เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – ศาลสูงกัวลาลัมเปอร์ออกคำตัดสินวันนี้(28ก.ค.) ในคดีแรกของอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนฉาว 1MDB ว่ามีความผิดใน 7 กระทง ฐานกระทำผิดต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การฟอกเงิน การใช้อำนาจมิชอบ แอบรับเงิน 42 ล้านริงกิต หรือเกือบ 10 ล้านดอลลาร์ ที่นาจิบอ้างเป็นเงินบริจาคจากราชวงศ์ซาอุฯ และเจ้าตัวขอใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้
หนังสือเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(28ก.ค)ว่า ศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์ออกคำตัดสินในคดีคอร์รัปชันฉาวกองทุน 1MDB ต่ออดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค ว่า
“หลังจากพิจารณาหลักฐานทั้งหมดในการพิจารณาคดี ข้าพเจ้าตระหนักได้ว่า การดำเนินคดีทางกฎหมายนั้นสามารถพิสูจน์ได้อย่างดีว่าคดีนี้ไปไกลกว่าที่จะสงสัยอย่างพินิจพิเคราะห์ได้” ผู้พิพากษาศาลสูงมาเลเซีย โมฮัมหมัด นาซลัน โมฮัมหมัด กาซาลี(Mohamad Nazlan Mohamad Ghazali)กล่าว
ทั้งนี้นาจิบเดินทางมาที่ศาลสูงกัวลาลัมเปอร์พร้อมกับหน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้าและมีอาการสงบและไม่แสดงอารมณ์ใดๆท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุนนาจิบได้รับการบอกให้รักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
เดอะการ์เดียนชี้ว่า นาจิบถูกตัดสินว่ามีความผิดทั้งหมดใน 7 กระทงคดีความผิดการทำผิดจากหน้าที่ได้รับมอบหมาย
(breach of trust)การฟอกเงิน และการใช้อำนาจมิชอบในการโอนเงิน
ซึ่งสำหรับคดีที่ถูกตัดสินในวันอังคาร(28)นั้นความผิด 7 กระทงเกี่ยวข้องกับการโอนเงินจำนวน 42 ล้านริงกิต(9.9 ล้านดอลลาร์)จากองทุน 1MDB ยูนิต SRC International เพื่อเข้าสู่บัญชีธนาคารของนาจิบผ่านทางบริษัทตัวกลาง และเขาอาจต้องเผชิญหน้ากับค่าปรับมหาศาลและโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีในเรือนจำสำหรับความผิดแต่ละกระทง
ล่าสุดมีรายงานว่า ในคดีแรกของคดีมหากาพย์กองทุน 1MDB ที่ถูกตัดสินวันนี้(28)นาจิบถูกสั่งจำคุก 12 ปีในเรือนจำและถูกปรับเป็นเงิน 210 ล้านริงเกต หรือ 49.40 ล้านดอลลาร์ สำหรับความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบ
นอกจากนี่้อดีตผู้นำมาเลเซียวัย 67 ปียังได้รับโทษจำคุก 10 ปีในเรือนจำสำหรับแต่ละความผิดของ 3 กระทงของความผิดต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และ 3 กระทงของความผิดของการฟอกเงินเถื่อน ซึ่งเขาถูกศาลสั่งให้รับโทษไปพร้อมกันแต่ทางทีมกฎหมายของเขา
รอยเตอร์อธิบายว่า เป็นความผิดที่เขาถูกกล่าวหาว่าได้รับเงินเกือบ 10 ล้านดอลลาร์จากกองทุน 1MDB และเงินได้ถูกโอนเข้าบัญชีของเขา ซึ่งนาจิบประกาศไม่รับในความผิดในข้อนี้
โดยนาจิบขึ้นให้การในขั้นพิจารณาคดีว่าเขาถูกอดีตนักการเงินชื่อดังของมาเลเซีย โจ โลว์ (Jho Low)และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆของกองทุน 1MDB ทำให้เข้าใจผิดว่า เป็นเงินที่ได้รับการบริจาคมาจากราชวงศ์ซาอุฯ และไม่ได้เป็นเงินที่มาจากเงินกองทุน 1MDB เหมือนเช่นอัยการมาเลเซียได้แถลงระบุ
อย่างไรก็ตามผู้พิพากษากาซาลีกล่าวว่า “เป็นการยากที่จะเชื่อได้ว่านาจิบนั้นจะสามารถถูกโจโลว์ทำให้เข้าใจผิดได้”
ทั้งนี้รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯได้เคยแถลงในปี 2016 ว่าเม็ดเงินก้อนนี้เป็นเงินบริจาคอย่างแท้จริงแต่รัฐบาลไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นนับตั้งแต่นั้น เดอะการ์เดียนชี้
ในระหว่างการไต่สวน ศาลได้รับทราบถึงการใช้ชีวิตอย่างหรูหราของอดีตผู้นำ ที่รวมไปถึงครั้งหนึ่งพบว่าเขาได้จ่ายถึง 800,000 ดอลลาร์ที่ร้านเครื่องประดับแห่งหนึ่งในอิตาลีภายในวันเดียว และในเดือนถัดมาเขาใช้เงินร่วม108,000 ดอลลาร์ที่ร้านชาแนลในรัฐฮาวาย
อย่างไรก็ตามนาจิบกล่าวปกป้องถึงการใช้บัตรเครดิตใช้จ่ายว่าเป็นไปเพื่อกิจธุระสำหรับราชการ และเขาประกาศไม่ยอมรับความผิดต่อคดีการทำหน้าผิดจากที่ได้รับมอบหมาย การฟอกเงินและการโอนเงิน
รอยเตอร์รายงานว่า ทนายความของนาจิบระบุว่า ลูกความจะขอใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์และทางทีมกฎหมายจะยื่นเรื่องของให้เลื่อนการพิจารณาลงโทษออกไป
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียมูห์ยิดดิน ยัสซิน ซึ่งอยู่ร่วมพรรครัฐบาลผสมกับพรรคอัมโนของนาจิบประกาศจะเสนอปฎิรูปการต่อต้านการคอร์รัปชันมาเลเซีย อย่างไรก็ตามการตัดสิจใจล่าสุดที่ไม่สั่งฟ้อง ไรซา อาซิส (Riza Aziz) ลูกเลี้ยงของนาจิบซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนต์ฮอลลีวูดในข้อตกลงไกล่เกลี่ยสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาอย่างมาก