การตัดสินใจโดยศาลสูงของมาเลเซีย ให้อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค มีความผิดในคดีแรกๆ 7 คดี จากข้อหาลุแก่อำนาจ, คอร์รัปชัน ในการเป็นตัวการปล้นเงินที่มาจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (1MDB-กองทุนพัฒนามาเลเซีย) ที่เขาตั้งมากับมือ และต้องโทษจำคุก 12 ปีนับเป็นดัชนีชี้ระดับความยุติธรรมในมาเลเซีย ที่กำลังเดินตามรอยทางของเกาหลีใต้ ที่อัยการสามารถประสบความสำเร็จในการนำคดีขึ้นสู่ศาล และลากตัวอดีตปธน. 2 คนของเกาหลีให้ต้องติดคุกในคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนฆ่าแกงประชาชนที่ต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมในยุคทศวรรษที่ 60’s
อดีตนายกฯ นาจิบ ไม่ใช่นายกฯ ธรรมดาๆ ของมาเลเซีย แต่เขาคือผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงของการเมืองมาเลเซีย เพราะเป็นคุณชายทายาทคนโตของอดีตนายกฯ คนที่สองของมาเลเซีย (ซึ่งเป็นหนึ่งในวีรบุรุษผู้ต่อสู้กับจักรวรรดิอังกฤษเพื่อปลดแอกนำเอกราชกลับสู่มาเลเซีย) และเป็นหลานชายของอดีตนายกฯ คนที่ 3 (ฮุสเซน ออน) ที่มองกันว่า จะต้องขึ้นเป็นนายกฯ แน่ๆ เนื่องจากมาจากตระกูลที่มีบุญคุณอย่างสูงต่อประเทศ และคุมมุ้งใหญ่สุดของพรรคอัมโน ที่ครองเสียงข้างมากในสภามาตั้งแต่ได้ปลดแอกจากอังกฤษ
ไปเรียนหนังสือที่อังกฤษ และเมื่อกลับมามาเลเซียก็ได้รับการสนับสนุนจากอดีตนายกฯ มหาเธร์ โมฮัมหมัด (ดร.เอ็ม) จนกลายเป็นรมต.หนุ่มที่อายุน้อยที่สุด (ขณะนั้น) ในตำแหน่งรมต.กระทรวงศึกษาธิการ
ในปี 2009 นาจิบได้ขึ้นเป็นนายกฯ และอยู่ในตำแหน่งสองสมัยถึง 2018 โดยได้สร้างตำนานที่นำพาพรรคอัมโนแพ้การเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 70 ปี
ด้วยความเหลิงอำนาจ (หรือตามคำตัดสินของศาลเมื่อต้นอาทิตย์นี้ คือ Abuse of Power-ลุแก่อำนาจ) จึงได้ปล้นเงินของประชาชน โดยการแอบนำเงินของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ไปใช้ส่วนตัว (มีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว)
เขาจะปล้นชาติด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ แต่ได้มี Network ที่ประกอบไปด้วยคนใกล้ชิดเป็นคน “ชง” ให้ นั่นคือ นายJho Low ซึ่งเป็นเพื่อนซี้กับลูกเลี้ยงของเขา (Riza Aziz-เป็นลูกชายของนางRosmah Mansor-ภรรยาคนที่สองของนาจิบ และเป็นคุณหญิงหมายเลข 1 ของนาจิบ-ไรซา อาซิส เป็นลูกติดจากสามีคนก่อนของนางรอสมาห์) และสนิทสนมกับนายไรซา อาซิส เมื่อครั้งเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน
นายJho Low เป็นคนเสนอให้นายกฯ นาจิบ จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งนี้ขึ้นเพื่อบังหน้าจะพัฒนามาเลเซีย แต่ด้วยเป็นนักการเงิน (หรือนักต้มตุ๋นมือฉกาจ) จึงวางแผนดึงเอา Goldman Sachs วาณิชธนกิจชื่อดังของโลกแห่ง South East Asia มาร่วมสมคบในแผน (Scheme) อันสกปรกนี้ด้วย เพื่อออก Bond ถึง 2 ครั้ง ระดมทุนเข้ากองทุน 1MDB นี้ เป็นการออก Bond จากทั่วโลกที่มีผู้ถูกตุ๋นมาซื้อพันธบัตรจากทั่วโลกด้วย
ปี 2013 ความไม่ชอบมาพากลของกองทุน 1MDB เริ่มส่งกลิ่นไม่ปกติ และนักข่าวหญิงคนเก่งชาวอังกฤษ ผู้ก่อตั้งบล็อกชื่อ The Sarawak Report-ได้ตรวจพบความเชื่อมโยงการสร้างหนังดังฮอลลีวูดชื่อ The Wolf of Wall Street กับเงินสนับสนุนจากกองทุน 1MDB
เธอเป็นนักข่าวอังกฤษที่เกิดที่มาเลเซีย และเป็นน้องสะใภ้ของอดีตนายกฯ Gordon Brown ของอังกฤษ โดยทำหน้าที่นักข่าวที่ลอนดอนพร้อมๆ กับเขียนรายงานความไม่ชอบมาพากลของกองทุนนี้ หลังจากเอาลูกเข้านอนแล้ว
รายงาน The Sarawak Report ของเธอชี้ถึงการนำเงินไปใช้ผิดประเภทของกองทุน 1MDB ในการสร้างหนัง (ซึ่งถึงแม้จะเป็นหนังทำเงิน แต่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก) ที่จ้างดาราดังแบบ Leonardo DiCaprio ซึ่งต่อมาได้รับรางวัล Golden Globe Award จากหนังเรื่องนี้ และดิแคพรีโอได้รับมอบภาพเขียนราคาแพงหูฉี่วาดโดย Picasso เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ยอมมาแสดงเป็นพระเอก และผู้มอบให้ก็ไม่ใช่คนอื่นนอกจากนายJho Low ที่เป็นถุงเงินของหนังเรื่องนี้นั่นเอง
ยังมีนักข่าว 2 คนของ Wall Street J. ที่ได้ติดตามและนำเสนอรายงานการยักยอกเงินจากกองทุนความมั่งคั่ง 1MDB มาใช้เพื่อความมั่งคั่งส่วนตัวของนายJho Low ถึงกับซื้อเพนท์เฮาส์แพงสุดของนิวยอร์กและฮอลลีวูด รวมทั้งการจัดงานเลี้ยงหรูรอบโลกที่มีแขกสำคัญเช่น Paris Hilton หรือนักร้อง Britney Spears เป็นต้น และได้ร่วมประมูลชนะซื้อภาพเขียนของ Van Gogh ด้วย และชีวิตที่จับจ่ายแต่กระเป๋า, รองเท้า, เสื้อผ้าราคาแพง และเครื่องเพชรหรูของนางRosmah ภรรยาของนาจิบ จนเป็นที่ร่ำลือที่ปารีส, มิลาน และกรุงเทพฯ
อัยการและรมต.ยุติธรรม (Loletta Lynch) ของสหรัฐฯ เริ่มสืบสวนและออกรายงานถึงการกระทำผิดกฎหมายสหรัฐฯ ของกองทุนแห่งนี้ พร้อมขอความร่วมมือมายังอัยการมาเลเซีย โดยนายกฯ นาจิบไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ยิ่งมีเรื่องราวครึกโครมเผยแพร่ทั่วโลกมากขึ้น ก็ทำให้รองนายกฯ ของนาจิบ (คนที่เป็นนายกฯ ปัจจุบันของมาเลเซีย) ได้ตั้งคำถามกับนายกฯ นาจิบในที่ประชุม ครม.ว่า ควรที่นาจิบจะออกมาแสดงความบริสุทธิ์ด้วยการตอบคำถามที่หลายคนยังสงสัย
นายกฯ นาจิบ ไม่พอใจมาก และได้ปลดรองนายกฯ ออก รวมทั้งเปลี่ยนตัวอัยการด้วย
เรื่องกองทุน 1MDB สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งในมาเลเซีย โดยเฉพาะปี 2015 กองทุนนี้เกิดอาการขาดทุนอย่างไม่น่าเชื่อ และทำให้มีการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลนาจิบ ซึ่งก็ได้ใช้กฎหมายความมั่นคงจัดการกับผู้เดินขบวน
หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านคือ นายอันวาร์ อิบราฮิม ยังรับโทษอยู่ในคุก (จากคดีรักร่วมเพศ) แต่ในที่สุดก็ได้มีการจับมือกับดร.เอ็ม ที่กลับมานำการเดินขบวนต่อสู้กับนาจิบ โดยดร.เอ็ม ปราศรัยว่า สิ่งที่เขาเสียใจที่สุดในชีวิตคือ การสนับสนุนผลักดันนายกฯ นาจิบ ให้มาเป็นนายกฯ ดังนั้น เขาจะต้องโค่นนาจิบให้ได้เพื่อล้างความผิดที่เขาทำกับแผ่นดิน
การเลือกตั้งวันที่ 9 พฤษภาคม 2018 ทำให้พรรคฝ่ายค้านนำโดยดร.เอ็ม และอันวาร์ พร้อมแนวร่วมพรรคของคนจีนประสบชัยชนะอย่างถล่มทลาย สามารถโค่นนาจิบและพรรคอัมโนได้สำเร็จ
ดร.เอ็ม ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการสาบานตน และวันที่ 10 พฤษภาคม เขาได้เป็นนายกฯ เต็มตัว ก็ได้ออกคำสั่งห้ามนาจิบและภรรยาเดินทางออกนอกประเทศ (มีเรือบินเจ็ตของเพื่อนนาจิบส่งมาจากอินโดนีเซียรออยู่แล้ว ให้นาจิบบินหนีออกจากมาเลเซีย)
ดร.เอ็ม ได้ตั้งอัยการสูงสุดคนใหม่ เป็นคนคริสเตียนเพื่อมาดำเนินการกับนาจิบกรณีปล้นชาติกับการยักยอกเงินของประชาชนไปใช้ส่วนตัว
แต่ดร.เอ็ม มีความไม่แน่นอนในการจะส่งต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับอันวาร์ เมื่อช่วงต้นปีเมื่อใกล้กำหนด 2 ปีตามคำสัญญา เลยเกิดคลื่นใต้น้ำทำให้ “ตาอยู่” ได้ที ถอนตัวออกมา และพรรคแนวร่วมรัฐบาลก็เลยพังครืน
“ตาอยู่” คือนายกฯ คนปัจจุบันนี้ ที่หอบ ส.ส. 30 คนออกจากพรรคแนวร่วมรัฐบาลของดร.เอ็ม และอันวาร์ และได้สามารถรวบรวมเสียงได้ปริ่มน้ำ จนได้เป็นนายกฯ
“ตาอยู่” ได้วกกลับไปที่อัมโน และใช้ฐานเสียงของอัมโนมาสนับสนุนจนได้เป็นนายกฯ ขณะเดียวกันก็เดินหน้าดำเนินคดีกับนาจิบ พร้อมหลักฐานแน่นจนศาลได้ตัดสินจำคุกนาจิบ โดยยังจะมีคดีตามมาอีกมากมาย รวมทั้งนางรอสมาห์ และลูกเลี้ยงไรซา อาซิส ด้วย ขณะที่นายJho Low ยังกบดานหายตัวอยู่ เพราะจะเป็นจำเลยคนสำคัญ
นาจิบให้การกับศาลว่า เขาถูกสวมเขาโดยไม่รู้เรื่องเงินจาก 1MDB มาเข้าบัญชีส่วนตัว โดยซัดทอดนายJho Low เป็นตัวการร้ายที่วางแผนและดำเนินการทั้งหมด
แต่ศาลไม่เชื่อว่านาจิบ “ถูกสวมเขา” เพราะมีตำแหน่งเป็นผู้ก่อตั้งและบริหารกองทุนจึงต้องรับผิดชอบ
เรื่องราวของความยุติธรรมในมาเลเซียกำลังถูกจับตาจากทั้งโลก ขณะเดียวกันความขาดความยุติธรรมในไทย กรณีตัดตอนคดีกระทิงแดง และการฟอกเงินของลูกชายนายเหลี่ยม ก็กำลังถูกจับตาจากทั่วโลกเช่นกัน พร้อมๆ กับการรวมหัวกันไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ในตระกูลกระทิงแดงกำลังเกิดขึ้น ทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ เป็นการลงโทษตระกูลที่เหยียบย่ำความยุติธรรมและหัวอกคนจนที่ต้องตายฟรี เพราะคุกมีไว้เพื่อขังเฉพาะคนจนเท่านั้น