รองนายกฯ เผยทูตสหรัฐฯ ถามปมต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-การฟื้นฟู บมจ.การบินไทย ระบุปกติหลังศาลรับคำร้องจะใช้เวลาไต่สวน 3 เดือน ขอไม่ตอบ “เจ้าจำปี” จะกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจอีกหรือไม่
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบว่า ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาได้ให้การช่วยเหลือประเทศไทยมาก ก่อนหน้านี้ทูตสหรัฐฯ ได้เข้าพบ รมว.แรงงาน และแสดงเจตนาที่จะช่วยเหลือในการยกระดับพัฒนาฝีมือแรงงานไทยหลังจากผ่านพ้นจะสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้ว และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาท่านทูตสหรัฐฯ ได้เขียนบทความชื่นชมการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสของประเทศไทยที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ตนได้เรียนให้ทูตสหรัฐฯ ทราบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไปจะมีการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมหลายอย่าง แต่มาตรการเรื่องการบินจะยังปิดจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. ส่วนในเดือน ก.ค.น่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น ซึ่งเราจะประเมินสถานการณ์ตลอดในช่วงเดือน มิ.ย.ที่มีการขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่ามีสถานการณ์อะไรที่เป็นความเสี่ยงหรือไม่ อีกทั้งองค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนว่าหากหลายประเทศปลดล็อกมาตรการพร้อมกันจะก่อให้เกิดความอันตรายอย่างมาก เพราะจะเกิดการไหลเวียนของคนจำนวนมากจากประเทศหนึ่งไปสู่ประเทศหนึ่ง แต่การติดเชื้อของคนยังมีอยู่
นายวิษณุกล่าวว่า นอกจากนี้ ทูตสหรัฐฯ ยังได้สอบถามถึงการขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งตนอธิบายเหตุผล 2 ข้อคือ 1. หากเราไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะต้องใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งไม่ได้ให้อำนาจอะไรกับรัฐบาลเลย และจะทำให้เกิด 77 มาตรฐาน ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย รัฐบาลจึงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียว 2. การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะใช้อำนาจหน้าที่ในการดำเนินการใดๆ เช่น ปิดสถานที่ต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อประเทศ อาจจะทำให้ประชาชนตกงาน และขาดรายได้ ดังนั้น การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะทำให้รัฐบาลสามารถเข้าไปเยียวยาประชาชนที่รับผลกระทบได้ และยังทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเหตุผลที่ทูตสหรัฐฯ ถามถึงประเด็นนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขากังวลอะไร แต่เขาถามเพราะความอยากรู้ นอกจากนี้ยังได้หารือกันอีกหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องการฟื้นฟู บมจ.การบินไทย ตนได้ชี้แจงให้ฟังว่าคณะกรรมการฯ ที่ตนนั่งเป็นประธานอยู่นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรในเรื่องนี้ และตนยังได้บอกว่าอาจจะมีการฟ้องร้องกันทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ทูตสหรัฐฯ ไม่ได้มีการถามถึงสถานการณ์การเมืองไทย
นายวิษณุกล่าวถึงกรณีศาลล้มละลายกลางรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู บมจ.การบินไทย ว่า ตั้งแต่นาทีที่ศาลรับคำร้องแล้วเท่ากับว่าขณะนี้ได้ใช้ พ.ร.บ.ล้มละลาย มาตรา 90/12 ตั้งแต่นาทีนี้ไปเจ้าหนี้จะไม่สามารถฟ้องล้มละลายหรือทวงหนี้ได้อีก ทำได้อย่างเดียวคือการยื่นขอรับชำระหนี้ ทุกอย่างต้องหยุดชะงักโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า Automatic Stay ทั้งนี้ การบินไทยยังสามารถบินและทำธุรกิจได้ตามปกติ แต่ต่อจากนี้การบินไทยจะมีศึกสองด้าน คือ กระบวนการในการฟื้นฟู และการประกอบกิจการตามปกติ ซึ่งในส่วนนี้บอร์ดการบินไทยจะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการฟื้นฟูนั้นเป็นเรื่องของผู้ทำแผน ซึ่งต่อไปผู้ทำแผนจะเปลี่ยนมาเป็นผู้บริหารแผน บอร์ดการบินไทยจะมีบทบาทน้อยมากในเรื่องแผนการฟื้นฟู อย่่างไรก็ตาม ตามขั้นตอนหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางรับคำร้องแล้วขั้นตอนต่อไปคือกระบวนการไต่สวน โดยปกติจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ต่อจากนั้นศาลจะมีคำสั่งว่าจะรับแผนนั้นไว้
“หลังศาลรับคำร้อง ไปจนถึงดำเนินการได้ตามแผนฟื้นฟู คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน การฟื้นฟูจะใช้เวลา 5 ปี ตามกฎหมาย ทั้งยังสามารถขยายเวลาได้ ที่ผ่านมามีบริษัทเข้าสู่การฟื้นฟู 52 แห่ง ประสบความสำเร็จประมาณ 20 แห่ง ล้มละลาย 20 แห่ง อยู่ระหว่างฟื้นฟูกว่า 10ปี 7 แห่ง”
นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อศาลรับแผนแล้วจะต้องตั้งผู้บริหารแผนซึ่งจะเป็นอีกทีมหนึ่ง เหมือนกับเป็นซีอีโอและทุกอย่างจะอยู่ที่ผู้บริหารแผน โดยไม่ต้องมารับฟังคณะกรรมการชุดของตนเพราะไม่ใช่บอร์ดใหญ่โตมโหฬารอะไร ไม่ใช่ซุปเปอร์บอร์ด เป็นเพียงมินิบอร์ด เป็นไปรษณีย์ ไม่สามารถไปแทรกแซงได้ เพราะตาม พ.ร.บ.ล้มลายระบุว่าหากมีผู้ใดไปวิ่งเต้นหรือรู้เรื่องอะไรแล้วนำมาเปิดเผยถือว่ามีความผิด ดังนั้นเราจะไม่ไปยุ่งอะไรกับเขา ต้องทำเฉพาะในบทบาทที่เป็นของภาครัฐ ซึ่งกรณีของการบินไทยนั้นแม้จะหลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว แต่มีรัฐวิสาหกิจหลายแห่งไปซื้อหุ้นกู้ของการบินไทย รัฐจึงต้องเข้าไปดูแล และการบินไทยจะต้องมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นของรัฐ ดังนั้นจึงต้องมีการติดต่อประสานงานกัน อีกทั้งเวลาที่จะซ่อมเครื่องบินก็ต้องประสานกองทัพอากาศ ซึ่งมันยังมีอะไรเชื่อมกันอยู่
เมื่อถามว่า หากแผนฟื้นฟูแล้วเสร็จ การบินไทยจะกลับสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจอีกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เคยมีใครพูดถึง แต่ก็แล้วแต่ ปัจจุบันกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ 48% และธนาคารออมสินถือหุ้นอยู่อีก รวมเป็น 49.99% ขาดอีกแค่จุดหนึ่งก็เป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว แต่ตนไม่ควรไปตอบอะไรเดี๋ยวคนจะหัวเราะเยาะเอา เพราะเพิ่งล้มไปเมื่อวานซืนแล้วยังจะมาอีก