัน แท้ที่จริงเป็นคนละเรื่อง
รัฐเป็นประชาชน แต่รัฐบาลเป็นกลุ่มกุมอำนาจบริหารรัฐ มาจากการเลือกตั้ง และรัฐประหาร หรือมาจากรัฐประหารและกลายพันธุ์แปลงสภาพเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง หน้าฉากเป็นประชาธิปไตยพิกลพิการ มีบางพวกในสถาบันนิติบัญญัติเป็นตรายางค้ำจุน
การผยองอำนาจทำให้ลืมตัว เขียนกฎกติกาเพื่อให้ตัวเองและพวกอยู่ในอำนาจ หวังกอบโกยผลประโยชน์ วางเครือข่ายสืบทอดอำนาจยาวนาน ทุกข์ยากแร้นแค้นของประชาชนที่อยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลของกลุ่มธุรกิจทุนใหญ่ไม่ได้รับความสนใจไยดี
สภาพของประเทศกว่า 6 ปี ต้องแบกหนี้เพิ่มขึ้นมหาศาล ชาวบ้านเป็นหนี้ครัวเรือน ความเหลื่อมล้ำของรายได้ยากที่จะแก้ไขเยียวยา เว้นแต่จะมีการยกเครื่อง เร่งปฏิรูปโครงสร้างขนานใหญ่ แต่ไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้ากลุ่ม 3 ลุงยังเป็นผู้กุมอำนาจรัฐ ไม่ยอมปล่อย
ความเสื่อมโทรมด้านโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม ยากที่จะเยียวยาได้ กระบวนการยุติธรรมไม่มีความน่าเชื่อถือ เครือข่าย deep state ย่ำยี คนทั้งแผ่นดินเห็นความอัปยศและความชั่วร้ายของกลุ่มกุมอำนาจซ้อนรัฐ
ก็คดี “ชนคนตายแล้วหนี” เกี่ยวโยงกับทายาทอภิมหาเศรษฐีนั่นแหละ ที่เห็น 8 กลุ่มในการสอบสวนโดยคณะท่านวิชา มหาคุณ เปิดโปงให้เห็นว่าคนมีตำแหน่งใหญ่โตต่างอยู่ในขบวนการมุ่งช่วยเหลือคนกระทำความผิด ทั้งทำลายกระบวนการยุติธรรม
ความลำพอง ผยองอำนาจ ความเชื่อที่ว่าจะไม่มีใครทำอะไรได้ ทำให้คณะ 3 ลุงย่ามใจ ยิ่งมีสื่อและขบวนการเชียร์ ได้รับผลประโยชน์ ทำงานเป็นกระบอกเสียง เป็นกลุ่มรณรงค์ให้ ก็ยิ่งหวังว่าจะได้อยู่ต่อไป ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นปัญหาหลักของแผ่นดิน
แต่ความหวัง ฐานอำนาจ ความเชื่อมั่นถูกสั่นคลอนอย่างแรง หลายเดือนผ่านมา
มีเด็กนักเรียนมาส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ขอมีส่วนร่วมในการรับรู้ปัญหาของบ้านเมือง และอยากรู้ว่าคณะ 3 ลุงและพวกจะแสดงความสามารถจัดการวิกฤตรุนแรงต่างๆ ที่รุมเร้า คุกคามความอยู่รอดของประเทศได้อย่างไร ขณะที่สภาวะโดยรวมกำลังอ่อนล้า
ที่ผ่านมา คณะ 3 ลุงใช้ลีลาลูกเล่นต่างๆ สลับบท เอาตัวรอดมาได้ แต่ก็ตบตาคนรู้ทัน และสภาวะย่ำแย่ของเศรษฐกิจได้ฟ้องให้เห็นว่าตายซาก ยากต่อการฟื้นฟู ก่อนการระบาดของโคโรนาไวรัส ที่ผ่านมาปัญหาการทุจริต คอร์รัปชันประจานให้ชาวบ้านได้เห็น
ถูกจับได้ไล่ทัน จวนตัว ก็ใช้องค์กรอิสระ มีสมุนกุมอำนาจ เป็นเครื่องมือฟอกตัว ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาด้านความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ ชาวบ้านไม่ไว้ใจมากขึ้น เมื่อเด็กนักเรียน นักศึกษารุกเร้าหนัก ก็อ้างว่าเด็กกำเริบ ก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ หาทางตำหนิสารพัด
ความเป็นจริง เด็กยังไม่มีโอกาสได้โกงบ้านกินเมือง ไม่ได้ทำความชั่วร้าย ไม่ส่งเสริมขบวนการโจรเสื้อนอก นักเลือกตั้งกังฉินเหมือนพวกสื่อรับจ้างเชียร์แลกเงินอุดหนุน เด็กอ้างว่าแต่ละคนก็มี 1 สิทธิ 1 เสียงเหมือนผู้ใหญ่ และพวกกังฉินกินเมือง
เด็กได้เป็นปัญหาท้าทายอำนาจและความชอบธรรมในการบริหารบ้านเมืองของคณะ 3 ลุงและพวก ทำให้ต้องหาทางควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เสียท่า ด้วยเหตุนี้จึงมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมฝูงชน หลายกองร้อย พร้อมอุปกรณ์ พาหนะสนับสนุน
เอามาเตรียมไว้ตามจุดต่างๆ ทั้งในเมืองหลวงและชานเมืองรอบนอก เพราะเกรงว่าวันที่ 19 เดือนนี้จะมีนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งประชาชนคนเบื่อคณะ 3 ลุงและพวกออกมาชุมนุมเรียกร้อง ถ้าออกมาหลายหมื่นคน อาจถึงขั้นเรียกร้อง ขับไล่ให้ลาออก
เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนหลายกองร้อย หรืออาจมากกว่านั้น เมื่อใกล้วันชุมนุม จะเป็นฐานค้ำยัน และอาจเป็นกำลังเพื่อภารกิจอื่นๆ อย่างที่ชาวบ้านเริ่มสงสัยแผนอยู่ยาว
อย่างไรก็ตาม คณะ 3 ลุงยังต้องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่ามีคุณค่าสมควรที่จะอยู่ต่อ ด้วยการจัดการปัญหาเร่งด่วน ท้าทายความน่าเชื่อถือ ด้วยการหารัฐมนตรีคลังที่ประชาชนยอมรับในความรู้ ความสามารถ ใจซื่อ มือสะอาด มาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
คณะ 3 ลุงและพวก ไม่ได้มีกลิ่นหอมหวนทวนลม ภาพลักษณ์ดีเลิศ จะหวังให้คนดีเข้ามาร่วมได้หรือ หลังจากได้เห็นตัวอย่างของคณะ 4 กุมารอ้วนพี และนายปรีดี ดาวฉายที่โดนกลุ่มผลประโยชน์เล่นงานในแผนยืมดาบฆ่าคน แต่พวกลุงลอยตัวหนีปัญหา
ยิ่งต้องจัดการ 8 กลุ่มในกรณีทายาทเศรษฐีชนคนตายแล้วหนีด้วยแล้ว คณะ 3 ลุงคงทำอะไรไม่ได้ เมื่อลูบหน้าก็ปะจมูกเพื่อนพ้องน้องพี่คนร่วมผลประโยชน์ทั้งนั้น
หรือว่าบุญเก่าจวนหมด กรรมใหม่และเก่ากำลังไล่บี้คณะ 3 ลุง เกือบจนแต้ม?