ศรัทธา ความน่าเชื่อถือ เรื่องใหญ่!

ท่านผู้นำรัฐบาลบอกให้ประชาชนได้รับรู้ว่าการปรับคณะรัฐมนตรีน่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม จะเป็นช่วงไหนของเดือนก็แล้วแต่ว่าจะหาคนมาร่วมได้รวดเร็ว ไม่มีปัญหากระเพื่อม หรือเสียงร้องเจี๊ยวจ๊าวของลิงหิวกล้วยมากน้อยเพียงใด

และถ้ามี ก็จะต้องประเมินบารมีหัวหน้าพรรคว่ามีพลังเพียงพอที่จะควบคุมให้อยู่ในโอวาทหรือไม่ เหตุการณ์เพิ่งผ่านไปหมาดๆ คือการขับไล่ก๊วน 4 กุมารอ้วนพีนั้นเห็นชัดว่า ถ้าไม่มีการให้ท้าย ถือหางแดงหางด่างทั้งหลาย คงไม่สำเร็จเสร็จกิจ

การเมืองน้ำเน่าต้องมีพฤติกรรมซ่อนดาบไว้ในรอยยิ้ม แผนยืมดาบฆ่าคน เชือดได้เองก็จำเป็น คำกล่าวในหมู่มนุษย์ชุดเดียวฟังดูโออ่ามีราคา “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” เห็นได้ชัดตอนท่านหัวหน้าเชือด 4 กุมารเป็นแพะสังเวย

ทำไปทั้งๆ ที่ 4 กุมารไม่ได้ทำอะไรผิด รับใช้ด้วยความภักดี ตั้งแต่เป็นหนังหน้าไฟ ม่านหน้าฉาก เป็นหุ่นภาพดีปิดบังฝูงผีห่าซาตาน เปรตซอมบี้ ปอบกระสือทั้งหลายที่เรียกร้องขอส่วนแบ่งส่วนบุญ เพื่อก่อกรรมทำเข็ญให้บ้านเมืองต่อไป

ทั้งนี้เป็นเพราะท่านผู้นำและคณะประสงค์จะขออยู่ต่อยาวๆ โดยอาศัยพวกปอบการเมืองเป็นฐานค้ำยันโดยไม่ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ และความละอาย เพราะเมื่อถึงเวลาคับขัน ทุกคนต้องนึกถึงความอยู่รอดของตัวเองก่อน ต้องมีแพะ

ดังนั้นหัวหน้าคณะจำเป็นต้องรับบทเจ้าของฟาร์มแพะ เอาไว้เยอะเพื่อใช้ในพิธีกรรมสังเวยทางการเมือง รับผิดแทนในกรณีเกิดความเสียหายร้ายแรง คุณธรรม จริยธรรม หิริโอตตัปปะ ไม่มีในตำราการเมืองน้ำเน่าด้อยพัฒนา หาทางโกงกินคำโต

เมื่อทำกับก๊วน 4 กุมารอ้วนพีแล้ว ท่านหัวหน้าต้องแสวงหาคนมาสวมตำแหน่ง อ้างว่าเป็นโควตาส่วนตัวหรือจะเอาคนนอกมาใช้ ให้ดูดี มีราคา ก็สุดแล้วแต่ เท่ากับเป็นการพิสูจน์ว่าคนในสังกัดไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ

หรือไม่มีหลักฐานให้เห็นความใจซื่อมือสะอาด ประวัติความประพฤติน่าไว้วางใจ เพราะเหลือบไปทางไหน ก็เห็นแต่พวกเทา กระดำกระด่าง หางหลากสี

การที่ท่านหัวหน้าอ้างว่ามีคนนอกยอมรับปากว่าจะมาช่วยแล้วนั้น ต้องรอให้เห็นว่าเกิดขึ้นจริงเสียก่อน เพราะเห็นชัดๆ แล้วว่าก๊วน 4 กุมารอ้วนพีทำให้ทุกอย่าง ก็ยังโดนเฉดหัวทิ้ง ถ้ามาเดี่ยวๆ โดดๆ ไม่มีฐานเสียง จะอยู่รอดปลอดภัยได้แน่หรือ

หัวหน้าที่ชักชวนมาให้ “ช่วยชาติบ้านเมือง” จะเอาตัวรอด เมื่อมีปัญหา ปล่อยให้ฝูงเสือหิวขย้ำสมันน้อยหรือไม่ ดูแล้วน่าหวาดเสียวมาก ลำพังวิกฤตเศรษฐกิจที่จะต้องแก้ไขก็หนักหนาสาหัสซับซ้อน แทบต้องอาศัยมือเทวดาปาฏิหาริย์ มากอบกู้

ถ้ามาแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ มาอยู่กับหัวหน้าใจไม่ถึง ไม่กล้าแม้แต่จะพูดถึงปัญหาต่อหน้าก๊วน 4 กุมารด้วยซ้ำ จะหวังอะไรได้ เพราะมีหลายคนปฏิเสธข้อเสนออย่างไม่ไยดี อ้างความจำเป็น “ครอบครัวขอร้องไม่ให้รับตำแหน่ง”

ขอร้องจริง หรือไม่จริงก็ไม่รู้ เมื่อ “ครอบครัว” เห็นตัวอย่างของก๊วน 4 กุมารถูกกระทำอย่างเลือดเย็นเช่นนั้น คงไม่ปล่อยให้หัวหน้าครอบครัวไปเสี่ยงชะตากรรมแน่ ยิ่ง “เรือแป๊ะ” ผุ ลอยเท้งเต้งกลางมรสุม ทะเลมืดมิดอย่างนี้ คนสติดีไม่กล้ามาหรอก

ท่านผู้นำคงนึกว่าเมื่อจัดการให้ก๊วน 4 กุมารออกไปแล้ว คงไม่มีอะไร สังคมคงไม่คิดเยอะเมื่อมีปัญหารุมเร้าด้านการครองชีพอย่างนี้ เดี๋ยวก็ลืม รอได้คนใหม่มา ทุกอย่างก็จะเข้าทาง แต่ละคนก็ต้องทำมาหากินตามปกติ งบหลายแสนล้านก็รออยู่แล้ว

สังคมยุคนี้คนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ฉับไว คนมีความคิด ห่วงใยบ้านเมือง ไม่ยึดผลประโยชน์ส่วนตนจะมองว่าคุณภาพการเป็นผู้นำอย่างนี้ เหมาะสมแล้วหรือ สำหรับความเชื่อมั่นและไว้วางใจ ยามบ้านเมืองติดอยู่ในกับดักของวิกฤตเลวร้าย

อย่างที่เคยว่าไว้ วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เป็นของเด็กเล่น เมื่อเทียบกับระดับของความรุนแรงที่บ้านเมืองเผชิญในขณะนี้ เพราะทรัพยากรของประเทศที่ร่อยหรอ มีภาระหนี้สินมากมาย ประชาชนอดอยากยากแค้น จะทำให้แก้ไขฟื้นฟูได้ยากมาก

คนที่รู้สถานการณ์ดี ว่ามีอะไรรออยู่เป็นวิกฤต จึงปฏิเสธ เพราะไม่คุ้มกับความลำบาก ไหนจะปัญหา ไหนจะการเมืองน้ำเน่า ไหนจะมีปัญหาลิงหิวกล้วย ไหนจะโครงการต่างๆ ที่พวกกังฉินในอำนาจพร้อมประเคนให้เจ้าสัว ใครจะคิดทำอะไรได้

ความน่าเชื่อถือ ความน่าศรัทธา ความน่าไว้วางใจ และความเป็นผู้นำมีคุณภาพจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ใครก็ตามที่ได้ถูกทาบทามให้เข้ามาจัดการวิกฤต ต้องวิเคราะห์ให้ดี ถ้าเก่งกาจสามารถ รู้เขารู้เรา มีแบ็กดี ไว้ใจได้ ก็ว่าไปอีกอย่าง

ถ้ามีหัวหน้านิยมศาสตร์ในการเอาตัวรอด มีแพะบูชายันต์ตลอด คงไม่กล้ามา

แต่การกล่อมย่อมให้คนใจอ่อน ยิ่งมีผลตอบแทนมายั่วใจด้วยแล้ว คนจิตไม่แข็ง ต้านกิเลสและพลังคอร์รัปชันไม่อยู่ ก็คงหาทางออก ด้วยการแกว่งสักนิด ต่อรองหาความมั่นคง ก่อนจะตกปากรับคำ ทั้งๆ ที่รู้ว่าโอกาสที่จะสำเร็จนั้น ไม่ง่ายนัก

คงไม่มีเฉพาะคนในประเทศที่มองเท่านั้น วงการนักลงทุนต่างประเทศก็ย่อมต้องระวัง เมื่อก๊วน 4 กุมารออกไปด้วยความยินดีปรีดาที่ได้พ้นบ่วงกรรม แม้จะตีลูกซึมหน้าเศร้ากลบความลิงโลด ยังมีโครงการอีอีซี ยังคั่งค้างอยู่ ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

ลำพังลุงก็น่าจะต้องดิ้นรนกับเรื่องวิสัยทัศน์ในโครงการนี้ ถ้าคิดว่าพวกมาใหม่และเสือหิวในพรรคสามารถจัดการได้ ต้องถามว่าความมั่นใจเช่นนั้นอยู่บนพื้นฐานของอะไร ดูท่าทีแล้วประเทศไทยไปลำบากมากเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในอาเซียน

ถ้าการปันส่วนผลประโยชน์ไม่ลงตัว มีวิกฤต แล้วคิดจะตามรอยรัฐบาล 3 ทรราชด้วยการรัฐประหารตัวเอง ควรต้องประเมินด้วยว่ามีความเก่งฉกาจกว่าเยอะ!