xs
xsm
sm
md
lg

แย้มกิจการกลุ่มเสี่ยงสูงเข้าข่ายผ่อนคลายเฟส3

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน360- ศบค.แถลงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ พบ 2 รายไม่แสดงอาการหลังกักตัว ชี้ 14 วันอาจไม่ได้ผลกับบางคน ขณะที่ 6 ราย ผ่านด่านปาดังฯ ต้องปิดด่านทำความสะอาด แว่วๆ ระยะ 3 ผ่อนคลายหลายกิจกรรม รวมถึงกลุ่มที่เสี่ยงสูง หวังลดความเดือนร้อนผู้ประกอบการ "วิษณุ" แจงทูตสหรัฐฯ ถึงความจำเป็นต้องยืดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้มาตรการป้องกันโควิด-19 และการเยียวยา เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ เตรียมเสนอกิจกรรม-กิจการที่จะผ่อนคลายระยะที่ 3 ให้ นายกฯ พิจารณาวันนี้ (28 พ.ค.)

วานนี้ (27พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย เป็นผู้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ การติดเชื้อในประเทศไม่มีรายงาน ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,054 ราย รักษาหายแล้วเพิ่มใหม่ 2 ราย รวม 2,931 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดเสียชีวิตสะสม 57 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 66 ราย

ผู้ติดเชื้อ 9 รายนั้น 2 รายแรก เป็นชายไทยอายุ 18 ปี และอายุ 27 ปี กลับจากสหรัฐฯ วันที่ 12 พ.ค. เข้าสถานกักตัวของรัฐที่ โโยตรวจพบในช่วงปลายของการกักตัว ทำให้ที่ประชุมต้องศึกษาย้อนหลังกลับไปว่าทฤษฎีที่ใช้กักตัว 14 วัน อาจใช้ไม่ได้กับบางคน แต่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการกักตัว14 วัน และยังไม่ขยายการกักตัวเป็น 21 หรือ 28 วัน จะยังคงกักตัว 14 วัน เหมือนเดิม

รายที่ 3 เป็นชายอายุ 34 ปี เป็นพนักงานนวดกลับจากกาตาร์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.เข้าพักสถานกักตัวของรัฐที่ จ.สมุทรปราการ มีอาการไข้ จมูกไม่ได้กลิ่น พบเชื้อ 25 พ.ค. ส่วนอีก 6 ราย เป็นชาย อายุ 23-33 ปี กลับจากซาอุดิอาระเบีย มาเครื่องที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และนั่งรถเข้ามาทางด่านชายแดนปาดังเบซา อย่างไรก็ตามใน 6 รายมี 4 ราย ที่มีอาการมีไข้ ไอเจ็บคอ มีเสมหะ ส่วนอีก 2 ราย ไม่มีอาการ ผู้ติดเชื้อทั้ง 9 คน มาจากสถานคัดกรองของรัฐ ยังไม่มีคนไทยในประเทศติดเชื้อ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากข้อมูลจำแนกผู้ป่วยยืนยันสะสม ตั้งแต่ 13-27 พ.ค.พบว่า 5 อันดับ คือ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ จำนวน 1190 ราย รองลงมาอาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด 284 ราย สนามมวย 276 ราย คนไทยเดินทางกลับจากประเทศ 269 ราย และสถานบันเทิง 226 ราย สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อแล้ว 5684795 ราย เสียชีวิต 352225 ราย ซึ่งสหรัฐฯยังคงเป็นอันดับ 1 ผู้ติดเชื้อสะสม 1725275 ราย เสียชีวิตทะลุ1แสนรายเป็นวันแรก จำนวน 100572 ราย รองลงมาบราซิล มีผู้คิดเชื้อสะสม 394507 ราย มีผู้เสียชีวิต 24593 ราย รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ 362342 ราย เสียชีวิต 3807 ราย

สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อแล้ว 5,684,795 ราย เสียชีวิต 352,225 ราย ซึ่งสหรัฐฯ ยังคงเป็นอันดับ 1 ผู้ติดเชื้อสะสม 1,725,275 ราย เสียชีวิตทะลุ1 แสนราย เป็นวันแรก จำนวน 100, 572 ราย รองลงมา บราซิล มีผู้คิดเชื้อสะสม 394,507 ราย มีผู้เสียชีวิต 24,593 ราย รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ 362,342 ราย เสียชีวิต 3,807 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ คณะกรรมการเฉพาะกิจฯ จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ ระยะที่ 3 แว่วๆว่า จะมีกิจการหรือกิจกรรม ที่ได้รับผ่อนปรนมากขึ้น เพราะบรรยากาศตอนนี้เอื้อให้ผ่อนคลาย และนโยบายของนายกฯ ก็อยากให้เปิดกิจการหรือกิจกรรมให้ได้มากที่สุด เพราะทราบถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรายย่อย และแว่วๆ มาว่า กิจการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงจะอยู่ในการผ่อนคลายครั้งนี้ด้วย แต่ตนบอกไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง

อย่างไรก็ตามการผ่อนคลายจะต้องบาลานซ์สองส่วนคือผู้ผ่อนคลายและผู้ดูแลสุขภาพต้องไปด้วยกัน เพื่อควบคุมโรคให้ได้

"วิษณุ"แจงถึงความจำเป็นต้องยืดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี? กล่าวภายหลัง นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr.Michael George DeSombre)เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบว่า ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาได้ให้การช่วยเหลือประเทศไทยมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ทูตสหรัฐฯ ได้เข้าพบ? รมว.แรงงาน และแสดงเจตนาที่จะช่วยเหลือในการยกระดับพัฒนาฝีมือแรงงานไทยหลังจากผ่านพ้นจะสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้ว และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาท่านทูตสหรัฐฯ ได้เขียนบทความชื่นชมการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสของประเทศไทย ที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ตนได้เรียนให้ทูตสหรัฐฯ ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไปจะมีการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมหลายอย่าง แต่มาตรการเรื่องการบินจะยังปิดจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. ส่วนในเดือน ก.ค.น่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น ซึ่งเราจะประเมินสถานการณ์ตลอดในช่วงเดือนมิ.ย. ที่มีการขยายการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่ามีสถานการณ์อะไรที่เป็นความเสี่ยงหรือไม่ อีกทั้งองค์การอนามัยโลก ได้ออกมาเตือนว่าหากหลายประเทศปลดล็อกมาตรการพร้อมกัน จะก่อให้เกิดความอันตรายอย่างมาก เพราะจะเกิดการไหลเวียนของคนจำนวนมาก จากประเทศหนึ่งไปสู่ประเทศหนึ่ง แต่การติดเชื้อของคนยังมีอยู่

นอกจากนี้ ทูตสหรัฐฯ ยังได้สอบถามถึงการขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งตนอธิบายเหตุผล 2 ข้อคือ 1. หากเราไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะต้องใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งไม่ได้ให้อำนาจอะไรกับรัฐบาลเลย และจะทำให้เกิด 77 มาตรฐาน ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย รัฐบาลจึงใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียว

2.การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะใช้อำนาจหน้าที่ในการดำเนินการใดๆ เช่น ปิดสถานที่ต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อประเทศ อาจจะทำให้ประชาชนตกงาน และขาดรายได้ ดังนั้นการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะทำให้รัฐบาลสามารถเข้าไปเยียวยาประชาชนที่รับผลกระทบได้ และยังทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่

ส่วนเหตุผลที่ทูตสหรัฐฯ ถามถึงประเด็นนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเขากังวลอะไร แต่เขาถามเพราะความอยากรู้ นอกจากนี้ ยังได้หารือกันอีกหลายเรื่อง

เสนอนายกฯ วันนี้ ผ่อนคลายกิจการเฟส 3

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการพิจารณาในบางกิจกรรมกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งเดิมอยู่ในการผ่อนคลายเฟส 4 มาอยู่ในการผ่อนคลายเฟส 3 ที่จะมีการพิจารณาครั้งนี้ด้วย ส่วนเป็นกิจกรรมกิจการใดนั้น ยังไม่ขอตอบในรายละเอียด ต้องรอผลภายหลังการประชุมในครั้งนี้ เพื่อส่งให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. ชุดใหญ่ พิจารณาอีกครั้ง

ส่วนประเด็นกังวลหรือไม่ว่า เมื่อคลายล็อกในเฟส 3 แล้ว จะทำให้เกิดการระบาดระลอก 2 นั้น นพ.สุขุมกล่าวว่า กำลังติดตามสถานการณ์อยู่ สำหรับการประชุมในวันนี้ไม่มีการแถลงข่าว แต่นำผลประชุมเสนอต่อนายกรัฐมนตรี วันนี้ (28 พ.ค.) เวลา 09.00น. ก่อนที่จะเข้าสู่การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 29 พฤษภาคมนี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยอมรับว่า ในการผ่อนคลายระยะที่ 3 คาดว่าจะมีการพิจารณาให้บางกิจกรรมและกิจการที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งแต่เดิมจัดไว้อยู่ในกลุ่มที่ 4 กลุ่มสุดท้ายที่จะให้กลับมาเปิดได้มาอยู่ในการผ่อนคลายระยะที่ 3 แทน สำหรับกิจการที่คาดจะมีการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณา ผ่อนคลายระยะที่ 3 เช่น โรงภาพยนตร์ สนามมวย



กำลังโหลดความคิดเห็น