“อุตตม” ควง “ศักดิ์สยาม” ถก "วิษณุ" ขั้นตอนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย รองนายกฯเผย 3 เดือนแผนฟื้นฟู “เจ้าจำปี” ต้องเสร็จ ชี้ “ก.คลัง” ต้องขายหุ้นทิ้ง 3% “บินไทย” พ้นสถานะรัฐวิสาหกิจ เป็นเอกชน แต่ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
วานนี้ (21 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ได้เข้าหารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ภายหลังการหารือ นายศักดิ์สยาม ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยให้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามนายวิษณุ และนายอุตตม ถึงผลการหารือแทน
โดย นายอุตตม กล่าวว่า ได้หารือกับนายวิษณุ ถึงรายละเอียดของการดำเนินการภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้ นายวิษณุ มาดูด้านกฎหมายในการฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย จึงได้มาหารือถึงขั้นตอนและแนวทางต่างๆ
เมื่อถามถึงรายชื่อคณะกรรมการฟื้นฟู บมจ.การบินไทยว่า มีความชัดเจนหรือยังนั้น นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่เห็นรายชื่อเลย ในส่วนของสัดส่วนถือหุ้นการบินไทยของกระทรวงการคลังที่จะลดลงนั้น กำลังดำเนินการอยู่ และคงไม่สามารถตอบได้ว่าสัดส่วนจะลดลงกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นบริษัทมหาชน ต้องให้ผู้ซื้อ-ผู้ขาย เป็นผู้พิจารณา
ก.คลังทิ้งหุ้น 3% ปลดพ้น รสก.
ด้าน นายวิษณุ เปิดเผยว่า นายอุตตม และนายศักดิ์สยาม ได้มาขอความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับกระบวนการฟื้นฟูการบินไทย ซึ่งตนได้ชี้แจงแนวทางตามกฎหมายเท่านั้น แต่เวลาปฏิบัติจริงขึ้นอยู่กับบอร์ดการบินไทยเท่านั้น โดยวันนี้การบินไทยถือว่ายังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่และรัฐยังควบคุมอยู่ แต่หากกระทรวงการคลังขายหุ้น 3 % ให้กับผู้อื่นไป สัดส่วนลดลงจาก 51 % จะเหลือ 48 % การบินไทยจะพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม จะไปยุ่งเกี่ยวกับการบินไทยไม่ได้แล้ว เพราะเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่ายังมีอีก 52% ถ้าเขารวมกันติด เขาก็ใหญ่กว่า เป็นเหมือนบริษัทมหาชนธรรมดา
เมื่อถามว่า หากหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ที่ 48% ไม่จำเป็นที่รัฐจะเข้าไปอุ้มอะไรแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอุ้ม ไม่เคยมีใครพูดถึงการอุ้ม ขืนไปอุ้มก็เป็นรัฐวิสาหกิจอีก จากนี้กระทรวงการคลังต้องขายหุ้นในการบินไทย เพื่อลดสัดส่วนหุ้นลงให้การบินไทยหลุดจากรัฐวิสาหกิจ เป็นบริษัทมหาชน จากนั้นบอร์ดการบินไทยชุดใหม่ ที่เกิดจากสัดส่วนการขายหุ้นของกระทรวงการคลัง จะไปจัดการกันเองเพื่อตัดสินใจเข้าสู่แผนฟื้นฟู และเสนอแผนฟื้นฟู กระทรวงการคลังจะไปชักใยอะไรไม่ได้แล้ว
“ส่วนการเสนอตัวบุคคลที่จะมาเป็นผู้จัดทำแผน กระทรวงการคลังสามารถเสนอชื่อได้ เนื่องจากยังถือหุ้นใหญ่อยู่” นายวิษณุ ระบุ
บอร์ดใหม่เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟู
เมื่อถามต่อว่าโครงสร้างของผู้จัดทำแผน จะต้องมีจำนวนเท่าใด 15 คน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ว่าตัวเลข 15 คนนี้มาจากไหน อาจจะ 20 คน 30 คน หรือ 40 คนก็ได้ ไม่แปลก ซึ่งบอร์ดใหม่การบินไทยจะเป็นผู้เสนอ
ส่วนการขายหุ้นของกระทรวงการคลังก็ไม่ต้องมาขอมติครม.ก่อน สามารถขายได้เลย เพราะครม.อนุญาตแล้วเนื่องจากให้พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจโดยเด็ดขาด ซึ่งหมายความว่า ไม่เป็นเยื่อใยอะไรกันอีกต่อไป
สำหรับการเสนอรายชื่อผู้จัดทำแผนนั้น โดยนิตินัยไม่ต้องเสนอผ่านนายกฯ แต่โดยพฤตินัยกระทรวงการคลัง ก็ยังถือหุ้นใหญ่ในการบินไทย ต่อจากนี้ไปครม.หรือนายกฯ จะมีอะไรก็เป็นการสั่งกระทรวงการคลัง ไม่ใช่สั่งการบินไทยอีกต่อไป
3 เดือนต้องได้ผู้บริหารแผน
เมื่อถามว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกนานหรือไม่ กว่าจะไปถึงขั้นตอนการได้บุคคลที่จะเข้ามาบริหารแผนฟื้นฟูการบินไทย นายวิษณุ กล่าวว่า ใช้เวลานานไม่ได้อยู่แล้ว ประมาณ 3 เดือนจะต้องได้ผู้บริหารแผนฟื้นฟู ซึ่งอาจจะเร็วกว่า 3 เดือนก็ได้ เมื่อเข้าสู่คดีล้มละลายก็เป็นเรื่องระหว่างศาลกับเจ้าหนี้ บางครั้งอาจเป็นลูกหนี้ด้วย เบื้องต้นลูกหนี้ต้องไปจัดทำแผน และนำมาให้เจ้าหนี้ดูว่ายอมรับหรือไม่ ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมรับก็ล้ม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับ ก็ส่งให้ศาล ถ้าศาลยอมรับก็เดินหน้า แต่ถ้าศาลไม่ยอมรับก็ล้ม
อย่างไรก็ตาม นายกฯในฐานะถืออำนาจฝ่ายผู้ถือหุ้นใหญ่ คือกระทรวงการคลัง นายกฯ จะเอารายชื่อผู้จัดทำแผนตามที่บอร์ดการบินไทยใหม่เสนอหรือไม่ เป็นเรื่องที่บอกกระทรวงการคลังไปก็ต้องทำตาม และขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ด้วย
ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน กล่าวถึงเรื่องการฟื้นฟูการบินไทย ตามแนวทางกฎหมายล้มละลาย ว่า ข้อดีคือยังสามารถคุ้มครองให้ทำงานได้อยู่ และศาลก็ดูแล ธุรกิจเดินต่อได้ มีการตัดหนี้ ลดหนี้ ดำเนินมาตรการ ซึ่งเสียหายนิดหน่อยแต่ธุรกิจไปได้ต่อ.
วานนี้ (21 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ได้เข้าหารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ภายหลังการหารือ นายศักดิ์สยาม ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยให้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามนายวิษณุ และนายอุตตม ถึงผลการหารือแทน
โดย นายอุตตม กล่าวว่า ได้หารือกับนายวิษณุ ถึงรายละเอียดของการดำเนินการภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้ นายวิษณุ มาดูด้านกฎหมายในการฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย จึงได้มาหารือถึงขั้นตอนและแนวทางต่างๆ
เมื่อถามถึงรายชื่อคณะกรรมการฟื้นฟู บมจ.การบินไทยว่า มีความชัดเจนหรือยังนั้น นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่เห็นรายชื่อเลย ในส่วนของสัดส่วนถือหุ้นการบินไทยของกระทรวงการคลังที่จะลดลงนั้น กำลังดำเนินการอยู่ และคงไม่สามารถตอบได้ว่าสัดส่วนจะลดลงกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นบริษัทมหาชน ต้องให้ผู้ซื้อ-ผู้ขาย เป็นผู้พิจารณา
ก.คลังทิ้งหุ้น 3% ปลดพ้น รสก.
ด้าน นายวิษณุ เปิดเผยว่า นายอุตตม และนายศักดิ์สยาม ได้มาขอความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับกระบวนการฟื้นฟูการบินไทย ซึ่งตนได้ชี้แจงแนวทางตามกฎหมายเท่านั้น แต่เวลาปฏิบัติจริงขึ้นอยู่กับบอร์ดการบินไทยเท่านั้น โดยวันนี้การบินไทยถือว่ายังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่และรัฐยังควบคุมอยู่ แต่หากกระทรวงการคลังขายหุ้น 3 % ให้กับผู้อื่นไป สัดส่วนลดลงจาก 51 % จะเหลือ 48 % การบินไทยจะพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม จะไปยุ่งเกี่ยวกับการบินไทยไม่ได้แล้ว เพราะเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่ายังมีอีก 52% ถ้าเขารวมกันติด เขาก็ใหญ่กว่า เป็นเหมือนบริษัทมหาชนธรรมดา
เมื่อถามว่า หากหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ที่ 48% ไม่จำเป็นที่รัฐจะเข้าไปอุ้มอะไรแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอุ้ม ไม่เคยมีใครพูดถึงการอุ้ม ขืนไปอุ้มก็เป็นรัฐวิสาหกิจอีก จากนี้กระทรวงการคลังต้องขายหุ้นในการบินไทย เพื่อลดสัดส่วนหุ้นลงให้การบินไทยหลุดจากรัฐวิสาหกิจ เป็นบริษัทมหาชน จากนั้นบอร์ดการบินไทยชุดใหม่ ที่เกิดจากสัดส่วนการขายหุ้นของกระทรวงการคลัง จะไปจัดการกันเองเพื่อตัดสินใจเข้าสู่แผนฟื้นฟู และเสนอแผนฟื้นฟู กระทรวงการคลังจะไปชักใยอะไรไม่ได้แล้ว
“ส่วนการเสนอตัวบุคคลที่จะมาเป็นผู้จัดทำแผน กระทรวงการคลังสามารถเสนอชื่อได้ เนื่องจากยังถือหุ้นใหญ่อยู่” นายวิษณุ ระบุ
บอร์ดใหม่เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟู
เมื่อถามต่อว่าโครงสร้างของผู้จัดทำแผน จะต้องมีจำนวนเท่าใด 15 คน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ว่าตัวเลข 15 คนนี้มาจากไหน อาจจะ 20 คน 30 คน หรือ 40 คนก็ได้ ไม่แปลก ซึ่งบอร์ดใหม่การบินไทยจะเป็นผู้เสนอ
ส่วนการขายหุ้นของกระทรวงการคลังก็ไม่ต้องมาขอมติครม.ก่อน สามารถขายได้เลย เพราะครม.อนุญาตแล้วเนื่องจากให้พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจโดยเด็ดขาด ซึ่งหมายความว่า ไม่เป็นเยื่อใยอะไรกันอีกต่อไป
สำหรับการเสนอรายชื่อผู้จัดทำแผนนั้น โดยนิตินัยไม่ต้องเสนอผ่านนายกฯ แต่โดยพฤตินัยกระทรวงการคลัง ก็ยังถือหุ้นใหญ่ในการบินไทย ต่อจากนี้ไปครม.หรือนายกฯ จะมีอะไรก็เป็นการสั่งกระทรวงการคลัง ไม่ใช่สั่งการบินไทยอีกต่อไป
3 เดือนต้องได้ผู้บริหารแผน
เมื่อถามว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกนานหรือไม่ กว่าจะไปถึงขั้นตอนการได้บุคคลที่จะเข้ามาบริหารแผนฟื้นฟูการบินไทย นายวิษณุ กล่าวว่า ใช้เวลานานไม่ได้อยู่แล้ว ประมาณ 3 เดือนจะต้องได้ผู้บริหารแผนฟื้นฟู ซึ่งอาจจะเร็วกว่า 3 เดือนก็ได้ เมื่อเข้าสู่คดีล้มละลายก็เป็นเรื่องระหว่างศาลกับเจ้าหนี้ บางครั้งอาจเป็นลูกหนี้ด้วย เบื้องต้นลูกหนี้ต้องไปจัดทำแผน และนำมาให้เจ้าหนี้ดูว่ายอมรับหรือไม่ ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมรับก็ล้ม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับ ก็ส่งให้ศาล ถ้าศาลยอมรับก็เดินหน้า แต่ถ้าศาลไม่ยอมรับก็ล้ม
อย่างไรก็ตาม นายกฯในฐานะถืออำนาจฝ่ายผู้ถือหุ้นใหญ่ คือกระทรวงการคลัง นายกฯ จะเอารายชื่อผู้จัดทำแผนตามที่บอร์ดการบินไทยใหม่เสนอหรือไม่ เป็นเรื่องที่บอกกระทรวงการคลังไปก็ต้องทำตาม และขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ด้วย
ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน กล่าวถึงเรื่องการฟื้นฟูการบินไทย ตามแนวทางกฎหมายล้มละลาย ว่า ข้อดีคือยังสามารถคุ้มครองให้ทำงานได้อยู่ และศาลก็ดูแล ธุรกิจเดินต่อได้ มีการตัดหนี้ ลดหนี้ ดำเนินมาตรการ ซึ่งเสียหายนิดหน่อยแต่ธุรกิจไปได้ต่อ.