เกมการเมืองสามานย์...

การเมืองน้ำเน่าเข้มข้นกำลังทดสอบความอดทนในการยืนระยะของคณะ 3 ลุง เมื่อนักเลือกตั้งภายใต้การนำของลุงป้อมออกฤทธิ์ออกเดชไม่เลิก ออกปากขับไล่ไสส่งคณะ 4 กุมารอ้วนพีแบบไม่ไว้หน้าพวกลุง เชื่อว่าพวกตัวเองเป็นฐานอำนาจของแท้

ทั้ง 3 ลุงครองอำนาจมานานกว่า 6 ปี ไม่มีใครกล้าขวาง เพราะมีกฎหมายเป็นตัวช่วย ทั้งชีวิตเคยบังคับบัญชาทหารให้อยู่ในระเบียบวินัย ใครทำผิด โดนลงโทษ หนักเบาแล้วแต่ความผิด มาเจอนักเลือกตั้งไร้ระเบียบอย่างนี้ ต้องปรับตัวให้อยู่ได้

ทั้ง 3 ลุงจะอ้างไม่ได้ว่ามีกองทัพหนุนเต็มที่เพราะภายใต้หลักการที่ถูกต้อง ทหารอาชีพในกองทัพต้องไม่ยุ่งกับการเมือง เว้นแต่มีทหารการเมืองอยู่ในตำแหน่งกุมอำนาจ คณะ 3 ลุงก็เป็นนักการเมืองเต็มตัว อ้างหลักประชาธิปไตยโดยตลอด

นักเลือกตั้งอยู่ในภาคการเมืองประชาธิปไตย จะเป็นของแท้หรืออุปโลกน์ จอมปลอมก็ช่าง จะต้องแสดงตัวให้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คณะ 3 ลุงขาลอยนานแล้ว ตั้งแต่เริ่มมีพรรคการเมืองให้พยุงตัวอยู่ในอำนาจ ต้องพึ่งนักเลือกตั้งเท่านั้น

เพียงแค่นักเลือกตั้งไม่เข้าประชุม ทำให้สภาฯ ไม่ครบองค์ประชุม เหมือนเป็นสัญญาณเตือนนิ่มๆ ว่า ถ้าเป็นวาระต้องพิจารณาร่างกฎหมายการเงิน แพ้โหวตเพราะนักเลือกตั้งอยู่ไม่ครบ ก็มีหนทางเดียวคือต้องลาออก หงายหลังตกเก้าอี้ขาชี้ฟ้า

ดังนั้น การที่มีนักเลือกตั้งทำตัวเหมือนทหารเลวยุคโบราณรับบทไปร้องด่าหน้าค่ายฝ่ายข้าศึก ท้าให้ออกมารบ จึงเป็นบททดสอบว่าลุงหัวหน้ารัฐบาลมีบารมีปกป้องคณะ 4 กุมารอ้วนพีที่ถูกขับไล่หรือไม่ หรือรู้เห็นเป็นใจแอบขยิบตาให้ทำ

ถ้าปลด 4 กุมารออกไป ก็จะถูกสังคมโจมตีว่าใช้คณะ 4 กุมารเป็นร้านนั่งสร้างตึก เป็นหน้าฉากให้ตั้งพรรคได้ พอสร้างตึกเสร็จ ได้อำนาจแล้ว ก็เลิกใช้งาน อยากให้นักเลือกตั้งเสือหิวเข้ามามีส่วนเก็บเกี่ยวกอบโกยรายได้เพื่อถอนทุนจากการเลือกตั้ง

และเป็นการวัดบารมีว่าหัวหน้าพรรคสามารถควบคุมพฤติกรรมลูกพรรคไม่ให้ก้าวร้าว เคารพหัวหน้ารัฐบาลหรือไม่ หรือทั้งหมดเป็นเหมือนกันเล่นละครการเมืองแหกตาชาวบ้าน แต่ดูแล้วทั้ง 4 กุมารอ้วนพีก็เล่นบทดื้อ ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ตอบโต้อะไร

“อ้าว ก็พวกอั๊วลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าและเลขาธิการพรรคแล้ว ล่าสุดพวกอั๊วก็ลาออกจากสมาชิกพรรคแล้ว ไม่เกี่ยวกับพวกลื้อแล้ว ลื้อจะมาไล่พวกอั๊วได้อย่างไร เรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นโควตาของพรรค พวกเอ็งไปบอกหัวหน้ารัฐบาลซิวะ”

มันต้องอย่างนี้! เพราะต้องการให้ลุงหัวหน้ารัฐบาลแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะทำกับคณะ 4 กุมารอ้วนพีอย่างไร เพราะที่ผ่านมา ทั้ง 4 กุมารก็จงรักภักดีต่อหัวหน้ารัฐบาลมาโดยตลอด การจงรักภักดีต้องมีทั้ง 2 ทาง ถ้าไม่มีก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ถูก

ถ้าหัวหน้ารัฐบาลไม่ต้องจงรักภักดีต่อรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ก็จะเป็นเหมือนนายกับขี้ข้า เหมือนการเมืองในยุคของคนที่ประกาศ “ผมรวยแล้ว ผมไม่โกง” นั่นเลย

ดังนั้น ลุงผู้นำรัฐบาลจำเป็นต้องกัดฟันคำราม “การปรับ ครม.เป็นเรื่องของข้า ไม่ต้องมาเสนอหน้าหรือเล่นบทดราม่า พร้อมเมื่อไหร่ก็ปรับ” ดูแล้วเหมือนจะยอมให้พวกนักด่าหน้าค่ายมาทำให้ 4 กุมารอ้วนพีรู้สึกอาย หมดใจ ไม่อยากอยู่ ขอไปเอง

ถ้าทำแบบนั้น ก็จะเข้าทางทุกฝ่าย คณะ 3 ลุงก็จะเป็นปลื้มกับแผนยืมดาบฆ่าคน ใช้ทหารเลวร้องด่าหน้าค่าย อยู่ในอำนาจต่อไปอย่างไร้กังวล เปิดทางให้มีการจัดสรรเก้าอี้เสนาบดี แบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพย์สินแผ่นดินตามสิทธิพึงได้พึงมี

นักเลือกตั้งก็ได้ถอนทุน คณะ 3 ลุงก็อยู่ได้ต่อไป ประสานผลประโยชน์กันลงตัวตามแบบการเมืองสามานย์ ชาวบ้านและบ้านเมืองรอวันหายนะ ฉิบหายเท่านั้น

ดังนั้น ทั้ง 4 กุมารต้องอยู่ต่อไป ให้เป็นหนามตำใจ เสี้ยมตำตีนพวกนักเลือกตั้งวิ่งเต้นทั้งหลาย ให้ชาวบ้านได้เห็นการเมืองน้ำเน่าสามานย์ บ้านเมืองเสียหาย พิสูจน์ให้เห็นชัดว่าคำประกาศสวยงามของคนกุมอำนาจคือคำลวงโลก

ดังเช่นลุงหม่อมเต่าที่โดนลูกน้องของลุงกำนันนักถือถุงดำเป่านกหวีด มาขับไล่ ลุงหม่อมเต่าก็ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า สมาชิกพรรค แต่ยึดเก้าอี้รัฐมนตรีไว้เฉย ใครมาขับไล่ไสส่งก็ไม่สนใจ ถ้าใครข้องใจก็ไปว่าเอากับหัวหน้ารัฐบาลก็แล้วกัน

อย่างนี้จะไม่ให้สมุนลุงนกหวีด และสมุนในป่ารอยต่อของลุงป้อมแทบกระอักเลือดได้อย่างไร เมื่อโดนบทย้อนเกล็ดเจ็บแสบอย่างนี้ เพราะลุงหัวหน้ารัฐบาลต้องทำตัวเองให้ดูดี ลอยตัวไว้ก่อน ถ้ายอมนักโวยกดดัน ก็จะเสียสถานภาพของผู้นำ

จากหัวหน้ารัฐบาล ก็จะเป็นเจว็ด ให้พวกนักเลือกตั้งมีเงื่อนไขใหม่ๆ มาตลอด เช่นการจัดสรรผลประโยชน์ในโครงการต่างๆ เพราะคณะ 3 ลุงไม่เคยประกาศท่าทีว่าจะกำจัดการทุจริต คอร์รัปชัน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีอะไรเป็นตัวล่อให้นักเลือกตั้งหนุน

จะเล่นบทบาทอย่างไรเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในอำนาจก็สุดแล้วแต่ ถ้าบ้านเมืองไปไม่รอดเพราะวิกฤตเศรษฐกิจ และความล้มเหลวในการจัดการเมื่อไหร่ ก็คงจะมีพวกไม่มีแผ่นดินอยู่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าการระบาดของโควิด-19 ยังมี จะหนีไปไหนก็ไม่ได้

เมื่อจะอยู่ได้นาน เป็นหน้าที่ของลุงหัวหน้ารัฐบาลต้องตระเวนไปตามสื่อต่างๆ ขอคำแนะนำ ขอความเข้าใจในการอยู่ต่อเพื่อแก้ปัญหาที่ส่วนหนึ่ง หรือส่วนใหญ่พวกตัวเองนั่นแหละมีส่วนทำให้เป็นวิกฤตช่วงกว่า 6 ปีที่ผ่านมา อย่าเพิ่งเล่นงานนะ

แปลกมาก อยู่มากว่า 6 ปี ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ทั้งๆ ที่รู้ว่าปัญหาคืออะไร ทำให้ชาวบ้านอยากร้องถามดังๆ ว่า “แล้วจะอยู่ต่อไปทำไม” เมื่อไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร และการเกาะติดเก้าอี้ต่อไป บ้านเมืองเสียหายหนัก ใครเขาจะรับผิดชอบ

ที่ถามว่า “ใคร” รับผิดชอบนั้น เพราะดูแล้วก็รู้ว่าทั้ง 3 ลุงไม่รับผิดชอบแน่ๆ!